ตำนานเมนบอร์ด ABIT : จากผู้บุกเบิกการโอเวอร์คล็อก สู่ตำนานที่เลือนหาย
ในโลกฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ ถ้าเราพูดถึง “เมนบอร์ดระดับตำนาน” หนึ่งในชื่อที่คนรุ่นเก๋าต้องนึกถึงทันทีคือ ABIT ผู้ผลิตจากไต้หวันที่ถือว่าเป็น “เพื่อนแท้ของนักโอเวอร์คล็อก” และเป็นแบรนด์ที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการ PC Gaming มาจนถึงทุกวันนี้
จุดเริ่มต้นของตำนาน
ABIT (อะบิท) ก่อตั้งในปี 1989 ที่ไทเป ประเทศไต้หวัน ช่วงเวลานั้นตลาดเมนบอร์ดยังเป็นโลกของผู้ผลิตยักษ์ใหญ่ไม่กี่เจ้า แต่ ABIT เลือกจะ “แตกต่าง” ด้วยการจับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการ ประสิทธิภาพและการปรับแต่งสูงสุด ซึ่งในยุคนั้นยังถือว่าเป็นตลาดเล็กมาก
แทนที่จะทำเมนบอร์ดทั่วไปสำหรับออฟฟิศ ABIT หันไปหากลุ่มคนที่หลงใหลการดันเครื่องให้ “แรงเกินสเปก” หรือที่เรารู้จักกันว่า โอเวอร์คล็อก
SoftMenu BIOS – นวัตกรรมที่เปลี่ยนโลก
สิ่งที่ทำให้ ABIT ดังเป็นพลุแตกคือ SoftMenu BIOS ฟีเจอร์ที่อนุญาตให้ผู้ใช้ปรับค่าบัส (FSB), ตัวคูณ (Multiplier) และแรงดันไฟ (Voltage) ได้จาก BIOS โดยตรง
ก่อนหน้านี้ ใครที่อยากโอเวอร์คล็อกต้องใช้วิธีเปลี่ยนจั๊มเปอร์หรือ DIP Switch บนเมนบอร์ด ยุ่งยากและเสี่ยงพัง แต่ ABIT ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น แค่เข้า BIOS → เลือกค่า → บันทึก → รีบูต เท่านี้ก็แรงกว่าเดิม
นี่คือก้าวสำคัญที่ทำให้การโอเวอร์คล็อก กลายเป็นเรื่องสำหรับทุกคน ไม่ใช่แค่ “นักโมดิฟายหัวก้าวหน้า” อีกต่อไป
เมนบอร์ดในตำนาน
ABIT มีเมนบอร์ดหลายรุ่นที่ยังถูกพูดถึงจนถึงปัจจุบัน
-
ABIT BH6 (1998)
รุ่นที่ทำให้ CPU Intel Celeron 300A กลายเป็นตำนานโอเวอร์คล็อก จาก 300 MHz ดันไปได้ถึง 450 MHz อย่างเสถียร บอร์ดนี้ถูกพูดถึงในทุกเว็บบอร์ดไอทีทั่วโลก -
ABIT BP6 (1999)
ตำนานที่ “ห่าม” ที่สุด ABIT ทำบอร์ดนี้ให้สามารถใส่ CPU Intel Celeron ได้ 2 ตัว ทำงานแบบ Dual Processor ทั้งที่ Intel ไม่เคยออกแบบมาให้รองรับ! ทำให้ BP6 เป็นเมนบอร์ดแรกที่ทำให้ “คนธรรมดา” ได้ใช้ระบบสองซีพียู -
ABIT NF7-S (2002)
ขวัญใจชาว AMD Athlon XP รุ่นนี้ใช้ชิปเซ็ต nForce2 และเป็นเมนบอร์ดที่ทำให้ AMD โดดเด่นในยุคที่ Intel ครองตลาด
นอกจากนี้ยังมีรุ่นอย่าง IC7-Max3 ที่มาพร้อม OTES Cooling (ชุดระบายความร้อนภาคจ่ายไฟด้วยฮีทไปป์และพัดลม) ซึ่งถือว่าโหดสุดขีดในยุคนั้น
ยุคทองของ ABIT
ในช่วงปี 1998–2004 ABIT ถูกยกให้เป็น สุดยอดเมนบอร์ดสายเกมเมอร์และโอเวอร์คล็อกเกอร์ ผู้ใช้ทั่วโลกต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “ถ้าอยากแรง ต้องเลือก ABIT”
ABIT ยังเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกการตลาดสาย Gaming/OC ที่ต่อมาเราเห็นในแบรนด์ดังอย่าง ASUS ROG, MSI Gaming, Gigabyte AORUS เรียกได้ว่า ABIT ปูทางไว้ให้หมดแล้ว
