เกมมิ่งมอนิเตอร์หรือจอเกมในตลาด ที่หลากหลายแบรนด์นั้นก็มีทางเลือกที่มากมาย แต่จอเกม Samsung Odyssey G9 ที่ได้รับการออกแบบเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถได้รับประสบการณ์ในการเล่นเกมที่ดียิ่งขึ้น ที่ทาง Samsung นั้นจะเน้นไปถึงความสมจริงและสวยงามของภาพด้วยการใช้หน้าจอ QLED เพื่อช่วยให้ภาพที่ออกมานั้นมีชีวิตชีวา พร้อมกับการเป็นหน้าจอที่มีความโค้ง 1000R ที่สามารถตอบรับกับสายตาของผู้ใช้งานได้อย่างลงตัว ด้วยขนาดหน้าจอ 49 นิ้ว ที่ความละเอียด DQHD (5120x1440) เทียบเท่ากับการใช้หน้าจอขนาด 27 นิ้ว ความละเอียด 2K วางต่อกัน เพื่อให้ผู้ใช้งานมีพื้นที่ในการแสดงผลได้กว้างมากขึ้น ช่วยเพิ่มความได้เปรียบในการเล่นเกม Samsung Odyssey G9 ที่มีการใส่เทคโนโลยีต่างๆ เช่น Refresh Rate 240hz, Response Time 1 ms และ HDR 1000 ได้อย่างน่าสนใจ เพื่อให้ Samsung Odyssey G9 คือตัวจริงของจอเกม อาวุธลับของผู้ชนะ
หน้าจอความโค้งที่ 1000R เป็นความโค้งของหน้าจอแสดงผลที่ตอบรับกับดวงดาของมมนุษย์ได้อย่างลงตัว ใช้งานนานๆก็ไม่มีความเมื่อยล้าของสายตา
DQHD หรือ 5120x1440 เทียบเท่ากับการใช้หน้าจอขนาด 27 นิ้ว ความละเอียด 2K วางต่อกัน แต่การใช้งาน Samsung Odyssey G9 จะมีความสมบูรณ์แบบเพราะไม่มีรอยต่อมากวนใจ พร้อมกับความง่ายในการเซ็ตอัพ
เทคโนโลยี HDR 1000 ให้ภาพในบริเวณมืด สามารถให้ภาพที่ออกมามืดสนิทและเสริมบริเวณฉากที่ต้องสว่าง ภาพที่ออกมาให้คอนทราสต์ที่มีมิติยิ่งขึ้น และ HDR10+ จะช่วยปรับความสว่างและคอนทราสต์ในฉากต่างๆ ให้เป็นไปตามที่ผู้พัฒนาเกมตั้งใจให้ออกมา สามารถรับชมความน่าทึ่งและความสมจริงที่แตกต่าง
Design & Detail
ภายนอกของ Samsung Odyssey G9 กับธีมการดีไซน์ในแบบ Futuristic Design มีความล้ำในยุคอนาคต ที่ด้านหน้าเราจะเห็นหน้าจอความโค้ง 1000R ขนาด 49 นิ้ว สัดส่วน 32:9 ที่ให้พื้นที่ในการแสดงผลที่แตกต่างจากจอเกมตัวอื่นๆ เพิ่มความได้เปรียบในการเล่นเกมได้อย่างเพอร์เฟ็กต์
ขาตั้งนั้นก็มาในสไตล์ของ Samsung รูปทรงเป็นตัว "V" แต่มีขนาดใหญ่ และ ให้ความมันคงในการวาง Samsung Odyssey G9
Samsung Odyssey G9 ที่จะรองรับเทคโนโลยี Adaptive-Sync ที่สามารถใช้งานเทคโนโลยี G-Sync จาก NVIDIA และ FreeSync Premium Pro จาก AMD ซึ่งช่วยเพิ่มประสบการณ์เล่นเกมได้อย่างดีเยี่ยม ภาพที่มองเห็นจะไม่ฉีกขาด สามารถให้ภาพเคลื่อนไหวได้อย่างราบลื่น
ปุ่มการควบคุม ที่จะเป็นปุ่มเดียวกดลง 1 จังหวะ และ โยกได้ 4 ทิศทาง ที่สามารถควบคุมได้ง่าย
