Computer Weekly รายงานว่า ธนาคารหลายแห่งในสหราชอาณาจักรยังคงใช้งานโค้ดคอมพิวเตอร์ที่เขียนมาตั้งแต่ยุค ทศวรรษ 1960 และ 1970 และมีเพียงพนักงานไม่กี่คนเท่านั้นที่ยังสามารถเข้าใจโค้ดเหล่านี้ได้
ผลสำรวจของ Baringa พบว่า จากธนาคาร 200 แห่งที่ถูกสำรวจ มี 16% ที่ยังคงพึ่งพาซอฟต์แวร์จากยุค 1960 และเกือบ 40% ยังดูแลรักษาโค้ดจากยุค 1970 อยู่ ครึ่งหนึ่งของธนาคารยอมรับว่ามีพนักงานเพียง 1–2 คนเท่านั้นที่เข้าใจระบบเหล่านี้ และหลายคนใกล้เกษียณแล้ว อีก 31.5% ระบุว่ามีพนักงานเพียง 1–2 คนที่ยังไม่เกษียณคอยดูแลระบบเก่าเหล่านี้
ที่น่าตกใจกว่านั้น
-
ธนาคาร 38 แห่งยังคงรันโค้ดที่ถูกเขียนขึ้นสำหรับระบบแบบเก่า เช่น บัตรเจาะรู (punch cards)
-
และ 15% ยังใช้โค้ดที่ออกแบบมาสำหรับเมนเฟรมคอมพิวเตอร์รุ่นเก่า ที่กินพื้นที่ทั้งห้อง
Paul Mihajlovic หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีการธนาคารและการตลาดของ Baringa กล่าวไว้ว่า
“ในระบบนิเวศทางเทคโนโลยีที่ใหญ่และซับซ้อน การมีเทคโนโลยีเก่าเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ธนาคารให้บริการลูกค้าหลายล้านราย จึงไม่สามารถสร้างระบบใหม่ทั้งหมดขึ้นมาใหม่ทุกครั้งที่มีนวัตกรรมได้”
เขาย้ำว่า บางระบบนั้นทั้งเก่าแก่และสำคัญอย่างยิ่ง
“ถ้าคุณมีบัญชีเงินฝากปัจจุบัน เงินของคุณอาจยังคงพึ่งพาโค้ดที่เขียนขึ้นตั้งแต่สมัยที่ Harold Macmillan ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี (1957–1963)”
ในการสำรวจยังพบว่า
-
ซอฟต์แวร์ของ Microsoft ตั้งแต่ปี 1993 ยังคงถูกใช้งานอยู่ เช่น เครือข่าย ATM ของบางธนาคารที่ทำงานบน Windows NT Server รุ่นเก่าแต่มีการแพตช์
-
อีกแห่งเปิดเผยว่าระบบ Core Banking หลักถูกพัฒนาขึ้นตั้งแต่ยุค 1970 และยังคงใช้ภาษา Cobol
ภาษา Cobol เคยเป็นเทคโนโลยีหลักในวงการการเงินและการบริหาร ใช้โดยหน่วยงานด้านภาษี ธนาคาร บริษัทประกันภัย และผู้ให้กู้สินเชื่อบ้าน
ผู้เชี่ยวชาญ IT อาวุโสในอุตสาหกรรมธนาคารอังกฤษเผยว่า เขามีส่วนร่วมในการดูแลระบบเก่าหลายระบบตั้งแต่ยุค 1960–1980 เขากล่าวว่า
“ระบบเหล่านี้ยังคงถูกใช้อยู่ทุกวันนี้เพราะมีโครงสร้างเรียบง่าย ทำงานได้เสถียร และสามารถประมวลผลธุรกรรมพื้นฐานจำนวนมหาศาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ธนาคารก็กำลังทยอยเลิกใช้ เนื่องจากพนักงานที่มีประสบการณ์ใกล้เกษียณ และคนรุ่นใหม่ไม่อยากเรียนภาษาอย่าง Cobol แล้ว”
Mihajlovic ยังชี้ว่า โค้ดเก่าแก่หลายสิบปีสร้างความเสี่ยงใหญ่ 2 ประการต่อธนาคาร:
-
โค้ดถูกเขียนขึ้นมาสำหรับระบบที่เลิกใช้นานแล้ว ปัจจุบันมีเพียงผู้เชี่ยวชาญรุ่นเก่าไม่กี่คนที่เข้าใจ ทำให้แก้ปัญหาได้ยาก
-
เทคโนโลยีเก่าเหล่านี้ขาดความยืดหยุ่น ต้องใช้การดูแลเฉพาะทางที่ช้าและมีค่าใช้จ่ายสูง
ที่มา : ComputerWeekly