Announcement

Collapse
No announcement yet.

โหลดโหด(3.7MBรูปล้วนๆ) แปลเมนูการปรับแต่งรถ ใน NFS Shift 2

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • โหลดโหด(3.7MBรูปล้วนๆ) แปลเมนูการปรับแต่งรถ ใน NFS Shift 2

    update

    -ทำการเครียไฟล์ภาพของเดิมทิ้ง (3700KB) เพราะใหญ่ไป แล้วอัพรูปใหม่แทน ทำให้มีขนาดเล็กลงเหลือเพียง 479KB เท่านั้น
    -เพิ่มรูปตัวอย่างชิ้นส่วนต่างๆเพื่อให้นึกภาพออกและดูไฮโซขึ้น
    -เพิ่มความรู้ด้านการจูนรถ
    -เทคนิคการเข้าโค้ง


    ปรกติเกมมันจะมีให้จูนแบบ basic ด้วยครับ จะจูนแบบง่ายๆไม่ยาก

    แต่ที่ผมเอามาลงนี่เป็นการปรับแบบ advance ครับ รายละเอียดเลยจะเยอะนิดนึง

    ----------------------------------------

    ผมไม่ได้แปลเองทั้งหมดนะครับ(แปลบางส่วน)

    แต่อยากให้ท่านใดที่เก่งอังกฤษหรือเก่งเรื่องรถยนตร์ช่วยแปลให้ทีครับ

    เพราะรู้สึกเกมนี้จะบังคับรถได้ยากเหลือเกิน เลยอยากลองให้ทุกท่านจูนดู มันจะขับง่ายขึ้น

    ใครที่แปลได้ก็พิมตอบไว้ในกระทู้นี้ก็ได้ครับ แล้วผมจะ edit rep ให้ เผื่อไว้เป็นความรู้แก่ท่านอื่นๆต่อไป จะใส่เครดิตให้ด้วยครับ
    Last edited by TopKisser; 7 Apr 2011, 12:17:13.

  • #2
    เรียนรู้ก่อนจูน

    ก่อนจะจูนรถ ต้องรู้จักอาการของรถ และวิธีการจูนโดยรวมก่อนนะครับ

    ------------------------------------------------------

    โอเวอร์สเตียร์ (oversteer) หรือ อันเดอร์สเตียร์ (understeer)

    อาการของรถที่เรียกว่า โอเวอร์สเตียร์ (oversteer) หรือ อันเดอร์สเตียร์ (understeer) คืออาการที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ขณะที่รถเข้าโค้ง จำง่ายๆก็คือ



    โอเวอร์สเตียร์ คือ อาการที่ด้านท้ายของรถเกิดการปัด และ พยายามจะแซงขึ้นหน้า ขณะที่ด้านหน้ารถกำลังเข้าโค้งอยู่



    อันเดอร์สเตียร์ ก็คือ การที่รถเข้าโค้งผ่านไปได้โดยที่รถเหมือนจะหนีจากศูนย์กลางออกไป

    อาการอันเดอร์สเตียร์ ดูจะไม่ใช่เรื่องใหญ่นัก เพราะเมื่อรถลดระดับความเร็วลงจากเดิม อาการที่ว่านี้ก็จะหายไป หรือ ไม่ปรากฏ และรถในปัจจุบันนี้ก็สามารถกำหนดได้ว่าจะให้ค่าของการอันเดอร์สเตียร์อยู่ที่ลิมิตเท่าไหร่ ขณะที่ โอเวอร์สเตียร์ ดูจะควบคุมได้ยากกว่า อันเดอร์สเตียร์

    อย่างไรก็ดีหากเป็นนักแข่งที่มีความชำนาญมากๆ นักแข่งเหล่านี้สามารถใช้ประโยชน์จากการ โอเวอร์สเตียร์ ได้เช่นกัน เมื่อสามารถจะทำความเร็วก่อนเข้าโค้งได้เพิ่มขึ้น อาการที่เรียกว่า"อันเดอร์เสตียร์" เกิดขึ้นได้ทั้งตอนเข้าโค้ง-กลางโค้ง-ออกจากโค้ง
    โดยมาก มักจะเกิดกับรถที่มีระบบขับเคลื่อนอยู่ด้านหน้า(รถขับหน้า)

    1.อันเดอร์เสียร์ตอนเริ่มเข้าโค้งนั้น อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น
    1.1เข้าโค้งด้วยสปีดสูงเกินไป
    1.2ไม่ถ่ายน้ำหนักมาที่ล้อหน้ามากพอ
    1.3เลี้ยวเร็วเกินไป(รีบหมุนพวงมาลัยมากไป)
    1.4ไลน์ผิด(อาจจะบีบไลน์มากไป) ทำให้องศาในโค้งแคบเกิน

    2.อันเดอร์เสตียร์ที่เกิดกลางโค้ง
    2.1สปีดสูงต่อเนื่องมาจากข้อ1.1
    2.2รีบเดินคันเร่งในขณะที่รถยังไม่เริ่มหันหน้าไปยังทางออก
    2.3ไลน์ผิดต่อเนื่องมาจาก1.4

    3.อันเดอร์เสตียร์ที่เกิดตอนออกจากโค้ง
    3.1เดินคันเร่ง เร็ว/แรงเกินไป
    3.2จุดที่เดินคันเร่งยังไม่ถูกต้อง
    3.3บีบไลน์มากเกินไป ใช้พื้นที่ไม่เต็ม