การร่วงโรยและจุดจบ
แต่ความรุ่งเรืองก็มาพร้อมปัญหา
-
Capacitor Plague – ช่วงต้นยุค 2000s วงการเมนบอร์ดเจอปัญหาตัวเก็บประจุ (Capacitor) เสื่อมและระเบิดง่าย ABIT เป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับผลกระทบหนัก ทำให้ชื่อเสียงเรื่องคุณภาพเริ่มสั่นคลอน
-
การแข่งขันดุเดือด – คู่แข่งอย่าง ASUS, MSI, Gigabyte พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่ ABIT ไม่สามารถรักษาจุดขายเดิมได้
-
ปัญหาการเงิน – ปี 2006 ABIT ถูกซื้อกิจการโดย Universal Scientific Industrial (USI) และเปลี่ยนชื่อเป็น Universal ABIT แต่ก็ไม่สามารถฟื้นธุรกิจได้
ในปี 2008 ABIT ประกาศยุติธุรกิจเมนบอร์ด และปี 2009 ปิดบริษัทอย่างถาวร
บทสรุป
ABIT ไม่ได้เป็นเพียงผู้ผลิตเมนบอร์ด แต่คือ สัญลักษณ์ของยุคทองแห่งการโอเวอร์คล็อก
พวกเขาทำให้การดันซีพียู “เกินสเปก” กลายเป็นเรื่องสนุก ง่าย และเข้าถึงได้สำหรับทุกคน
แม้วันนี้ชื่อ ABIT จะหายไปจากตลาด แต่ในความทรงจำของเกมเมอร์รุ่นเก่า มันยังเป็นชื่อที่ทำให้หัวใจเต้นแรงทุกครั้งที่เอ่ยถึง
ABIT อาจล่มสลาย แต่ตำนานจะไม่มีวันตาย
มรดกที่ ABIT ทิ้งไว้
แม้ ABIT จะหายไปแล้ว แต่สิ่งที่พวกเขาทำยังคงอยู่จนถึงปัจจุบัน
-
BIOS แบบปรับแต่งได้ง่าย → กลายเป็นมาตรฐานในวงการ
-
การโฟกัสเกมเมอร์/โอเวอร์คล็อก → วางรากฐานให้ซีรีส์อย่าง ROG, AORUS, TUF, Gaming Pro
-
ความกล้าในการทดลอง เช่น BP6 → แสดงให้เห็นว่าแบรนด์เล็กก็สามารถเขย่าวงการได้
ABIT ถึงเป็นแบรนด์ไต้หวัน แต่มี R&D ที่เมืองซูโจว (Suzhou) ประเทศจีน เมืองนี้สวยงามมาก
ในสายการผลิต NF7 ที่เป็นอีกหนึ่งในตำนานจาก ABIT
ในสายการผลิตที่สมัยนั้นยังดูบ้านๆ ถ้าเทียบกับสมัยนี้
การติดฉลากและป้ายซิลิโคนระบายความร้อน หน้าที่คนเดียวกับ
การทดสอบคุณภาพของเมนบอร์ดในสายการผลิต
ถ้ามองชื่อชั้นในยุคที่ ABIT ได้รับการจับตามองมาก ถ้าเมนบอร์ดที่ดีในสมัยนี้ต้อง PCB สีดำ แต่ ABIT สร้างกระแสกับสีแดง-ส้ม ที่มีความเป็น ABIT อย่างมาก -
ภาพจากงาน ACON4 ในปี 2004 ภาพนี้ไม่มีอะไรมาก นึกถึงแฟนที่ใช้เมนบอร์ด IC7-MAX3
Pentium 4 ในกล่องที่ขายในจีนสมัยนั้น ไม่มีความแตกต่างกับตัว global หรือ ที่ขายทั่วโลก
ในยุคนั้น งานแข่งเกมในระดับโลก ACON เป็นอีกหนึ่งที่ได้รับการยอมรับ
บอกตามตรงครับ ไม่รู้จักใครทั้งนั้น
รู้จักอยู่หนึ่งคน โจนาธาน เวนเดล หรือที่รู้จักกันในชื่อ Fatal1ty (ออกเสียงว่า "Fatality") ในภาพคนที่ใส่กางเกงลายพรางสีแดง
ABIT AV8
ชิพเซ็ต VIA ที่ลากแบบโหดมากไม่ดี แต่ก็ลากได้
ในสมัยนั้นสายการเชื่อมต่อที่เน้นการใช้งาน ถ้าจะแต่งเคส หรือ เก็บสายในดูเรียบร้อย ต้องลงมือทำเอง
ดูคลาสสิก ย้อนวัยความเป็น ABIT ในยุคนั้น