Futuristic Design ที่ให้อารมณ์ความล้ำแบบยุคอนาคต ด้วยการใช้สีขาวผิวเงาที่ดูสะอาดตา ด้วยความโดดเด่นในส่วนตรงกลางด้วย Infinity Core สามารถปรับแต่งรูปแบบการแสดงสี และ สีสันในแบบ RGB ในส่วนเสาตรงกลาง และ ฝาครอบพอร์ตการเชื่อมต่อ ที่ออกแบบให้สามารถซ่อนสายไฟ และ การเชื่อมต่อต่างๆ เพื่อการจัดระเบียบให้โต๊ะคอมพิวเตอร์ออกมาสวยงามเรียบร้อยได้
จอเกมตัวจริง ขาดไปไม่ได้กับขาแขวนหูฟัง ที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้ลงตัว
จุดเชื่อมต่อสาย AC เต้ารับมาตรฐาน IEC C14 ที่จะต้องใช้เต้าเสียบ IEC C13 ก็ตามแบบที่ใช้งานกับเครื่องคอมพิวเตอร์ทั่วไป แต่ที่ให้มาในชุดจะเป็นหัวงอ 90 องศา เพื่อความสะดวกในการจัดเก็บสายไฟ
จุดการเชื่อมต่อสัญญาณภาพขาเข้า HDMI และ Display Port สองพอร์ต จุดเชื่อมต่อแจ็ค 3.5 เข้ากับหูฟัง ในส่วน USB Super Speed Type B ในการเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ พร้อมกับ USB Super Speed Type A เชื่อมต่อกับอุปกรณ์
สามารถปรับระดับองศา มุมเอียง และ ความสูง ของหน้าจอ เพื่อการใช้งานที่ลงตัวและเหมาะสมกับผู้ใช้งาน
Menu & Setting
เมนูการปรับแต่งที่ทำออกมาได้เข้าใจง่ายใช้งานไม่ยาก ถ้าใครที่ใช้ Samsung Monitor อยู่แล้ว ไม่ต้องเสียเวลาทำความคุ้นเคย ในการปรับแต่งหัวข้อเกม สามารถปรับตั้งค่า Refresh Rate ,Black Equalizer เพื่อสีดำที่ดำสนิท ,Response Time ,Adaptive-Sync ถ้าใครต้องการเปิด G-Sync หรือ Freesync เข้ามาเปิดใช้งานได้ตรงนี้ ,Low Input Lag และ Virtual Aim Point เพิ่มตัวช่วยในการเล็งเป้าในการเล่นเกมให้ง่ายขึ้น ไม่ต้องวัดหาจุดกึ่งกางแล้วใช้กระดาษดาวแปะหน้าจอ
การแสดงผลแบบ 2 แหล่ง ในรูปแบบแบ่งครึ่งหน้าจอ หรือ ซ้อนกรอบขนาดเล็กบนหน้าจอหลัก ที่จะสามารถปรับขนาดรวมไปถึงตำแหน่งของการแสดงผลจอเล็กได้ ในข้อดีที่ผมเห็นคือมันสามารถปรับคอนทราสต์จากทั้งสองแหล่งแยกออกจากกัน เพื่อให้ภาพที่มองเห็นมีความสว่างใกล้เคียงกัน ในฟีเจอร์ส่วนนี้สามารถประยุกต์ในการใช้งานได้หลากหลาย ทั้งการสตรีมเกม การทำงาน หรือ ใช้ประโยชน์อื่น จากแหล่งภาพสองแหล่ง
การปรับแสงสว่างอัตโนมัติ ที่ Samsung Odyssey G9 จะอ้างอิงจากสภาวะแวดล้อมในการใช้งาน เพื่อความเหมาะสมของแสงสว่าง เพื่อการใช้งานที่ดีต่อสายตา
การปรับความสว่างแบบไดนามิกส์ เพื่อให้ภาพที่ออกมานั้นได้คอนทราสต์ที่ออกมาอย่างสมบูณ์แบบ
การปรับโหมดรูปแบบของสัญญาณภาพขาเข้า ระหว่าง คอมพิวเตอร์ หรือ อุปกรณ์ความบันเทิง ที่จะมีรูปแบบสัญญาณแตกต่างกัน เพื่อความสมบูรณ์แบบที่สุดในภาพที่ออกมา
โปรไฟล์ของภาพในการแสดงผล ที่จะมีให้เลือกใช้งานได้ตามการใช้งาน และ รูปแบบของเกมที่แตกต่างกัน
การใช้ทำงาน หรือ รับชมความบันเทิง ที่ยังมีโปรไฟล์ให้เลือกใช้งานได้ตามความเหมาะสม
มาถึงการปรับแต่งในส่วน Infinity Core ที่จะมีรูปแบบของแสงสีที่ออกมา ถ้าไม่ชอบความหลากสี ก็สามารถเลือกโหมดที่สามารถเลือกสีที่สว่างออกมาได้ตามต้องการ