    ------------------------------------------------------

    เทคนิคการขับขี่และการเข้าโค้ง


    โค้งแบบนี้ถือว่า Advance ขึ้นนะครับ
    ต้องใช้การลดความเร็วช่วยครับ ไล่จากเคสเบาๆ ไปหาหนัก เริ่มด้วยการเหยียบคันเร่ง ไปจนถึงลดเกียร์เพิ่มอีกเกียร์ ไปจนถึงหนักสุดคือถ้าทำสองอย่าง ถ้าไม่พออีกก็ต้องใช้เบรกในโค้งช่วย

    โดยการใช้เบรกนั้นอันนี้ต้องประมาณเอาครับว่าจะแค่ไหน

    1.เริ่มต้นด้วยการเบรค
    บางคนบอกว่าเก่งแล้วชำนาญแล้วไม่ต้องกดเบรคหรอก ปล่อยรถไหลแล้วประคองตัวไปเลย ก็นับว่าไม่ใช่ความคิดที่ผิดครับ
    (ขึ้นอยู่กับการจูน และความถนัดส่วนตัวด้วย เพราะรถแต่ละคันบุคลิคไม่เหมือนกัน เรื่องการถ่ายน้ำหนักของตัวรถ (weight transfer) แต่ละคันก็ไม่เหมือนกัน)

    แต่การเบรคมันมีประโยชน์ตรงที่ว่า การเบรกทำให้น้ำหนักรถถ่ายมาด้านหน้า ส่งผลให้รถหน้าทิ่ม ท้ายยก ยางหน้ามี traction มากกว่ายางหลัง(หน้าเกาะกว่าหลัง) ท้ายรถเบา

    แต่!!! ถ้าเบรกหนักเกินจนล้อล็อค ยางจะไถไปกับพื้นถนนและขาดการควบคุม ไม่ว่าจะหักพวงมาลัยยังไงรถก็จะไม่เลี้ยว(ยางรับภาระเกินความสามารถ) จนกว่าจะคลายเบรกเพื่อให้ยางรับภาระน้อยลงจึงจะสามารถควบคุมทิศทางได้อีก (อันนี้ต้องไปจูนแรงดันเบรคเอานะครับ)

    2.เปลี่ยนเกียร์ลง (shift down)
    เพื่อให้อัตราทดเกียร์เหมาะสมกับความเร็วระหว่างที่อยู่ในโค้งและกดคันเร่งออกจากโค้ง หากเปลี่ยนเกียร์ได้ไม่นุ่มนวลจะทำให้รถมีอาการหน้าทิ่ม น้ำหนักรถจะถ่ายมายังล้อหน้า

    3.ปล่อยเบรก
    เมื่อลดความเร็วลงอยู่ในระดับที่เหมาะสมกับโค้งแล้วให้ปล่อยเบรก ณ จุดนี้น้ำหนักรถจะเริ่มถ่ายไปข้างหลัง

    -------------------

    4.เลี้ยวและเดินคันเร่ง

    น้ำหนักรถจะถ่ายไปข้างหลังมากขึ้นจากการเดินคันเร่ง และถ่ายไปด้านข้างจากการหักพวงมาลัยเลี้ยว น้ำหนักคันเร่งขึ้นอยู่กับสถานการณ์ อย่างน้อยที่สุดให้คลอคันเร่งตลอดเวลาที่อยู่ในโค้ง ไม่ควร เข้าโค้งแบบใส่เกียร์ว่างหรือไม่เหยียบคันเร่งเลย(ลอยเข้าไป) เพราะการคลอคันเร่งจะทำให้มีกำลังส่งถ่ายไปยังล้อตลอดเวลา ทำให้อาการรถมั่นคงขึ้น แต่ไม่ควรเกินลิมิตของยางที่รับได้เพราะจะทำให้รถ understeer หรือ oversteer ได้


    สรุป เบรก เปลี่ยนเกียร์ ปล่อยเบรก เลี้ยว เดินคันเร่ง พยายามทำให้ไม่มีรอยต่อระหว่างแต่ละอย่าง แล้วก็ปรับน้ำหนักมากน้อยของแต่ละอัน

    ลองหาอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับจุด apex และเทคนิคอื่นๆได้ที่นี่
    http://www.stormclub.com/webboard/topic.php?id=00007097


    ----------

    สิ่งที่ควรระวังที่สุดสำหรับมือใหม่ คือ

    ไม่ควรเหยียบเบรกในขณะที่พวงมาลัยไม่ตรง (เลี้ยวไปเบรกไป) การเลี้ยวไปเบรก(trail braking)ไปไม่ใช่สิ่งที่ผิด อันที่จริงเป็นสิ่งที่นักขับทุกคนต้องทำได้หากต้องการจะเร็ว แต่สำหรับมือใหม่แล้วมันยากที่ตัวท่านจะรู้ถึงลิมิตของยางและอาการต่างๆของรถตลอดจนก
    ารแก้ไขการเสียการทรงตัวของรถ ดังนั้นมือใหม่จึงยังไม่ควรใช้เทคนิค trail braking หรือเบรกควบคุมน้ำหนักเบรกขณะเข้าโค้ง การเบรคขณะเข้าโค้งส่งทำให้รถได้รับแรงจากสองทางคือ

    1. การเบรกทำให้น้ำหนักรถจะถ่ายไปอยู่ล้อหน้า ทำให้ล้อหน้าเกาะกว่าล้อหลัง น้ำหนักด้านหลังจะเบา ท้ายจะยก
    2. การเลี้ยวทำให้น้ำหนักรถถ่ายไปด้านข้างในทิศทางตรงกันข้ามกับทิศที่เราจะเลี้ยวไป ทำให้รถเอียงออกหนีโค้ง

    ถ้าแรงสองอย่างนี้รวมกันแล้วเกินภาระที่ยางล้อหลังจะรับได้ จะทำให้ ท้ายออกหรือท้ายปัดนั่นเอง(oversteer) จนอาจถึงขั้นรถหมุนได้

