เมื่อผู้ผลิตชิปหน่วยความจำรายใหญ่ทั่วโลกยังคงปรับขึ้นราคาอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลาง “รอบขาขึ้นของตลาดหน่วยความจำ (Memory Supercycle)” ที่เกิดจากภาวะขาดแคลนสินค้ารุ่นเก่าอย่าง DDR4 ห่วงโซ่อุปทานสมาร์ตโฟนของจีนจึงเริ่มสั่นสะเทือนอย่างหนัก
ตามรายงานของ Commercial Times ที่อ้างแหล่งข่าวจากผู้ผลิตสมาร์ตโฟน ระบุว่า ระยะเวลาการส่งมอบ DRAM และ NAND ยืดออกไปอย่างมาก โดยเฉพาะ LPDDR5X ที่ต้องรอนานถึง 26–39 สัปดาห์ หมายความว่าคำสั่งซื้อในตอนนี้อาจต้องรอถึง กลางปี 2026 กว่าจะได้รับของ
แนวโน้มราคาที่พุ่งขึ้นยังไม่มีท่าทีจะหยุด ทำให้ทั้งผู้ผลิตชิปประมวลผลและแบรนด์สมาร์ตโฟนต้องเผชิญแรงกดดันด้านต้นทุน โดยนักวิเคราะห์เตือนว่า MediaTek อาจเป็นรายแรกที่ได้รับผลกระทบจากกำไรที่หดตัว ขณะที่ EE Times China รายงานว่า Xiaomi เริ่มปรับขึ้นราคาสมาร์ตโฟนแล้วเพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์ดังกล่าว
MediaTek เจอแรงบีบจากต้นทุนหน่วยความจำ
Commercial Times ระบุว่า อัตรากำไรของชิปสมาร์ตโฟนจาก MediaTek อาจเริ่มถูกกดดันตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2025 เนื่องจากต้นทุนหน่วยความจำและค่าผลิต (foundry cost) ที่เพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งเมื่ออุตสาหกรรมก้าวสู่กระบวนการผลิตระดับ 2nm ในปี 2026 แม้ประสิทธิภาพจะดีขึ้น แต่ต้นทุนต่อเวเฟอร์ก็จะพุ่งตามไปด้วย
รายงานยังชี้ว่า สมาร์ตโฟนทั่วไปในตลาดตอนนี้มักมาพร้อม แรม 12GB เป็นมาตรฐาน และรุ่นเรือธงยิ่งมีหน่วยความจำมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อชดเชยต้นทุน ผู้ผลิต SoC จึงได้ปรับขึ้นราคาขายเฉลี่ย (ASP) แล้ว ซึ่งหมายความว่า “ราคาสมาร์ตโฟนจะยังคงขยับสูงขึ้นต่อไป”
Xiaomi รู้สึกร้อนแรงจากต้นทุนหน่วยความจำพุ่ง
EE Times China รายงานว่า เมื่อเปิดตัว Redmi K90 เมื่อวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา ราคาขยับขึ้น 300–600 หยวน จากรุ่นก่อน และเกิดความแตกต่างถึง 600 หยวน ระหว่างรุ่นที่มี RAM เท่ากันแต่ความจุสตอเรจต่างกัน
รุ่น 12GB + 256GB ตั้งราคาไว้ที่ 2,599 หยวน ส่วนรุ่น 12GB + 512GB อยู่ที่ 3,199 หยวน — เพิ่มขึ้นถึง 600 หยวนเพียงเพราะเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลอีก 256GB
ผู้ก่อตั้ง Lei Jun ออกมายอมรับบน Weibo ว่า “ต้นทุนหน่วยความจำที่พุ่งขึ้นในช่วงนี้ถือว่าหนักมาก” จึงได้ปรับลดราคาชั่วคราวของรุ่น 12GB+512GB ลง 300 หยวน เหลือ 2,899 หยวน ในช่วงโปรโมชั่นเดือนแรก
ด้าน Lu Weibing ประธานของ Xiaomi กล่าวเสริมว่า แรงกดดันด้านต้นทุนจากซัพพลายเออร์ต้นน้ำได้ส่งผลโดยตรงต่อราคาสินค้าใหม่ และเป็นสิ่งที่บริษัทไม่สามารถควบคุมได้ เพราะราคาหน่วยความจำ “สูงเกินคาดและยังคงพุ่งต่อเนื่อง”
สมาร์ตโฟนระดับกลางและล่างได้รับผลกระทบหนัก
รายงานยังระบุว่า ซัพพลายเออร์หน่วยความจำรายใหญ่ทั้ง Samsung, SK hynix และ Micron มีแผนจะขึ้นราคาเพิ่มเติมสูงสุด 30% ในไตรมาส 4 ซึ่งทำให้หลายแบรนด์ต้องขยับราคาตาม เช่น
-
vivo X300 series ขึ้นราคา 100–300 หยวน
-
OPPO Find X9 เพิ่มขึ้น 200–300 หยวน
-
Realme GT8 ขยับขึ้น 300–500 หยวน
-
iQOO 15 series เริ่มต้นจาก 3,999 หยวน เป็น 4,199 หยวน (เพิ่มราว 5%)
แหล่งข่าวในอุตสาหกรรมเสริมว่า สมาร์ตโฟนระดับกลางและล่างจะได้รับผลกระทบหนักที่สุด เพราะราคาของหน้าจอและหน่วยความจำเป็นสัดส่วนต้นทุนหลัก ซึ่งหมายความว่าการปรับขึ้นราคาครั้งนี้จะส่งผลยาวไปถึงรอบชีวิตของสินค้า ทั้งในช่วงเปิดตัวและช่วงโปรโมชันใหญ่ เช่น ดับเบิล 11 อีกด้วย
ที่มา: TrendForce