แสงสี Infinity Core จะมีสีให้เลือกที่หลากหลาย สีเดียวกัน ก็ยังมีความสดและมืดของสีให้ได้เลือกครับ
ตัวอย่างแสงสีจาก Infinity Core ถ้ามองภาพตัวอย่างจากมุมบนซ้ายที่เป็นสีน้ำเงิน เทียบกับด้านล่างขวาที่เป็นสีม่วง เราก็ยังสามารถแยกความแตกต่างของสีออกมาได้ครับ
การเล่นเกม
ในการเล่นเกม Forza Horizon 4 หรือ เกมขับรถ ซึ่งจากในภาพที่เราจะสามารถเห็นสีสันของภาพที่ออกมาได้อย่างสดใส แม้จะเล่นในห้องที่มีแสงสว่างจากภายนอกและเปิดไฟภายในห้อง สีสันที่ออกมาสมจริง ซึ่งในการเล่นเกมขับรถจากมุมภายในรถ ที่แน่นอนว่าจะได้รับบรรยากาศที่สมจริงมากขึ้น แต่การเล่นมุมมองจากท้ายรถ ด้วยพื้นที่ในการแสดงผลที่กว้าง ในกรณีการแข่งขัน เราสามารถใช้ความได้เปรียบมากขึ้น ถ้ามีคู่แข่งกำลังจะตีคู่หรือแซงขึ้นมา ก็แค่เบียดหรือขวางทางไม่ให้แซง
กับเกมที่เน้นความภิรมย์ของบรรยากาศขณะการเล่น ด้วย Microsoft Flight Simulator ภาพที่ออกมาจากเกมดูมีชีวิตชีวา ความกว้างของหน้าจอที่ช่วยเพิ่มความภิรมย์ขณะเล่นเกมจำลองการบินได้อย่างสมบูรณ์แบบ ที่ให้ความแตกต่างจากจอเกมตัวอื่นในตลาด ใครที่ชอบเล่นเกมแนวนี้ลงตัวมากกับ Samsung Odyssey G9
เกมสุดท้ายที่ได้ลองกับ Cyberpunk 2077 เกมแนว Open World/RPG ในเรื่องของสีสันเห็นได้อย่างชัดเจนด้วยความสมจริง มุมมองของภาพได้สามารถมองเห็นช่วยเพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น ซึ่งเกมนี้จะมีฉากมืดที่มาก การใช้จอ Samsung Odyssey G9 ที่เข้ามาช่วยเพิ่มทุกฉากให้ได้ภาพที่ออกมาได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศในการเล่นเกมได้อย่างดี
Conclusion
Samsung Odyssey G9 เป็นอีกหนึ่งความที่สุดของจอเกม ที่การออกแบบนั้นสามารถให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ที่ดีในรูปแบบที่แตกต่างกว่าจอเกมตัวอื่นได้อย่างเหนือชั้น ผู้ใช้งานสามารถได้รับชมภาพที่ออกมาสมจริง มีชีวิตชีวา พร้อมกับความสดใสของภาพ ในมุมองที่เพิ่มให้ผู้ใช้งานได้ดื่มด่ำกับภาพที่สามารถมองเห็นได้จากหน้าจอโค้ง 1000R ขนาด 49 นิ้ว นอกจากทางด้านสีสัน การเคลื่อนไหวที่ไหลลื่นของภาพที่ได้เห็น Samsung Odyssey G9 การออกแบบนั้นยังคงคำนึงถึงเรื่องสายตาของผู้ใช้งาน ด้วยการใส่ Eye Saver Mode และ เทคโนโลยี Flicker Free ที่ช่วยถนอมสุขภาพตาในการใช้งาน หรือ การเล่นเกมอย่างยาวนานได้ไม่มีปัญหา Samsung Odyssey G9 เป็นความเพอร์เฟ็กต์ ที่สมบูรณ์แบบของจอเกมในตลาดสำหรับยุคนี้ เรียกได้ว่ามันคืออาวุธลับของผู้ชนะ ที่มีงบประมาณซื้อจอเกมที่มากพอ สำหรับวันนี้ผมก็ต้องขอลากันแต่เพียงเท่านี้ สวัสดีครับ
Price : 47,650 บาท
Special Thanks : Thai Samsung Electronics Co.,Ltd