    การที่บอกไว้ด้านบนว่าให้เริ่มปล่อยเบรกและคลอคันเร่งก่อนที่จะเลี้ยวเป็นการถ่ายน้ำ
    หนักให้ไปอยู่ล้อหลังเหมือนเดิม หน้ารถจะได้ไม่ทิ่มขณะอยู่ในโค้ง น้ำหนักรถจะกระจายอย่างสมดุล ไม่มีล้อใดรับภาระมากกว่าล้ออื่นเยอะๆจนทำให้เสียอาการ ล้อทั้งสี่จะเกาะถนนเท่าๆกัน รถจะไม่หมุน

    แต่ขณะอยู่ในโค้งหากเราเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงเกินกว่ายางจะรับภาระได้ รถก็จะไถลออกด้านนอก(แหกโค้ง หรือ understeer นั่นเอง) เพราะการเลี้ยวคือการที่รถต้องพยามยามฝืนแรงที่ส่งมาจากทางตรงโดยใช้ความฝืด(frictio
    n) ที่ยางทำกับถนน เป็นตัวเปลี่ยนทิศทางของรถให้เลี้ยว ถ้าหากแรงที่ส่งจากทางตรงสูงเกินไป เมื่อเราต้องการที่จะเลี้ยว ศักยภาพของยางในการที่จะฝืนรถให้เลี้ยวก็จะเหลือน้อยลง ถ้าหากหักพวงมาลัยมากเกิน รถก็จะแถออกด้านข้าง ทำให้เลี้ยวไม่เข้า วิธีแก้คือต้องชะลอความเร็ว(ยกคันเร่งหรือแตะเบรก แต่ถ้าจะแตะเบรกล้อต้องตั้งตรง ไม่เช่นนั้นก็จะกลายเป็น oversteer ทำให้ท้ายออก รถหมุน) เพื่อให้ยางมีประสิทธิภาพเหลือมากพอที่จะเลี้ยว


    สรุปข้อห้ามและข้อควรกระทำขณะเข้าโค้งสำหรับมือใหม่

    1. ห้ามเบรกอย่างรุนแรงขณะเข้าโค้ง

    2. ห้ามเหยียบคลัชแช่ไว้ขณะเข้าโค้ง

    3. เบรกให้เสร็จก่อนจะเริ่มเลี้ยว

    4. ไม่เปลี่ยนเกียร์ขณะอยู่ในโค้ง เพราะการ shift down ที่ไม่นุ่มนวลจะทำให้รถหน้าทิ่ม และผลจะเป็นแบบ oversteer

    5. หลังจากเบรกเสร็จให้เริ่มคลอคันเร่ง (น้ำหนักคันเร่งแล้วแต่สถานการณ์ ถ้าช้าไปก็เติมได้ ถ้าความเร็วสูงพอแล้วก็แค่คลอไป)

    6. ถ้าไม่แน่ใจว่าโค้งนั้นต้องใช้ความเร็วเท่าใด ให้ใช้ความเร็วต่ำกว่าที่ประเมินไว้ (ปลอดภัยไว้ก่อน)

    7. หากมีข้อสงสัยหรือไม่มั่นใจ ให้ถามคนมีประสบการณ์ทันที

    8. เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่าเข้าโค้งแล้วไม่มั่นใจหรือกลัว แสดงว่าเราขับเร็วเกินฝีมือ ให้ชะลอความเร็วลง

    9. ไม่หักพวงมาลัยแบบฉับพลับ หรือกระตุกพวงมาลัยเวลาเลี้ยวหรือแซง เพราะจะทำให้รถเสียการทรงตัว

    10. อย่าเอาเวลาเป็นตัววัดฝีมือตัวเองเป็นอันขาด ขับช้ากว่าแต่กลับบ้านปลอดภัย ย่อมดีกว่าเร็วแต่เสียวและเสี่ยง

    ที่มา google.com
    Last edited by TopKisser; 7 Apr 2011, 12:06:23.

    Comment


    • #3
      ตัวอย่างการเซทติ้งคร่าวๆ


      หมายเหตุ : อันนี้ไม่ได้อ้างอิงจากเกม แต่อ้างอิงจากรถของจริงนะครับ

      เซทเพิ่มอาการ understeer

      การตั้งศูนย์ล้อ
      - แคมเบอร์ของล้อหน้า ลบมากกว่า
      - แคมเบอร์ของล้อหลัง บวกมากกว่า
      - แคสเตอร์ของล้อหน้า บวกมากกว่า
      - มุมtoeของล้อหน้า ไปหา toe-out
      - มุมtoeของล้อหลัง ไปหา toe-out

      ยาง
      - ความดันลมยางหน้า เพิ่ม
      - ความดันลมยางหลัง ลด

      สปริง
      - หน้า นิ่ม
      - หลัง แข็ง

      ช้อคอัพ
      - หน้า นิ่ม
      - หลัง แข็ง

      ----------------------------------------

      เซทเพิ่มอาการ oversteer


      การตั้งศูนย์ล้อ
      - แคมเบอร์ของล้อหน้า บวกมากกว่า
      - แคมเบอร์ของล้อหลัง ลบมากกว่า
      - แคสเตอร์ของล้อหน้า ลบมากกว่า
      - มุมtoeของล้อหน้า ไปหา toe-in
      - มุมtoeของล้อหลัง ไปหา toe-in

      ยาง
      - ความดันลมยางหน้า ลด
      - ความดันลมยางหลัง เพิ่ม

      สปริง
      - หน้า แข็ง
      - หลัง นิ่ม

      ช้อคอัพ
      - หน้า แข็ง
      - หลัง นิ่ม



      จากผมเอง

      ใครพึ่งเริ่มเล่นใหม่จะลองจูนตามผมก็ได้นะ (ผมก็พึ่งลงเกมใหม่ นั่งเล่นใหม่อยู่)

