ล็อกอินด้วยบัญชี Microsoft ในขั้นตอนติดตั้งระบบ (OOBE) โดยไม่ได้แจ้งเตือนชัดเจนว่าฟีเจอร์นี้จะ “เข้ารหัสทั้งดิสก์” ทันที
BitLocker คืออะไร?
BitLocker เป็นระบบเข้ารหัสข้อมูลของ Windows ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2007 (Windows Vista) เพื่อปกป้องข้อมูลจากการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ใน Windows 11 มันจะเปิดใช้งานอัตโนมัติ — แม้ผู้ใช้จะไม่ได้ตั้งใจ
เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นใหญ่หลังผู้ใช้รายหนึ่งใน Reddit โพสต์เล่าว่า
เขารู้สึกว่าเครื่องทำงานช้า จึงตัดสินใจ “ลง Windows ใหม่” แต่หลังติดตั้งเสร็จ กลับพบว่า ดิสก์ D และ E (รวมกว่า 3TB) ที่เก็บไฟล์สำคัญและแบ็กอัปข้อมูลทั้งหมด ถูก BitLocker เข้ารหัสจนเปิดไม่ได้
เจ้าของโพสต์เผยว่า เขาจำได้ว่าระบบเคยให้บันทึก “Recovery Key” แต่ตอนนั้นไม่ได้สนใจ เพราะคิดว่า BitLocker จะเข้ารหัสแค่ไดรฟ์ C ที่ลงระบบเท่านั้น
เมื่อพยายามเข้าไปดูในบัญชี Microsoft ก็พบว่า มีเพียงกุญแจของไดรฟ์ C ส่วน D และ E ไม่มีข้อมูลกุญแจเลย ทำให้ไม่สามารถปลดล็อกได้
เขาลองใช้ซอฟต์แวร์กู้ข้อมูลหลายตัว แต่ไม่สำเร็จ เพราะ BitLocker ใช้อัลกอริธึมเข้ารหัสระดับสูงที่แทบ “ไม่สามารถเจาะได้”
สุดท้าย เจ้าของเครื่องจำใจต้องฟอร์แมตทั้งสองไดรฟ์ ทิ้งข้อมูลนับหลายปีไปอย่างช่วยไม่ได้
ข้อควรระวังสำหรับผู้ใช้ Windows 11
-
ก่อนติดตั้งหรือรีเซ็ตระบบ ควรตรวจสอบว่าเครื่องของคุณเปิด BitLocker อยู่หรือไม่
-
เข้าไปที่:
- Settings → Privacy & Security → Device encryption
หรือ
- Control Panel → System and Security → BitLocker Drive Encryption -
ถ้าเปิดอยู่ ให้รีบ “บันทึก Recovery Key” ไว้ในบัญชี Microsoft หรือเก็บไว้แยกต่างหาก
-
สำรองข้อมูลในไดรฟ์อื่นทุกครั้งก่อนทำการติดตั้งระบบใหม่
บางคนมองว่าการเปิด BitLocker อัตโนมัติคือ “ระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี”
แต่เมื่อผู้ใช้ไม่รู้ตัวหรือไม่เข้าใจ กลับกลายเป็น “กับดักข้อมูล” ที่อาจสูญหายอย่างถาวร
คุณคิดอย่างไรกับการที่ Windows เปิด BitLocker อัตโนมัติโดยไม่ถามก่อน?
ควรถือว่าเป็น “ระบบป้องกัน” หรือ “ความเสี่ยงซ่อนเร้น”?
ที่มา: HKEPC