ผมคิดว่าหลายคนน่าจะรู้สึกผิดหวังกันไม่น้อยกับวิธีที่ AMD เปิดตัวเทคโนโลยี FSR Redstone ที่ถูกโปรโมตมานาน เพราะตรงกันข้ามกับที่บริษัทเคยบอกไว้—ไม่มีงานแถลงข่าวใด ๆ เกิดขึ้นเลย แถมบริษัทยังไม่ได้เปิดให้สื่อทดลองเทคโนโลยีก่อนวันเปิดตัวด้วย
ที่สำคัญ Redstone ยังไม่ได้เปิดตัวแบบเต็มแพ็กด้วย เพราะมีเพียง 1 เทคโนโลยีจากทั้งหมด 4 ส่วนในสแต็กเต็ม และยังถูกใช้งานเพียงแค่ในเกมเดียว เราก็ยังไม่รู้ว่าแผนจริง ๆ ของ AMD คืออะไรกันแน่ Call of Duty ถูกตั้งใจให้เป็นเกมเอ็กซ์คลูซีฟหรือไม่? หรือ AMD แค่อยากปล่อยเทคโนโลยีออกมาให้ทันกำหนดที่สัญญาไว้ว่าจะเปิดตัวก่อนสิ้นปี?
ในขณะเดียวกัน เว็บไซต์ ComputerBase ได้ทดสอบ FSR Ray Regeneration ของ AMD ในเกม Call of Duty: Black Ops 7 และเปรียบเทียบโดยตรงกับ NVIDIA DLSS Ray Reconstruction ฟีเจอร์นี้เป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรม FSR Redstone แต่ในเกมนี้มันมาแบบเดี่ยว ๆ โดย Super Resolution ยังใช้ FSR 4 และ Frame Generation ใช้ FSR 3.1.5 AMD ไม่ได้ให้ข้อมูลใด ๆ กับสื่อก่อนเปิดตัว ดังนั้นอย่างที่ทีมบรรณาธิการเขียนไว้ว่า “ข้อมูลทั้งหมดในบทความนี้เป็นการค้นคว้าเองทั้งหมด; AMD ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นแม้จะถูกถามก็ตาม” ซึ่งปกติแล้วเรื่องแบบนี้ไม่ใช่สัญญาณที่ดีเท่าไร นอกจากนี้ไฟล์ denoiser DLL ในเกมยังระบุว่าเป็นเวอร์ชัน 0.9.0.0 ยิ่งย้ำชัดว่ามันยังไม่ใช่เวอร์ชันที่ขัดเกลาเสร็จสมบูรณ์
การทดสอบทำที่ความละเอียด 2560×1440 ใช้ FSR 4 โหมด Quality พร้อมตั้งค่ากราฟิกระดับสูงสุด รวมถึง Ray-Traced Reflections ด้วย Ray Tracing ใน Black Ops 7 ใช้ได้เฉพาะโหมด Multiplayer และผู้เล่นสามารถเลือกได้ระหว่างตัว denoiser ของเกม, FSR Ray Regeneration หรือ DLSS Ray Reconstruction สำหรับการ์ด GeForce ใช้ฮาร์ดแวร์ Radeon RX 9070 XT เทียบกับ GeForce RTX 5070 Ti ซึ่งมีประสิทธิภาพโดยรวมใกล้เคียงกัน
เมื่อเทียบกับ denoiser ของตัวเกม FSR Ray Regeneration ถือว่าอัปเกรดคุณภาพขึ้นชัดเจนในหลายฉาก สะท้อนแสง (reflections) เก็บรายละเอียดได้มากขึ้นเวลามีการเคลื่อนไหว และ AI denoiser ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของภาพได้เร็วกว่าแบบเดิม อย่างไรก็ตาม ComputerBase บอกว่านี่เป็น “ผลลัพธ์ที่หลากหลาย” และ “คุณภาพขึ้นอยู่กับสถานการณ์มากและมีโอกาสเกิดข้อผิดพลาดสูง” ในหลายฉาก FSR RR ทำให้เกิดอาร์ติแฟกต์แบบไหลวนหรือภาพสั่นในส่วนของ reflections และถ้า denoiser ของเกมเบลอหรือมีปัญหาอยู่แล้ว การเปิด FSR RR อาจเปลี่ยนจากความเบลอเป็นภาพที่คมขึ้นแต่ไม่เสถียร ซึ่งอาจทำให้เสียสมาธิจากการเล่นเกมได้
เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีของ NVIDIA ทาง ComputerBase ระบุว่า AI denoiser ทั้งคู่มีพฤติกรรมแบบ "คลื่นไหว" เล็กน้อยใน reflections แต่ของ NVIDIA จะคงความละเอียดอ่อนกว่า ส่วนของ AMD มักจะหนักจนสังเกตได้ชัดเจน ในบางฉาก DLSS RR ฟื้นฟูรายละเอียดได้มากกว่า แต่บางฉาก FSR RR ก็ทำได้ดีกว่า และผลที่ได้ยังอาจเปลี่ยนไปตามมุมมองแบบภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหว อย่างไรก็ตาม ComputerBase สรุปว่า “FSR Ray Regeneration ยังสู้ DLSS Ray Reconstruction ไม่ได้ อย่างน้อยก็ใน Black Ops 7” เพราะ “ภาพจาก DLSS RR มีความเสถียรกว่ามาก” และความเสถียรนี่แหละคือปัจจัยชี้ขาด แม้บางครั้ง AMD จะให้ภาพที่คมกว่าในบางช่วงก็ตาม
ด้านประสิทธิภาพเรียกได้ว่าแทบไม่ใช่ประเด็นเลย ทั้งสองค่ายแทบไม่ทำให้เฟรมเรตตกมากนัก บน Radeon RX 9070 XT เมื่อเปลี่ยนจาก denoiser ของเกมเป็น FSR Ray Regeneration ค่าเฉลี่ย FPS ลดลงจาก 74.5 เหลือ 72.0 หรือราว 3% ส่วนบน GeForce RTX 5070 Ti เมื่อใช้ DLSS Ray Reconstruction ค่าเฉลี่ย FPS ลดจาก 61.0 เหลือ 59.9 หรือราว 2% ค่า 1st percentile ก็ให้ผลใกล้เคียงกัน ความแตกต่างเหล่านี้วัดได้แต่แทบไม่รู้สึกในการเล่นจริง
สรุปตอนนี้คงยังเร็วเกินไปที่จะฟันธง แต่สิ่งที่ทำให้แปลกใจคือการที่ AMD ปฏิเสธตอบคำถามของ ComputerBase ทั้งหมด Jack Huynh ยังมีเวลาไปร่วมงานสัมมนาที่เน้น AI แต่ทีมของเขากลับไม่สามารถตอบคำถามพื้นฐานเกี่ยวกับฟีเจอร์เรือธงด้านกราฟิกของบริษัทได้เลย
ที่มา: ComputerBase