      ตะกี้ลองเอา s2000 จูนอัตราทดเกียร์ให้เกียร์ 1 ลากยาวขึ้น และเกียร์2-7ให้รอบจัดช่วงสั้น
      ปรับโชคแข็ง(แต่ไม่มาก) สปิงแข็ง โหลดเตี้ย แล้วปรับสมดุลเบรคหน้าให้หนักกว่าเบรคหลัง

      เวลาขับ
      1.ก่อนถึงโค้ง ปล่อยคันเร่ง เชนเกียร์ กดเบรค 1 จึ๊ก ให้ความเร็วตกลงมาเหลือ 100 (หรือ 80-90 สำหรับโค้งหักมุมมากๆ) และให้หน้ารถกดลงพื้น
      2.ปล่อยรถไหลไปตามโค้ง คุมพวงมาลัยเข้าไลน์ให้ดีๆ (ห้ามเชนเกียร์ตอนเข้าโค้งเด็ดขาด ไม่งั้นรถมันจะสะดุด)
      3.พอถึงจุด apex เหยียบคันเร่งลากเกียร์ให้สุด (อย่าพึ่งขึ้นเกียร์ ลากไปก่อน)
      4.พอออกจากโค้ง รถตั้งตรงแล้วก็เข้าเกียร์ต่อไป

      สรุปทำความเร็วและเวลาได้มากกว่าเดิมเยอะเลยครับ ขับง่ายขึ้นเยอะ

      ปล.s2000 ผมใส่สปิง กับยาง แล้วก็ปรับแต่งช่วงล่าง แค่นั้นนะ เครื่องกับเบรคไม่ได้ทำ เดิมๆ
      ปล2.ผมใช้จอย usb 150บาท เล่น (เป็นเหตุผลที่ต้องเพิ่มอัตราทดเกียร์ให้ยาวขึ้น ล้อจะได้ไม่ตระกายถนนมากจนเกินไป) ปรับโหมดเป็น Elit
      Last edited by TopKisser; 7 Apr 2011, 13:10:26.

      Comment


      • #4
        หน้าที่ 1



        Front Tire Pressure



        จากผมเอง
        แรงดันลมยางที่อ่อนจะทำให้รู้สึกนุ่มนวล หนึบขึ้น แต่จะทำให้เครื่องยนต์ต้องออกแรงมากขึ้น ในการเร่งให้รถพุ่งไปข้างหน้า แถมในกรณีที่ลมยางอ่อนไปมากๆ ยางด้านนอกจะสึกมากกว่ายางด้านในอย่างเห็นได้ชัด นั่นทำให้ยางเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควร เมื่อเจอหลุม หรือมีการกระแทก โอกาสที่ยางจะยุบตัวจนกระแทกกับกระทะล้อก็มี และที่สำคัญหากใช้ลมยางอ่อนมากๆ วิ่งทางไกล ใช้ความเร็วสูง แก้มยางบิดตัว ยางร้อนจัด แรงดันในลมยางจะขยายตัวอย่างมหาศาล มีสิทธิ์เสี่ยงต่ออาการยางระเบิดได้ (ภาคนี้ยางระเบิดได้นะครับ)

        ส่วนยางที่แข็งเกินไป คุณอาจจะออกตัวได้ดีขึ้น แต่ก็จะทำให้การยึดเกาะถนนน้อยลง เพราะหน้ายางสัมผัสพิ้นน้อยกว่า ตามมาด้วยอาการกระด้าง หรือสั่นสะเทือนของรถ ส่งผลไปถึงชิ้นส่วนต่างๆ ที่ต้องทำงานหนักขึ้น เช่น ช๊อคฯ และส่วนที่สึกอย่างเห็นได้ชัดคือส่วนกลางของดอกยาง เพราะรับน้ำหนักอยู่จุดเดียว โอกาสระเบิดก็มีเหมือนกัน หากโดนกระแทกแรงๆ เช่นกรณีตกหลุมในขณะใช้ความเร็วสูง

        สรุป
        ชอบออกตัวเร็ว แต่ไม่เกาะถนน เข้าโค้งยาก = ยางแข็ง
        ชอบเกาะถนน เข้าโค้งนิ่มรวล แต่ออกตัวช้า = ยางอ่อน

        จากคุณ chawin007

        แรงดันลมล้อหน้า
        ต้องการ ให้รถ understeer ลดแรงดันลม
        ---------------------------------------
        Rear Tire Pressure



        จากผมเอง
        ดูอันบน เหตุผลคล้ายๆกัน
        จากคุณ chawin007
        แรงดันลมล้อหลัง
        ลดอาการ Oversteer ให้ลดแรงดันลม
        ---------------------------------------
        Brake Balance



        จากผมเอง
        สมดุลเบรคหน้าหลัง
        หากท่านใช้เบรคหลังอย่างเดียวอาจทำให้ล้อล๊อคล้วมันก็จะสไลด์ได้ หรือที่เรียกว่า oversteer (อาการที่ด้านท้ายของรถเกิดการปัด และ พยายามจะแซงขึ้นหน้า)
        อาการนี้ถ้าใช้ให้เป็นประโยชน์เขาจะเรียกว่า ดรีฟ

