ภายหลังจากที่มีรายงานว่า ผู้ผลิตชิปหน่วยความจำ DRAM รายใหญ่ของเกาหลีใต้ปรับขึ้นราคาแรงถึง 30% ตลาดหน่วยความจำของจีนก็เริ่มเผชิญแรงกดดันอย่างหนัก รายงานจาก Commercial Times โดยอ้างอิง Cailian Press ระบุว่า ผู้ผลิตบางรายถึงขั้นหยุดการเสนอราคา (halt quotations) สำหรับผลิตภัณฑ์ DRAM และ NAND flash บางรุ่น และแม้จะมีการเสนอราคา ก็มีอายุการใช้งานสั้นมากจนเรียกได้ว่าเป็น “ราคาที่เปลี่ยนทุกวัน”
ตามรายงานของ Cailian ความกดดันด้านราคานี้ลามไปถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการเทคโนโลยี โดย Lei Jun ผู้ก่อตั้ง Xiaomi ยังออกมายอมรับผ่าน Weibo เมื่อวันที่ 24 ตุลาคมว่า “ราคาหน่วยความจำพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา”
สถานการณ์นี้เห็นได้ชัดทั่วทั้งตลาด ผู้ผลิตโมดูลหน่วยความจำหลายรายในจีนให้ข้อมูลกับ Cailian Press ว่า ราคาชิป DDR4 จากโรงงานผู้ผลิตปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี ข้อมูลจากแอป Manmanbuy ยังสะท้อนแนวโน้มนี้ โดยรายงานว่า หน่วยความจำเดสก์ท็อป Kingston DDR4 ที่เริ่มขึ้นราคาตั้งแต่เดือนมีนาคม ตอนนี้ มีราคาสูงกว่าปีก่อนหน้าเกินสองเท่าแล้ว
แนวโน้มขึ้นราคายังไม่จบ
จากบริบทตลาด TrendForce อธิบายว่า เนื่องจาก HBM (High Bandwidth Memory) ใช้กำลังการผลิตเวเฟอร์มากกว่า DRAM มาตรฐานถึงสามเท่า บรรดาผู้ผลิตรายใหญ่จึงหันไปให้ความสำคัญกับการผลิต HBM และ DDR5 ที่มีอัตรากำไรสูงกว่า ส่งผลให้ อุปทานของ DDR4 และ LPDDR4X ซึ่งใช้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วไป หดตัวอย่างหนัก
TrendForce (อ้างโดย Cailian Press) คาดว่า ภาวะขาดแคลน DDR4 จะยืดเยื้อไปจนถึงครึ่งแรกของปี 2026 และราคาเฉลี่ยของ DRAM ทุกกลุ่ม (รวมถึง HBM) จะ เพิ่มขึ้นอีก 13–18% แบบไตรมาสต่อไตรมาส (QoQ) ในไตรมาส 4 ปีนี้
ความต้องการจาก AI + ขีดจำกัดกำลังการผลิต = วงจรพุ่งราคาที่ยืดเยื้อ
รายงานของ Cailian Press ระบุว่า วงการหน่วยความจำมีลักษณะ “วัฏจักรราคา” คือมักขึ้นแรงแล้วลงแรง แต่ปีนี้กลับต่างออกไป — เพราะราคาชิปหน่วยความจำ พุ่งต่อเนื่องมานานกว่า 6 เดือน และยังไม่มีทีท่าจะชะลอตัวในไตรมาส 4 เนื่องจากมีหลายปัจจัยซ้อนทับกัน
TrendForce แยกปัจจัยการขึ้นราคาออกเป็นสองช่วงสำคัญ:
-
Q2–Q3 ปี 2025: ราคาขึ้นจากการประกาศ ยุติการผลิต DDR4 (EOL) และการ กักตุนล่วงหน้า ท่ามกลางความตึงเครียดทางภาษีระหว่างสหรัฐฯ–จีน
-
Q4 2025 ถึง H1 2026: จะขึ้นต่อเนื่อง เพราะ ดาต้าเซ็นเตอร์ในอเมริกาเหนือเร่งลงทุนเซิร์ฟเวอร์ AI ส่งผลให้ความต้องการ DDR5 RDIMM, LPDDR5X และ HBM พุ่งสูงขึ้น
เมื่อความต้องการเพิ่มเร็วแต่การขยายกำลังการผลิตล่าช้า TrendForce เตือนว่า ภาวะขาดแคลนสินค้ากลุ่ม mature-node จะรุนแรงขึ้นอีกในปีหน้า
ในฝั่งผู้ผลิตภายในจีน Cailian Press (อ้าง TrendForce) รายงานว่า ตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ตลาดได้เข้าสู่ “รอบขึ้นราคาใหม่” แล้ว ผู้ผลิตชิปหลายราย มีกำไรเติบโตอย่างมาก ขณะที่ผู้ผลิตโมดูลหน่วยความจำก็ เร่งกักตุนชิปและเวเฟอร์ เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านราคาในอนาคต
โดยสรุป — วงการหน่วยความจำทั่วโลกกำลังเผชิญ “คลื่นขาขึ้น” ครั้งใหญ่ ทั้งจาก ดีมานด์ฝั่ง AI และ โครงสร้างการผลิตที่ไม่เพียงพอ ซึ่งอาจทำให้ “ชิปแรมแพงขึ้นอีกยาว” ไปถึงปี 2026 เลยทีเดียว.
ที่มา: TrendForce



