เมื่อตั้งแต่ที่ มอก.166-2549 มีการบังคับใช้ อุปกรณ์ใช้ไฟฟ้า ที่เต้าเสียบสองขาได้มีการเปลี่ยนมาใช้ Type C หรือ Euro Plug อย่างในภาพข้างขวา ที่เราจะพบได้กับที่ชาร์จสมาร์ทโฟน ,พาวเวอร์ซัพพลายของอุปกรณ์ใช้ไฟฟ้า โดยตามหลัก Type C หรือ Euro Plug สามารถเสียบกับเต้ารับ Type O ได้ แต่ มันจะมีช่องว่าง ทำให้เกิดอาการหลวม หรือ เสียบปลั๊กไม่แน่นได้ ที่ตามมาตรฐาน Type O โดยขามีพื้นที่หน้าตัด 4.8 มม. ตามภาพข้างซ้าย ส่วนภาพข้างขวา Type C ขามีพื้นที่หน้าตัด 4 มม. ที่แตกต่างกันเกือบ 1 มม. 



เต้ารับตามมาตรฐาน มอก.166-2549 ที่จะมีเงื่อนไขการออกแบบของมัน มาตรฐานประเทศเดียวในโลก ที่เกิดจากการค่อยๆปรับเปลี่ยนจากขาแบนมาเป็นขากลม เพื่อให้มีความเหมาะสมกับการใช้งานแรงดัน 220v ในประเทศไทย โดยที่ทำให้อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ปลั๊กมาตรฐานอื่น เช่นแบบขาแบนสามารถปองดองยังใช้งานได้อยู่ร่วมกับเต้ารับแบบ Hybrid ที่ได้รับความนิยมในการใช้งานตามบ้านและปลั๊กพ่วง 



เต้าเสียบ Type O ที่เราเห็นได้ว่ามันมีความแน่น เสียบได้พอดีกับเต้ารับ



เต้าเสียบมาตรฐาน มอก.166-2549 โดยที่ Type O เสียบได้แน่น ดึงเบาๆ ปลั๊กไม่หลุดออกมาได้ง่าย 



เต้าเสียบ Type C หรือ Euro Plug เข้ากับเต้าเสียบมาตรฐาน มอก.166-2549 เราจะเห็นได้ว่าเสียบไปเหมือนเสียบไม่แน่น ถ้าพวกที่ชาร์ตสมาร์ทโฟน มันอาจเกิดอาการที่ชาร์จหลุดได้ 



ขยับนิดเดียวก็หลุด ยึ่งดัดขา ยิ่งไปกันใหญ่ บางทีต้องเสียบลอยถึงไฟเข้าก็มี 



ถ้าเสียบกับเต้ารับที่กำแพงจะเกิดอาการห้อยถึงขึ้นต้องใช้เชือกรัดไว้ให้อยู่ 

 

ในส่วนมิติของเต้าเสียบ Type O แบบ 2 ขา ที่ขามีพื้นที่หน้าตัด 4.8 มม. เทียบกับ Type C หรือ Euro Plug ที่ขามีพื้นที่หน้าตัด 4 มม. ห่างกันไม่มาก แต่เกือบ 1 มม.  



คงต้องใช้วิธีการที่เก่าแก่ด้วยเช่นกัน ทำมาตั้งแต่สมัยเรียนประถม คือแปลงเป็นหัวปลั๊ก US หรือ Type-A หมดปัญหาเรื่องอาการหลวม 



หัวปลัก Europlug ในแบบ Type C คงต้องใช้หัวแปลงเป็น Type A ช่วยต่อไป สมัยก่อนไปบ้านหม้อซื้อหัวแปลงมาตุนไว้เยอะมาก ทุกวันนี้ยังใช้ไม่หมด ฮ่าๆ