        ถ้าเน้นที่ล้อหน้า ก็จะเบรคได้หยุดดี หนึบ ระยะทางในการเบรคจะสั้นกว่าเบรคหลัง
        เนื่องจากแรงจะถูกกดไปตามแนวแกนล้อหน้า ทำให้แรงถูกกระจายลงไปที่พื้นบางส่วนทำให้ระยะทางในการเบรคสั้นลง
        แต่ถ้าใช้เบรคหน้าอย่างเดียวอาจทำให้ล้อหน้าล๊อคแล้วไม่สามารถควบคุมรถได้ทำให้เกิด understeer
        (คือ การที่รถเข้าโค้งผ่านไปได้โดยที่รถเหมือนจะหนีจากศูนย์กลางออกไป)
        อาการอันเดอร์สเตียร์ แก้ได้ด้วยการดูลิมิตของรถ (ทั้งน้ำหนัก แอร์โล่ไดนามิค บลาๆๆๆ)
        ว่าแต่ละคัน ใช้ความเร็วในการเข้าโค้งเท่าไหร่ ถึงจะไม่เกิดอาการนี้
        จากคุณ chawin007
        Brake Balance

        คือการ ปรับแต่ง สมดุลแรงเบรก ว่าให้แรงเบรกทางไหนออกแรงห้ามล้อมากกว่า
        ถ้ากระจายไปด้านหน้า รถจะดื้อโค้ง แต่สามารถควบคุมรถได้ง่าย
        ถ้ากระจายไปด้านหลัง รถจะออกแนวคุมยากๆ แต่เข้าโค้งง่ายๆ
        ---------------------------------------
        Brake Pressure


        จากผมเอง
        แรงดันเยอะจะช่วยให้ไม่ต้องออกแรงกดเบรคเยอะ กดจึ๊กเดียวเบรคเลยทันที
        แรงดันเยอะจะทำให้ระยะการเบรคสั้นลง
        แต่แรงดันเยอะๆก็ทำให้ยางทำงานหนักและอาจจะลื่นไถลได้ง่าย

        แนะนำให้ตั้งตามที่ตัวเองถนัด ยิ่งถ้าคนมีจอยพวงมาลัยยิ่งต้องตั้งเลย
        จากคุณ chawin007
        แรงดันเบรก
        เพิ่มแรงดันเบรก ครับ +/- 20%
        Last edited by TopKisser; 7 Apr 2011, 11:32:22.

        Comment


        • #5
          หน้าที่ 2



          Steering Lock



          จากผมเอง

          ทำหน้าที่เปลี่ยนทิศทาง การเคลื่อนที่ของรถยนต์ โดยการหมุนของพวงมาลัย ซึ่งได้รับแรงหมุนมาจากผู้ขับภายในห้องโดยสาร เพื่อให้ล้อคู่หน้า หันไปข้างใด ข้างหนึ่งพร้อมๆ กัน อีกทั้งยังช่วยผ่อนแรง ทำให้เบามือ ได้ระดับหนึ่ง
          จากคุณ Beaver_XT
          Steering Lock - ยิ่งมากพวงมาลัยยิ่งเร็ว

          เสริมนิดหน่อย ถ้าคิดว่าโยกเยอะกว่าจะเลี้ยวให้เพิ่ม ถ้าคิดว่าโยกแล้วรถเลี้ยวเร็วเกินไปให้ลด
          เสริมสำหรับคนที่ใช้ mod ของ Juls และใช้จอยพวงมาลัย
          ปรับไว้ที่ 25 เป็นหลักสำหรับ 540องศา และ + - ตามองศาของจอยที่ใช้ น้อยกว่านี้ก็ลดลงสัก1-3 มากกว่านี้ก็เพิ่ม
          ---------------------------------------
          Caster Angle



          จากกูเกิ้ล
          คาสเตอร์ที่ล้อหน้ามันจะช่วยเรื่องการดีดกลับของพวงมาลัยครับ คาสเตอร์เยอะก็จะดีดกลับได้แรงมากขึ้น ฟีลลิ่งดีขึ้น วิ่งตรงก็จะรู้สึกมั่นใจมากขึ้น แต่มากไปก็กระเทือนมาก เพราะการรับแรงในแนวแกนของโช้คจะลดลง เพราะมีการถ่ายแรงไปนอกแกนมากขึ้นๆเมื่อมุมคาสเตอร์มีค่ามากขึ้นๆ ทำให้การทำงานของโช้คไม่แม่นยำเท่าแคสเตอร์น้อยๆ
          ส่วนคาสเตอร์ล้อหลัง ยังไม่มีข้อมูล

          ---------------------------------------
          Font/Rear Toe Amgle



          จากกูเกิ้ล
          โท คือ ระยะห่ างระหว่างขอบล้อซ้ายและขวาที่อยู่บนเพลาเดียวกัน
          โท - อิน คือ ระยะห่ างระหว่างล้อคู่หน้า แคบกว่าระยะห่ างระหว่างล้อคู่หน้า
          โท - เอาต์ คือ ระยะห่ างระหว่างล้อคู่หลัง แคบกว่าระยะห่ างระหว่างล้อคู่หน้า
          เซทเพื่อ ลดอาการ understeer หรือเพิ่ม oversteeer
          จากคุณ chawin007
          ยิ่ง In มาก ก็ให้รถวิ่งตรงมาก รถเสถียร
          ถ้ามุมออก ก็ทำให้รถตอบสนองได้ดีขึ้น แต่ไม่เสถียร
          ---------------------------------------
          Front/Rear Camber



          จากกูเกิ้ล

          มุมแคมเบอร์ ทำหน้าที่ต้านการเอียงข้างของรถขณะขับขี่ในทางโค้ง ลดรัศมีหมุนเลี้ยวลง เพื่อให้หมุนพวงมาลัยได้เบา ทำให้ไม่เกิดการคลอนตัวลูกปืนล้อที่ระยะฟรี และลดอาการล้อลื่น
          Last edited by TopKisser; 7 Apr 2011, 11:32:10.

