กราบสวัสดีหลังวันหยุดยาว วันแม่อันเป็นที่รักของทุกคน กระผมมีของดีมาฝากครับ SONY หูฟังตัดเสียงรบกวนแบบไร้สาย WF-1000XM3 ที่ส่งมาให้ทดลองฟังเมื่อ2-3อาทิตย์ที่ผ่านมาแต่ทำไมเพิ่งจะเอามาฝากกันใช่มั้ยอ่านไปเรื่อยๆเดี๋ยวจะบอกสาเหตุครับ

SONY หูฟังตัดเสียงรบกวนแบบไร้สาย WF-1000XM3 ที่ทาง Sony หมายมั่นปั้นมือที่จะขอมาเป็นผู้นำแห่งวงการหูฟังไร้สาย คราวนี้กลับมาแบบไม่ธรรมดา โดยได้บรรจงสร้างสรรค์หูฟังรุ่นนี้มาเพื่อครองใจกลุ่มอารยธรรม SONY ให้ได้ เรามาดูโฉมหน้าเจ้าตัวหูฟังนี้กันก่อนเลย

หูฟังแบบ inears ที่ออกแบบมาให้เคสที่ใส่ เป็น power bank ในตัว เพื่อการพกพาและใช้งานได้อย่างยาวนานยามเมื่อติดตัวออกไปนอกบ้าน โดยเลือกสีทองแดงตัดดำ ดูแพงและเลอค่ามีอีกสีให้เลือก แต่กระผมว่า สีนี้สวยสุดแล้ว

ตัวเคสออกแบบมาให้เป็น power bank ในตัว เมื่อใส่ตัวหูฟังเข้าไปในเคส ก็จะทำการขาร์ตแบตให้โดยอัติโนมัติ โดยจะตัดการเชื่อมต่อจากตัวมือถือหรือเครื่องเล่นในทันที และเมื่อนำออกจากตัวเคสก็ จะทำการเชื่อมต่อ bluetooth โดยอัติโนมัติ การเชื่อมต่อจะต้องนำหูฟังทั้งสองข้าง ใส่เข้าไปในหูให้ครบก็จะทำการเชื่อมต่อพร้อมใช้งาน การกระทำทุกขั้นตอน จะมีเสียงบอก และขอบอกว่า เสียงสาวๆที่ใช้นั้น ไพเราะเสนาะหูจริงๆ

ตัวหูฟังผลิตในมาเลเซีย โดยจะมีเขียนแจ้งไว้เพื่อไม่ให้สับสนระหว่างหูซ้ายกับหูขวา และข้างซ้ายนอกจากเขียน L แล้ว ยังมีตุ่มให้สัมผัสเพื่อที่จะไม่ต้องมองให้เสียเวลาอีกด้วย สังเกตุดูจะเห็นช่องเซ็นเซอร์ทั้งสองข้าง เพื่อตรวจสอบว่าหูฟังได้สวมใส่อยู่ที่หูหรือไม่ เพราะถ้าไม่ได้ใส่ตัวหูฟังไว้ข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง เครื่องเล่นจะตัดการทำการทันที และจะทำงานต่อก็เพียงใส่เข้าที่หูครบทั้งสองข้าง

ตัวหูฝั่ง R จะใช้ตัวหนังสือสีแดงวงกลมไว้ให้

ด้านในของตัวหูฟังจะเป็นจุดสัมผัสเพื่อชาร์ตแบต เมื่อใส่ไว้ในเคส

เชื่อมต่อกับ granbeat dp-cmx1 เครื่องเล่นเพลงที่ใส่ซิมได้ ไม่ต้องห่วงเรื่องแหล่งสัญญาณ แต่การเชื่อมต่อแบบไร้สาย ภาคDAC ที่ใช้ ก็เป็นของตัวหูฟังอยู่แล้ว โดย granbeat dp-cmx1ทำหน้าที่เป็นเพียง player เท่านั้น

อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่อง (ภาพจาก www.sony.co.th)

