Windows 11 กำลัง ทดสอบหน้าต่าง Run รูปแบบใหม่แบบเงียบ ๆ โดยสร้างขึ้นด้วย WinUI ซึ่งเป็นชุดเครื่องมือ UI รุ่นใหม่ของ Microsoft สำหรับพัฒนาแอปบน Windows แต่ถ้าคุณไม่ชอบเอฟเฟกต์โปร่งใสหรือแอนิเมชันหวือหวา ก็ไม่ต้องกังวล เพราะ Windows Latest ยืนยันแล้วว่า Run แบบใหม่จะเป็นตัวเลือกเสริมเท่านั้น…อย่างน้อยในตอนนี้

เดิมที Windows Run เป็นฟีเจอร์คลาสสิกแบบ Win32 ที่ไม่ใช้ UI สมัยใหม่อย่าง Acrylic, Mica, แอนิเมชันลื่น ๆ หรือการจัดวางพื้นที่ที่ดีขึ้น ซึ่ง Run เวอร์ชันใหม่ก็เข้ามาแก้จุดเหล่านี้ แต่ในขณะเดียวกัน Microsoft ก็ไม่ต้องการสร้างความไม่พอใจให้ผู้ใช้หรือผู้ดูแลระบบ จึงเลือกแนวทางที่ปลอดภัยกว่า

ดังนั้น Microsoft จึงพัฒนา Modern Windows Run ให้ทำงานควบคู่กับ Run แบบดั้งเดิม และเปิดให้ใช้งานแบบ “สมัครใจ”

หน้าตา Run แบบใหม่เป็นอย่างไร?

จากการทดสอบของ Windows Latest พบว่า Run แบบใหม่มีลักษณะเป็น แผงลอย (flyout) สไตล์ Windows 11 มากกว่าจะเป็นหน้าต่างไดอะล็อกเหมือนเดิม โดยจะเปิดเป็นการ์ดขนาดใหญ่ มุมโค้ง อยู่บริเวณด้านล่างของหน้าจอ

• รองรับทั้ง โหมดมืดและโหมดสว่าง

• ระยะห่าง องค์ประกอบ และไอคอน ให้ความรู้สึกเดียวกับ Start และ Search

• มีปุ่ม Run อยู่ด้านขวา เหมือนแนวคิดของ Run เดิม

• มี ประวัติการใช้งาน แสดงอยู่เหนือช่องพิมพ์คำสั่ง เช่น หากเคยเปิด cmd หรือ winver รายการเหล่านี้จะปรากฏพร้อมไอคอนรูปนาฬิกา

แล้วอะไรที่หายไปจาก Run แบบใหม่?

เมื่อเทียบกับ Run แบบดั้งเดิม จะพบว่ามีข้อจำกัดบางอย่าง ได้แก่

• ไม่มีแถบ Title Bar แบบคลาสสิก ทำให้ใช้พื้นที่น้อยลง

• ไม่มีปุ่ม Browse สำหรับเลือกไฟล์หรือค้นหา path โดยตรง (และยังไม่รู้ว่าจะเพิ่มกลับมาในอนาคตหรือไม่)

• ตำแหน่งของ Run แบบใหม่ถูก ล็อกไว้ที่มุมล่างซ้ายของหน้าจอ ไม่สามารถย้ายตำแหน่งได้ คล้ายกับ Taskbar ใหม่ของ Windows 11

Run แบบใหม่ช้ากว่าเดิมหรือไม่?

เนื่องจากยังอยู่ในช่วงพัฒนาเริ่มต้น จึงอาจพบอาการผิดพลาดเล็กน้อยบ้าง อย่างไรก็ตาม จากการทดสอบพบว่า Modern Run ไม่ได้ช้าอย่างที่กังวล และแทบจะเปิดได้ทันทีพอ ๆ กับ Run แบบเดิม

ซึ่งแตกต่างจากบางส่วนของ Windows 11 ที่ใช้ WinUI เช่น File Explorer ที่เคยมีปัญหาโหลดช้า จน Microsoft ต้องแก้ด้วยการ preload ล่วงหน้า

สรุป: ยังไม่แทนที่ Run เดิม

สิ่งสำคัญคือ Modern Windows Run จะไม่มาแทนที่ Run แบบดั้งเดิม และ Run เดิมจะยังคงเป็นค่าเริ่มต้นต่อไป

หากต้องการใช้งาน Run แบบใหม่ ผู้ใช้ต้องไปเปิดเองที่
Settings > System > Advanced

การที่ Microsoft แยก Run แบบใหม่ไปไว้ในเมนู Advanced อาจเป็นสัญญาณว่าในอนาคตจะมีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ เข้ามา และน่าจะมีเหตุผลบางอย่างที่ทำให้ Microsoft เลือกพัฒนา Run ใหม่ควบคู่กับของเดิม แทนที่จะยกเลิกเวอร์ชันคลาสสิกไปเลย