          Comment


          • #6
            หน้าที่ 3



            Front Ride Height



            จากผมเอง
            เมื่อรถเตี้ยลง จุดศูนย์ถ่วงของรถก็ต่ำลงซึ่งส่งผลให้รถเกาะถนนมากขึ้น
            จากคุณ chawin007
            Ride Height
            ยิ่งเตี้ยยิ่ง เกาะถนน
            ---------------------------------------

            Rear Ride Height



            จากผมเอง
            เมื่อรถเตี้ยลง จุดศูนย์ถ่วงของรถก็ต่ำลงซึ่งส่งผลให้รถเกาะถนนมากขึ้น
            จากคุณ chawin007
            Ride Height
            ยิ่งเตี้ยยิ่ง เกาะถนน
            Last edited by TopKisser; 7 Apr 2011, 11:31:54.

            Comment


            • #7
              หน้าที่ 4





              Limited Slip Acceleration lock
              จากคุณ gamezazaza
              แบบทางเดียว LSD แบบนี้จะทำหน้าที่ส่งกำลังไปยังล้อทั้ง 2 ด้านได้ใกล้เคียงเวลาเฉพาะเหยียบคันเร่ง จะทำให้เกิดแรงบิดไปพลักดันกลไกลภายในให้ทำงาน แต่พอถอนคันเร่งก็หยุดการทำงานล้อที่ไม่ได้รับภาระก็จะหมุนฟรีเป็นปกติ LSD พวกนี้เวลารถเข้าโค้งแล้วถอนคันเร่งการทำงานจะมีลักษณะเหมือนเฟืองขับปกติ

              ---------------------------------------
              Limited Slip Deceleration lock
              จากคุณ gamezazaza
              หรือระบบ limied Slip แบบสองทาง แบบนี้จะทำงานทั้งในขณะเหยียบคันเร่งและยกคันเร่ง แบบนี้จะทำให้เวลาเข้าโค้งเกิดความยากลำบาก เพราะล้อด้านในโค้งจะหมุนตามด้วยความเร็วใกล้เคียงกับล้อด้านนอกโค้ง ส่งผลให้เกิดการฟรีทิ้งของยางจนเกิดการควบคุมรถได้ยากกว่า แต่ในทางตรงจะสามารถส่งกำลังไปยังล้อได้ดีกว่า แบบนี้เวลาเข้าโค้งรถจะเกิดอาการ Understreer
              ---------------------------------------
              Limited Slip Preload
              จากคุณ gamezazaza
              พัฒนาการใช้งานระหว่าง Limited Slip Acceleration lock และ Limited Slip Deceleration lock แบบนี้จะทำงานเต็มที่เมื่อเหยียบคันเร่งแต่พอถอนคันเร่งจะทำงานน้อยกว่า ลดอาการ Understree ได้มาก
              ---------------------------------------
              Visco Electronic Lock
              จากคุณ chawin007
              มีในเฉพาะ เล่นที่ขับสี่ล้อ AWD , 4WD(ใบบอร์ดฝรั่งบอกเรียกกับ รถ ใหญ่)
              คือ เอาไว้แบ่งกำลัง ที่ส่งไป ล้อหน้า หรือ ล้อหลัง
              ปกติจะ set ไว้กลางๆ คือกระจาย เท่าๆ กัน 50/50
              ถ้า set ข้างหน้ามากๆ รถจะ Understeer
              ถ้า หลังมากๆ OverSteer ครับ
              Last edited by TopKisser; 7 Apr 2011, 21:44:43.

              Comment


              • #8
                หน้าที่ 5



                Front/Rear Downforce


                จากผมเอง
                High downforce คือ มีแรงกดกระทำบนตัวรถสูง เหมาะกับสนามที่มีโค้งความเร็วสูง และโค้งเยอะๆ เพราะจะดูดโค้ง เข้าโค้งได้เร็ว
                Low downforce คือ มีแรงกดกระทำบนตัวรถน้อย เหมาะกับสนามที่เป็นทางตรงยาว โค้งน้อย และเป็นโค้งความเร็วต่ำ
                จากคุณ chawin007
                เพิ่มแรงยึดเกาะ จะ ทำให้เพิ่มความสามารถในการเข้าโค้งที่ความเร็วสูง
                แต่จะลดความเร็วสูงสุดที่รถสามารถทำได้ด้วย
                Last edited by TopKisser; 7 Apr 2011, 11:29:45.

                Comment


                • #9
                  หน้าที่ 6



                  Front Sway Bar



                  จากคุณ chawin007
                  คือ Anti-roll Bar ที่ติดที่ด้านหน้า (เหล็กกันโคลง นั้นเอง)
                  เพิ่มมากขึ้นหรือแข็ง เพื่อ ลด อาการของโคลง ของรถ
                  ถ้าแข็งมากเกินไปเวลาเข้าโค้งอาจทำล้อที่อยู่ด้านในของโค้ง ยกตัวขึ้นมา
                  แข็งทำให้ Understeer
                  อ่อนทำให้ Oversteer
                  ปรับให้หน้า-หลังแข็ง สำหรับเวลาขับแรงๆ ใช้ความเร็วสูง และสนามที่เรียบๆ
                  ปรับให้หน้า-หลังอ่อน สำหรับสนามเล็ก ความเร็วไม่สูง และสนามที่ ไม่เรียบเช่น ขรุขระ
                  ---------------------------------------
                  Rear Sway Bar



