เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา OpenAI ได้เปิดตัว Codex เวอร์ชัน research preview ซึ่งเป็นระบบ AI สำหรับช่วยเขียนโค้ดบนคลาวด์ (cloud-based coding agent) และหลังจากนั้นก็ได้รับการอัปเดตหลายครั้ง จนกระทั่งในเดือนกันยายน มีการเปิดตัว GPT-5-Codex รุ่นใหม่ที่ได้รับการปรับแต่งเป็นพิเศษสำหรับงาน “agentic coding” ภายในระบบ Codex ล่าสุดในงาน DevDay 2025 ที่จัดขึ้นวันนี้ OpenAI ประกาศอย่างเป็นทางการว่า Codex พร้อมให้ใช้งานทั่วไป (General Availability) แล้ว
OpenAI เปิดเผยว่า ตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ปริมาณการใช้งาน Codex ต่อวัน เพิ่มขึ้นกว่า 10 เท่า และ GPT-5-Codex ได้ประมวลผลไปแล้วกว่า 40 ล้านล้านโทเคนภายในสามสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทระบุว่า Codex ได้รับการนำไปใช้อย่างรวดเร็วในหลายขั้นตอนของกระบวนการทำงานด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์ และเพื่อยกระดับประสิทธิภาพให้มากขึ้น OpenAI จึงเปิดตัว ฟีเจอร์ใหม่ 3 รายการ ดังนี้
-
การเชื่อมต่อกับ Slack (Slack Integration)
ผู้ใช้สามารถมอบหมายงานให้ Codex ได้โดยตรงจากแชนเนลหรือเธรดแชตใน Slack เพียง แท็ก @Codex แล้วระบบจะเข้าใจบริบทของการสนทนาโดยอัตโนมัติ และดำเนินการตามคำสั่งให้เสร็จบน Codex Cloud ผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าจะรวม (merge) โค้ดที่ AI สร้างขึ้นเข้ากับโปรเจกต์จริงหรือไม่ -
GPT-5-Codex ที่พัฒนาเฉพาะสำหรับ Codex
โมเดลนี้ได้รับการฝึกฝนโดยเฉพาะสำหรับโครงสร้างของ Codex และได้ปรับแต่งให้ตัวเอเยนต์ทำงานได้เร็วขึ้นและแม่นยำยิ่งขึ้น ทั้งในส่วนของ prompt, การเรียกใช้เครื่องมือ และการวนลูปของเอเยนต์ (agent loop) -
Codex SDK
นักพัฒนาสามารถนำเอเยนต์แบบเดียวกันนี้ไปใช้ในเวิร์กโฟลว์หรือแอปของตนเองได้ง่าย ๆ ด้วยโค้ดเพียงไม่กี่บรรทัด SDK จะช่วยจัดการการตอบกลับของเอเยนต์ให้อยู่ในรูปแบบโครงสร้าง (structured outputs) และมีระบบจัดการ context ในตัวเพื่อให้สามารถ “กลับมาเริ่มต่อ” จากจุดเดิมได้ SDK พร้อมใช้งานแล้ววันนี้สำหรับ TypeScript และจะขยายไปยังภาษาอื่นในอนาคต
นอกจากนี้ ผู้ดูแลระบบ (ChatGPT Admins) ยังได้รับเครื่องมือควบคุม Codex เพิ่มเติมภายในพื้นที่ทำงานของตน เช่น การตั้งค่าความปลอดภัยเริ่มต้น การลบข้อมูลที่อ่อนไหว การจัดการสภาพแวดล้อมที่ไม่ใช้งาน และแดชบอร์ดวิเคราะห์การใช้งาน
ฟีเจอร์สองรายการแรก (Slack Integration และ SDK) เปิดให้ใช้งานแล้ววันนี้สำหรับผู้ใช้ในแพลน ChatGPT Plus, Pro, Business, Edu และ Enterprise ส่วนฟีเจอร์ใหม่ของฝั่งผู้ดูแลระบบจะเปิดให้เฉพาะใน Business, Edu และ Enterprise เท่านั้น
ที่มา: Neowin