Mi เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ช่วงนี้ค่อนข้างมาแรงครับ ถ้าจำกันได้ช่วงสัปดาห์ก่อนแบรนด์ลูกอย่าง Redmi Note 7 มือถือระดับกลางราคาประหยัดก็ทำเอาวงการมือถือฮืฮากันไปแล้ว ในครั้งนี้ OverclockZone ได้มีโอกาสเข้าร่วมสมผัสจริงกับอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนสเปคเทพราคาโดนใจที่ทุกคนรอคอย “Mi9” นั่นเอง ไม่รอช้าครับเรามาแกะกล่องดูกันเลย
ตัวกล่องจะเป็นสีขาวมุกนะครับ ด้านบนมีเลข 9 ชัดเจน ดูหรูหราทีเดียว สมกับเป็นตัวท็อปของแบรนด์
เมื่อแกะดูด้านในกล่องจะพบกับอุปกรณ์ตามนี้เลยครับ ได้แก่ ตัว Mi9, เคสยาง, สาย Type-C to Audio, สายชาร์จ Type-C, หัวปลั๊ก 5V-2.5A / 9V-2A / 12V-1.5A จากอุปกรณ์คงรู้กันแล้วนะครับว่า Mi9 ไม่มีช่องหูฟัง 3.5 มม. มาให้ และภายในกล่องจะไม่มีหูฟังมาให้ครับ อีกอย่างคือเข็มจิ้ม Sim มีมาให้นะครับแต่ลืมถ่าย
ตัวเครื่องโดยรอบในครั้งนี้เราได้สีดำ Piano Black มาลองเล่นนะครับ สังเกตว่าบริเวณฝาหลังจะมีเงาแสงชัดเจน เนื่องจากการออกแบบมีความโค้งมนแบบ 2.5D นั่นเอง สำหรับวัสดุเลือกใช้ Gorilla Glass 5 ครับ
เข้ามาดูใกล้ๆ ตำแหน่งของกล้อง Triple Camera ถูกวางไว้ที่มุมซ้ายบนของฝาหลังนะครับ ส่วนวงๆที่อยู่รอบเลนส์นั้นจะมีการไล่เฉดแบบ Holographic Spectrum เป็นลูกเล่นเล็กๆน้อยที่ Mi ใส่เข้ามาในครั้งนี้
ด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่ม เพิ่ม-ลด เสียงและปุ่ม Power ส่วนซ้ายขวาจะพบกับถาดใส่ซิมและอีกอีกหนึ่งปุ่ม หากใครกำลังสงสัยว่าให้มาทำไมต้องบอกว่าปุ่มนี้เป็นปุ่มลัดที่เรียกใช้งาน Google Assistant หรือ จะเปลี่ยนไปใช้งานอย่างอื่นก็สามารถตั้งค่าได้
พลิกกลับมาดูที่ด้านล่างจะพบกับพอร์ต Type-C และตำแหน่งของลำโพง สำหรับตัวนี้เป็นการกลับมาของ infrared ir blaster ที่ก่อนหน้านี้ Mi8 ได้เอาออกไป โดยตำแหน่งของ infrared ir blaster วางไว้ด้านบนของตัวเครื่อง
สเปคสำหรับ Mi9 นะครับ
- Snapdragon 855 / Kyro 485 CPU
- Adreno 640
- - Ram6 Rom128
- ตัวนี้เป็นสมาร์ทโฟนกล้อง 3 ตัว มี AI 12MP (Telephoto, 1.0 ไมครอน f 2.2) / 48MP (Wide Angle, Sony IMX586, f 1.75, 1.6 ไมครอน, 4 in 1 Super Pixel) / 16MP (Ultra Wide Angle, 1.0 ไมครอน, f 2.2, กว้าง 117 องศา
- กล้องหน้า 20MP f 2.0, 0.9 ไมครอน มี AI
- จอ 6.39 นิ้ว สัดส่วน 19:5:9 FHD+ จระจก 2.5 D
- สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
- กระจกโค้งรอบตัวนะสำหรับ Mi9 ใช้วัสดุ Gorrilla Glass 5
- แบตเตอรี่ 3300 mAh มาพร้อมที่ชาร์จ 18W (รองรับการชาร์จไร้สาย 20W แต่ต้องซื้อแยกน๊ะจ๊ะ) ให้แบตมาน้อยก็จริงแต่ ชิพ 7 นาโนเมตร ทำให้การจัดการพลังงานทำได้ดีขึ้น (เขาว่ามางี้)
- พอร์ต Type C
- วางจำหน่าย 2 สี Piano Black และ Ocean Blue ที่ไล่สีแบบ Holographic Spectrum มองต่างมุมเห็นเฉดสีแบบต่างกัน
- มีเกมเทอร์โบ สำหรับคอเกม ที่พัฒนาร่วมกับ Qualcomm ด้วย
- รับประกัน 15 เดือน ยาวไปๆ
ในส่วนของกล้องนั้น ด้วยความที่เป็น Triple Camera เลยขอลองของแบบด่วนๆกันสักหน่อย(จำกัดเวลาจับเครื่อง 15 นาที) ดังนั้นขอออกตัวก่อนนะครับว่าภาพที่ได้อาจจะไม่สวยงามมากนัก
เริ่มกันที่กล้อง 3 ตัวกันก่อน ครั้งนี้เราทดลองถ่ายภาพในอาคาร สภาพแสงมาจากไฟดาวไลท์ออกโทนเหลืองๆ ไม่สว่างมากนะครับ และนี่คือภาพที่ได้
ภาพแรกเป็นการถ่ายด้วยระยะเลนส์ปกติครับ
ภาพที่สองเป็นการถ่ายแบบ Super Wide
ภาพที่สามเป็นการถ่ายแบบ Macro (ซูมสุดๆนั่นแหละ)
โดยทั้งสามภาพนี้ใช้โหมด Auto ทั้งหมดนะครับ โดยรวมถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียว อาจจะมีอาการเวอร์ของแสงไปบ้าง นั่นอาจเพราะ AI ทำงานในระยะที่สามารถตรวจจับได้
ใครที่ชื่นชอบการถ่ายรูป Prtrait เราก็ได้ลองมาแล้วทั้งกล้องหน้าและก็กล้องหลังนะครับ ปรับให้ละลายได้สูงสุดที่ f 1.0 จะปรับตอนถ่ายเลย หรือเลือกปรับหลังถ่ายก้สามารถทำได้เช่นเดียวกัน
อีกเรื่องหนึ่งที่ได้ลองเล่นแล้วรู้สึกว่าทำได้ดีคือการถ่ายภาพในที่แสงน้อยนะครับ เพราะสามารถแสดงรายละเอียดในจุดที่มีแสงน้อยออกมาได้ดี(สำหรับภาพการทดสอบรอติดตามในรีวิวเร็วๆนี้ที่ OverclockZone ครับ)
บทความนี้ตั้งใจจะมาแกะกล่องเป็นเรื่องหลักนะครับแต่เพื่อไม่ให้เสียเที่ยวเลยลองกล้องมานิดๆหน่อยให้ได้ชมกัน ก็ถือว่า Mi9 เป็นมือถือสเปคแรงอีกตัวหนึ่งที่มาพร้อมราคาสบายๆ ประโยชน์ก็ตกไปที่ผู้บริโภคนะครับที่ถือว่ามีตัวเลือกที่น่าสนใจเพิ่มอีกหนึ่งค่าย