                  จากคุณ chawin007
                  คือ Anti-roll Bar ติดที่ด้านหลัง
                  เพิ่มมากขึ้นหรือแข็ง เพื่อ ลด อาการของโคลง ของรถ
                  ถ้าแข็งมากเกินไปเวลาเข้าโค้งอาจทำล้อที่อยู่ด้านในของโค้ง ยกตัวขึ้นมา
                  แข็งทำให้ Oversteer
                  อ่อนทำให้ Understeer
                  ปรับให้หน้า-หลังแข็ง สำหรับเวลาขับแรงๆ ใช้ความเร็วสูง และสนามที่เรียบๆ
                  ปรับให้หน้า-หลังอ่อน สำหรับสนามเล็ก ความเร็วไม่สูง และสนามที่ ไม่เรียบเช่น ขรุขระ
                  ---------------------------------------
                  Front / Reat Spring Rate


                  จากผมเอง
                  ความนุ่มของสปิง

                  ถ้าสปิงแข็ง เมื่อใช้ความเร็วสูงรถจะมีการทรงตัวที่ดี นิ่ง แต่จะมีการดีดตัวของสปิงสูงทำให้เลี้ยวได้ลำบาก เพราะเวลาคุณเข้าโค้ง รถจะยุบตัวลงไปข้างหนึ่ง และดีดกลับมาเร็วส่งผลให้เกิดความกระด้างไม่นิ่มนวล

                  แต่ถ้าเซทสปิงอ่อน ส่งผลให้ตัวรถมีอาการย้วย เข้าโค้งได้ดีนุ่มนวล แต่จะไม่ค่อยนิ่งเวลาวิ่งทางตรงด้วยความเร็วสูง และถ้าเป็นในสนามที่มีการกระโดด(jump) เมื่อรถลอยตัวและกระแทกถึงพื้น รถจะเสียความเร็วไปค่อนข้างมาก (มากกว่าการใช้สปิงแข็ง)
                  จากคุณ chawin007
                  เป็นการปรับความแข็งหรืออ่อนของ สปริง
                  แข็งจะเพิ่มการตอบสนองของรถ
                  ถ้าเพิ่มมากเกินไป จะทำให้ ล้อสูญเสียหน้าสัมผัสกับพื้นถนน กับพื้นที่ ขรุขระ เช่นเวลาออกข้างทางในแบบนี้
                  ---------------------------------------
                  Front / Rear Bump Stop



                  จากคุณ chawin007
                  เพิ่มระยะเผื่อ ที่จำกัดระยะเคลื่อนตัวของช่วงล่าง
                  ยิ่งปรับให้ยาว จะแข็ง รถจะตอบสนองได้มากขึ้น กดแล้วไป ไรแบบนี้ แต่ว่ารถจะมีความเสถียรลดลง (รถจะส่ายง่ายขึ้นไรแบบนี้)
                  ยิ่งปรับให้สั้น จะอ่อนนิ่ม รถจะตอบสนองได้น้อยลง กดแล้วไม่ไป ไรแบบนี้ แต่ว่ารถจะมีความเสถียรมากขึ้น (รถให้ตัวมากขึ้น เข้าโค้งรถจะเท มากขึ้น )
                  เอาคำแปลมาจาก ฝรั่ง อะนะ
                  " Bump Stop:
                  Rubber bumpers (often cone or wedge shaped) on the chassis that limit suspension travel. "Bottoming out" the suspension means hitting the bump stops. "
                  Last edited by TopKisser; 7 Apr 2011, 12:12:02.

                  Comment


                  • #10
                    หน้าที่ 7





                    Front Damper Fast Bump

                    จากผมเอง
                    รู้สึกจะเป็นแรงดันโชคนะครับ (การยืดตัวของโชค) เซทค่านี้คงต้องเซทให้สอดคล้องกับสปิงด้วย
                    จากคุณ chawin007
                    ถ้าอ่อน(soft) เกาะถนนมากขึ้น เหมาะสำหรับสนามเล็กๆ
                    ถ้าแข็ง เพิ่ม understeer (อยู่ในการควบคุม) หรือ ทำให้รถเข้าโค้งได้น้อยลงในสนามความเร็วสูง
                    (อันแปลไม่ค่อยดีอะนะครับ งงๆ อยู่ ไม่เก่งฮ่า แต่อยากช่วย)
                    ---------------------------------------
                    Front Damper Slow Bump
                    จากคุณ chawin007
                    แข็ง (Stiff) เพิ่ม การเกิด Oversteer หรือ ให้รถเข้าโค้งได้ดีขึ้น (เวลาขับจะดูไม่เสถียร)

                    ---------------------------------------
                    Front Damper Fast Rebound
                    จากคุณ chawin007
                    แข็งจะให้ผลลัพธิ์ โดยรถ Oversteer น้อยลง เมื่อวิ่งบน ทางไม่เรียบ
                    ---------------------------------------
                    Front Damper Slow Rebound
                    จากคุณ chawin007
                    แข็งจะให้ Oversteer น้อยลง ในโค้ง และออกจากโค้ง
                    ---------------------------------------
                    Rear Damper Fast Bump
                    จากคุณ chawin007
                    อ่อนหรือ นิ่ม เกาะถนนใน โค้ง
                    แข็ง เพิ่ม Understeer
                    ---------------------------------------
                    Rear Damper Slow Bump
                    จากคุณ chawin007
                    แข็งเพื่อ เพิ่ม Oversteer
                    ---------------------------------------
                    Rear Damper Fast Rebound
                    จากคุณ chawin007
                    แข็งจะเพิ่ม Oversteer เมื่อ ทางไม่เรียบ ออกข้างทาง
                    ---------------------------------------
                    Rear Damper Slow Rebound
                    จากคุณ chawin007
                    แข็ง เพิ่ม OverSteer ในโค้ง และออก โค้ง
                    Last edited by TopKisser; 7 Apr 2011, 12:53:46.