ทดลองฟัง

หลังจากแกะกล่อง เชื่อมต่อด้วย bluetooth เสร็จเรียบร้อย ก็ลองเล่นเพลงจาก Sportify เสียงที่ได้ยังค่อนข้างที่จะธรรมดาๆ ไม่มีอะไรโดดเด่น ซึ่งน่าจะเป็นเพราะว่า ยังเป็นของใหม่แกะกล่องต้องผ่านการเบินอีกสักระยะ แต่เพื่อความมั่นใจ ขอลองไฟล์ DSD ที่ได้ทำเก็บไว้เพื่อเป็น reference ในการทดสอบลองดูก่อน และก็หลังจากที่ได้ฟังไปสักระยะ ผลที่ได้ก็ไม่ได้ดีไปกว่าเดิมสักเท่าไหร่ การรีวิวที่อยากจะให้เสร็จจึงจำต้องที่จะรอเพื่อให้ตัวหูฟังผ่านการเบินไปอีกสักพัก เพื่อที่ให้เข้าที่เข้าทางก่อน ยังไม่ได้ใส่ใจกับเสียงที่ได้ยิน เอาเป็นว่าลองใช้งานดูว่า มันจะสะดวกสบายในการใช้งานขนาดไหน อย่างแรกก็คือต้องระมัดระวังตัวหูฟังจะหลุดออกทีเผลอแล้วหล่นหายไปกับฝาท่อในกทม. เวลาใส่เพลินๆไม่นึกว่ามันจะหลุดออก แต่ก็เป็นไปได้นะครับถึงแม้ว่า ตัวยางจะเลือกให้กระชับกับรูหูของเราแล้ว เพราะเคยมีหล่นออกจากหูครั้งนึงตอนข้ามถนนด้วย หลังจากนั้นเวลาเดินผ่านท่อระบายน้ำที่เป็นตระแกรงเหล็ก ต้องไม่ลืมที่จะคอยเอามือจับตัวหูฟังไว้ทั้งสองข้าง กลัวหล่นครับ แต่ไม่ต้องห่วงว่า จะทำหล่นแบบไม่รู้ตัวนะครับ เพราะเมื่อตัวหูฟังหลุดจากหูรูของเราเมื่อไหร่ เสียงก็จะเงียบทันที ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่รู้ว่าทำหล่นตรงไหน 5555 หลังจากลองใช้งานแบบเรื่อยเปื่อยมาสักระยะ มีอยู่วันหนึ่งกระผมได้ใส่เจ้า WF-1000XM3 ขึ้นรถไฟฟ้าเพื่อจะลองดูระบบตัดเสียงรบกวนว่า จะทำได้ดีขนาดไหน บังเอิญ Sportify ได้ random เพลงที่ชอบมาพอดีเลยต้องปรับเสียงให้ดังขึ้นเพื่อความมันในอารม หลังจากฟังจนจบเพลง ก็ยังขอย้อนกลับไปฟังใหม่อีกรอบ จนลืมคิดถึงว่าที่ฟังได้อารมนั้น ส่วนนึงก็มาจากตัวหูฟังได้ผ่านการใช้งานมาได้ในระดับนึงแล้ว ความสามารถที่แท้จริงได้ส่งผ่านเสียงเพลงให้ได้รับรู้ถึงความแพง จากที่เคยฟังแล้วไม่รู้สึกว่าแพง แต่ตอนนี้ความรู้สึกนั้นได้เผยออกมาแล้ว กลับถึงบ้านคงต้องได้ลองกันอย่างจริงจังอีกสักรอบ ว่าแต่ลืมเรื่องระบบตัดเสียงรบกวนออกไปเลย ก็ทำได้ดีในระดับนึง ยังพอที่จะได้ยินเสียงภายนอกบ้าง โดยเฉพาะเสียงประกาศสถานี แต่ก็ต้องตั้งใจฟังพอสมควรจึงจะได้ยิน เอาเป็นว่ารับได้กับระบบการตัดเสียงรบกวนครับ

ทดลองฟังรอบสองหลังจากผ่านไปสองอาทิตย์

เริ่มแรกลองเพลงจาก Sportify ดูก่อน ใช้อัลบั้ม Fourplay เพลงแรก Bali Run เสียงเปียโนและกลองสอดรับประสานกันอย่างดี ไม่มีเสียงหนึ่งเสียงใดโดดเด่นออกมา ให้ความเป็นกลางและ Tonal Balance ดีเยี่ยม นี่ขนาดใช้เพียงแค่ Sportify ยังทำได้ดีขนาดนี้ แล้วจากไฟล์ DSD ที่คุณภาพดีกว่า จะทำได้ดีขนาดไหน และบังเอิญอัลบั้มชุดนี้กระผมก็ได้มีทำไว้ด้วยเหมือนกัน จึงได้ลองใช้เพลงเดียวกันนี้ในการฟังอีกรอบ แล้วก็ไม่ผิดหวัง ได้ความชัดเจนขึ้นจากเดิม เสียงทุ้มอบอุ่นและเสียงแหลมไม่มีความรู้สึกหยาบกร้านแต่อย่างใด ลองฟังเสียงร้องของ Amanda Mcbroom จากอัลบั้มชุด Voice ในเพลงดังของคุณป้า The Rose อันลือลั่น เสีงหวานให้ความรู้สึก เหมือนกับไปนั่งฟังคุณป้าร้องอยู่หน้าเวทีเลย แต่เสียงผู้ชายที่ร้องคู่ในเพลงนี้ (Vince Gill)ไม่ชอบเอาเสียเลย น่าจะร้องคนเดี่ยวเหมือนเดิมมากกว่า

บทสรุป

เป็นหูฟังที่ต้องการการเบินเพื่อให้เข้าที่เข้าทางในการฟังก่อน หลังจากที่เบินได้เข้าที่แล้ว เสียงที่ได้ไม่ผิดหวังครับ น้ำเสียงน่าฟังไม่จัดจ้าน ระบบตัดเสียงรบกวนทำได้ดีในระดับที่น่าพอใจ แบตเตอรี่เมื่อใช้รวมกับเคส power bank สามารถที่จะ อยู่นอกบ้านได้เป็นวันๆเลย หายห่วงในเรื่องนี้ การใช้งานต้องระมัดระวังไม่ตัวหูฟังหล่นออกจากหูเพราะฉะนั้น ไม่เหมาะกับการใส่ออกกำลังกายอย่างยิ่ง เหมาะกับการใส่ใช้งานทั่วไปไม่กระโดดโลดเต้นมากกว่า การใช้งานเป็น HandFree สามารถที่จะปรับเลือกว่าจะใช้งานหรือไม่ หรือจะใช้เป็นทั้งหูฟังเพลงกับ HandFree ควบคู่กันไปหรืออย่างใดอย่างนึงก็ได้ สาวก Sony น่าจะลองไปหาทดลองฟังกันก่อนตัดสินใจ อย่าเชื่อรีวิว เชื่อหูตัวเอง จะได้ไม่ผิดหวังครับ
 

Spec จากทางผู้ผลิต

มีอะไรในกล่อง

• สายเคเบิล USB: USB Type-C ^TM (ประมาณ 20 ซม.)

 

ขอขอบคุณ SONY THAI CO., LTD.

Price : 8,990 บาท