Smartphone รุ่นเรือธงที่ให้ความครบครันที่สุดของ Samsung นอกจากตระกูล S แล้วก็จะมีตระกูล Note นี่แหละครับ ที่จัดเต็ม อัดฟีเจอร์ให้มาทุกอย่างที่ Smartphone เครื่องนึงจะมี .. และตอนนี้ข่าวคราวของ Galaxy Note 10 ก็ถือว่ามีการพูดถึงอยู่พอสมควร เพราะว่าใกล้จะถึงเวลาเปิดตัวจริงแล้ว ซึ่งทุกครั้งที่ Galaxy Note เปิดตัว มันก็มักจะเป็น Benchmarking Standard ให้กับ Smartphone ในช่วงเวลานั้นๆมาตลอด .. จึงไม่แปลกที่จะมีคนคาดเดาฟีเจอร์ของ Smartphone รุ่นนี้ก่อนเปิดตัวจริง
สิ่งที่น่าสนใจของ Note 10 รอบนี้เลยก็คือระบบ Fast Charging (ชาร์จเร็ว) ที่ให้กำลังไฟมาถึง 45w .. เรียกได้ว่าอัดไฟเข้าเท่าพวก Notebook บางตัวเลยแหละ ! และเรื่องนี้ก็ดูเหมือนจะเป็นจริงได้ ด้วยความที่ไม่กี่เดือนก่อนได้มีรายละเอียดเกี่ยวกับ Charger รุ่นใหม่จากทาง Samsung ที่ใช้ Codename EP-TA845 โผล่เข้ามา ซึ่งตัวนั้นก็จะเป็น Charger ที่จ่ายกำลังไฟได้สูงสุด 45W
แต่ถึงแม้ Samsung จะให้ฟีเจอร์นี้มาใน Note 10 แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะใช้มันได้ทันทีที่แกะออกมาจากกล่อง .. เพราะล่าสุดเราได้เห็นข่าวว่า Charger ตัวนี้จะไม่มีแถมมาแต่อย่างใด โดยผู้ใช้ Note 10 จะได้ Charger แบบ 25W มาแทน ส่วนตัว 45W นี้จะเอามาขายแยกในราคาประมาณ $55 หรือราวๆ 1600-1700 บาท ซึ่งถ้ามองกันดีๆ ราคาก็เกือบจะเท่าโทรศัพท์ราคาถูกๆแล้ว ประมาณว่าเพิ่มอีก $20 ก็ได้ Xiaomi Redmi Go มาใช้กันเลย ฮ่าๆ (แต่มันคนละกลุ่มตลาดกันนะอย่าลืม)
ตรงนี้ก็อาจจะทำให้เรานึกถึงบางแบรนด์ที่ Smartphone ของตัวเองรองรับเทคโนโลยี Fast Charge แต่กลับไม่ใส่หัวชาร์จแบบ Fast Charge มาให้ในกล่อง ทำให้ต้องไปซื้อแยกมาใส่กันเอง .. แต่เอาจริงๆก็อย่าไปคิดมากเลยครับ เพราะที่ชาร์จ 25W นั้นก็คือว่าเร็วกว่ามาตรฐานทั่วๆไปของตลาดมากแล้ว ซึ่งถ้าคุณเป็นผู้ใช้ที่ชาร์จ Smartphone ทิ้งไว้ข้ามคืน ก็คงไม่ต้องซีเรียสเลย จะชาร์จ 25W หรือ 45W ก็คงไม่เห็นผลต่างกัน .. พวกที่ชาร์จที่กำลังไฟเยอะๆ ส่วนใหญ่ก็จะใช้กำลังเต็มที่ในช่วงแรกๆของการชาร์จหรือเมื่อแบตเตอรี่ต่ำเท่านั้นแหละ
คนที่ใช้ประโยชน์จากที่ชาร์จตัวแรงเหล่านี้จริงๆก็คือ คนที่ไม่ได้ชาร์จโทรศัพท์ทิ้งไว้ข้ามคืน และต้องการชาร์จให้ได้เปอร์เซนต์สูงที่สุดภายในระยะเวลาครึ่งชั่วโมงแรก ประมาณนั้นแหละครับ
ที่มาของข้อมูล : NotebookCheck.net