                    Comment


                    • #11
                      หน้า 8





                      Gear 1-7
                      จากคุณ chawin007
                      ปรับไปด้าน Speed (ด้านขวา) อัตราทดน้อย ลง อัตราเร่ง ลด แต่เพิ่ม Top speed
                      ---------------------------------------
                      Final Drive
                      จากคุณ chawin007
                      Final Driver
                      ก็จะเหมือนกันครับ ปรับไปด้าน Speed (ด้านขวา) อัตราทดน้อย ลง อัตราเร่ง ลด แต่เพิ่ม Top speed
                      แต่จะปรับแล้ว มีผลกระทบ ทั้งระบบ หรือ ทุกเกียร์นั้นเองครับ
                      Last edited by TopKisser; 7 Apr 2011, 11:28:24.

                      Comment


                      • #12
                        แรงดันลมล้อหน้า
                        ต้องการ ให้รถ understeer ลดแรงดันลม

                        แรงดันลมล้อหลัง
                        ลดอาการ Oversteer ให้ลดแรงดันลม


                        แรงดันเบรก
                        เพิ่มแรงดันเบรก ครับ +/- 20%

                        Toe In
                        ยิ่ง In มาก ก็ให้รถวิ่งตรงมาก รถเสถียร
                        ถ้ามุมออก ก็ทำให้รถตอบสนองได้ดีขึ้น แต่ไม่เสถียร

                        Ride Height
                        ยิ่งเตี้ยยิ่ง เกาะถนน



                        ได้แต่คร่าวๆ อะครับ


                        เหมือน ปรับ DownForce หายอะนะครับ


                        เพิ่ม เกียร์ ละกัน

                        ปรับไปด้าน Speed (ด้านขวา) อัตราทดน้อย ลง อัตราเร่ง ลด แต่เพิ่ม Top speed

                        Comment


                        • #13
                          กำลังคิดจะแปลอยู่พอดีเลยครับ
                          ตอนนี้กำลังจูน Evo9 คู่ใจอยู่
                          ที่รู้ๆ limited slip

                          1)Limited Slip Acceleration lock แบบทางเดียว LSD แบบนี้จะทำหน้าที่ส่งกำลังไปยังล้อทั้ง 2 ด้านได้ใกล้เคียงเวลาเฉพาะเหยียบคันเร่ง จะทำให้เกิดแรงบิดไปพลักดันกลไกลภายในให้ทำงาน แต่พอถอนคันเร่งก็หยุดการทำงานล้อที่ไม่ได้รับภาระก็จะหมุนฟรีเป็นปกติ LSD พวกนี้เวลารถเข้าโค้งแล้วถอนคันเร่งการทำงานจะมีลักษณะเหมือนเฟืองขับปกติ
                          2)Limited Slip Deceleration lock หรือระบบ limied Slip แบบสองทาง แบบนี้จะทำงานทั้งในขณะเหยียบคันเร่งและยกคันเร่ง แบบนี้จะทำให้เวลาเข้าโค้งเกิดความยากลำบาก เพราะล้อด้านในโค้งจะหมุนตามด้วยความเร็วใกล้เคียงกับล้อด้านนอกโค้ง ส่งผลให้เกิดการฟรีทิ้งของยางจนเกิดการควบคุมรถได้ยากกว่า แต่ในทางตรงจะสามารถส่งกำลังไปยังล้อได้ดีกว่า แบบนี้เวลาเข้าโค้งรถจะเกิดอาการ Understreer
                          3)Limited Slip Preload พัฒนาการใช้งานระหว่าง Limited Slip Acceleration lock และ Limited Slip Deceleration lock แบบนี้จะทำงานเต็มที่เมื่อเหยียบคันเร่งแต่พอถอนคันเร่งจะทำงานน้อยกว่า ลดอาการ Understree ได้มาก


                          เดี๋ยวผมไปอาบน้ำแล้วเดี๋ยวมาช่วยแปลเน้อ
                          ปล. ผมอยากเข้าไปแก้ในตัวเกมให้เป็นภาษาไทยเลย แต่ทำไม่เป็น

                          Comment


                          • #14
                            Originally posted by chawin007 View Post
                            เหมือน ปรับ DownForce หายอะนะครับ
                            อยู่หน้า 5 ครับ


                            ------------------

                            ขอบคุณคุณ chawin007 กับคุณ gamezazaza มากครับ ผมอัพเดทให้แล้วนะครับ



                            ใครที่สนใจก็ลงได้เรื่อยๆนะครับจะมาอัพเดทให้ จะแปลซ้ำกับของเดิมที่มีคนแปลแล้วก็ได้ครับ ผมจะลงชื่อไว้ให้ทั้งสองคนเลย (ถ้ามีคนแปล3คนก็จะลงให้ 3คน มี4ก็ลง4 บลาๆๆ)

                            เพื่อให้ผู้อ่านเลือกอ่านเอาเองว่าจะอ่านของใคร หรือเข้าใจอันไหน
                            Last edited by TopKisser; 6 Apr 2011, 22:38:52.

                            Comment


                            • #15
                              หน้า 2
                              Steering Lock - ยิ่งมากพวงมาลัยยิ่งเร็ว

                              เสริมนิดหน่อย ถ้าคิดว่าโยกเยอะกว่าจะเลี้ยวให้เพิ่ม ถ้าคิดว่าโยกแล้วรถเลี้ยวเร็วเกินไปให้ลด
                              เสริมสำหรับคนที่ใช้ mod ของ Juls และใช้จอยพวงมาลัย
                              ปรับไว้ที่ 25 เป็นหลักสำหรับ 540องศา และ + - ตามองศาของจอยที่ใช้ น้อยกว่านี้ก็ลดลงสัก1-3 มากกว่านี้ก็เพิ่ม

                              Comment

                              Working...
                              X