โมให้ดีกันเยอะแล้ว มาม๊ะ....มาโมให้"เจ๊ง"กันดีกว่า

[keang]

Sanyo Organic semiconductive electrolyte

Sanyo Organic semiconductive electrolyte type

• Basic construction


• Differences of electrolyte and in characteristics between OS-CON and an electrolytic capacitor



• Organic semiconductive electrolyte type / Radial lead type


• SC series - Standard

Suitable for noise limiters and switching power supplies that make a point of high frequency characteristics.
Also, make use of it when needed long life span and high reliability.

• SH series - Long life (105C 5,000h)

SH series has a long life (guaranteed at105C for 5,000h) with keeping high frequency characteristics.
Please use the SH series for industrial equipment that requires high reliability.

• SP series - High capacitance, Low ESR, Optimum for Audio

The characteristics of SP series are large capacitance (about 2times of previous value) and low ESR (about half of previous value).
It is optimum to use around MPU of computer equipment.
Also, suitable for audio because OFC is used as the lead wires.
+++ ไม่อยากจะเชื่อ แค่ใช้ขาทำจาก "ลวดOFC" ก็ใช้คำว่า "FOR AUDIO" แล้ว +++

• SA series - High capacitance, Small size
SA series is miniaturized SC series with large capacitance.
Suitable for high frequency switching power supplies, etc.

• SL series - Low profile

The SL series is low profile with a category upper limit temperature of 105C.
Use the SL series for compact and slim designs, such as VTRs, video cameras, etc.

• SS series - Small size of SC, SA and SL series

SS series is a miniaturized version of SC, SA and SL series.
Suitable for switching power supplies, etc.
to make more compact.


เวลานำมาใช้งานก็เลือกรุ่นของตัวเก็บประจุให้ตรงกับประเภทของงาน เพื่อประสิทธิสูงสุดของตัวอะหลั่ย

[ManiacMaew]

กำ หาปุ่ม edit ข้อความไม่เจอ
งั้นมา review vishay mkt 1813 ต่อที่นี้ล่ะกัน

เรื่องมิติ
ด้านซ้ายขวา แคบกว่า silmic II เล็กน้อย โดยเฉพาะเวลากว้าง*ลึก จะเห็นชัด
ด้านลึก คล้ายๆ fw คือชิ้นที่ใกล้ตัวสุดห่.างออกจากตัวไปหน่อย แต่ชิ้นที่ไกลสุดไกลกว่าnichicon
ด้านสูง อืม เสียงที่อยู่มิติด้านสูง*ลึก*กว้าง สูงขึ้นเล็กน้อย
แบบว่าไงล่ะ เช่นกลองชุด เสียงsnareหรือhihat หว่า เรียกไม่ถูก จะอยู่สูงขึ้นมากจากเสียงกลอง
มากกว่าfwหรือsilmic II

การแยกชิ้นเสียง ทำได้กลางๆ ขอบเสียงไม่ตีกัน ขอบไม่มัว แต่ขอบเสียงก็ไม่คมหรือชัดมาก
ไม่มีติดเสียงก้องๆ หรือ รู้สึกเหมือนมีหมอกคลุม

[milestone]

vishay mkt 1813 เท่าที่ฟังดูมันยังไงดีละเนี่ย ดีหรือไม่ดีหว่า -*-
ควรเอาไปไว้ส่วนไหนครับ แล้วถ้าเอาไปไบแคปนี่จะเหมาะมั๊ย

อีกอย่าง C ของ SAMWHA นี่หาจากไหนเหรอครับ ว่าจะเอามาลองบ้าง

[Wizardmans]

C ของ SAMWHA หาได้ในNPE ครับ

[Wizardmans]

Sanyo Organic semiconductive electrolyte type

• Basic construction


• Differences of electrolyte and in characteristics between OS-CON and an electrolytic capacitor



• Organic semiconductive electrolyte type / Radial lead type


• SC series - Standard

Suitable for noise limiters and switching power supplies that make a point of high frequency characteristics.
Also, make use of it when needed long life span and high reliability.

• SH series - Long life (105C 5,000h)

SH series has a long life (guaranteed at105C for 5,000h) with keeping high frequency characteristics.
Please use the SH series for industrial equipment that requires high reliability.

• SP series - High capacitance, Low ESR, Optimum for Audio

The characteristics of SP series are large capacitance (about 2times of previous value) and low ESR (about half of previous value).
It is optimum to use around MPU of computer equipment.
Also, suitable for audio because OFC is used as the lead wires.
+++ ไม่อยากจะเชื่อ แค่ใช้ขาทำจาก "ลวดOFC" ก็ใช้คำว่า "FOR AUDIO" แล้ว +++

• SA series - High capacitance, Small size
SA series is miniaturized SC series with large capacitance.
Suitable for high frequency switching power supplies, etc.

• SL series - Low profile

The SL series is low profile with a category upper limit temperature of 105C.
Use the SL series for compact and slim designs, such as VTRs, video cameras, etc.

• SS series - Small size of SC, SA and SL series

SS series is a miniaturized version of SC, SA and SL series.
Suitable for switching power supplies, etc.
to make more compact.


เวลานำมาใช้งานก็เลือกรุ่นของตัวเก็บประจุให้ตรงกับประเภทของงาน เพื่อประสิทธิสูงสุดของตัวอะหลั่ย

OScon เป็น Capacitor ที่จ่ายกระแสได้สูงมาก ถ้าเทียบกับ Capacitor ทุกรุ่นทุกยี่ห้อในตลาด ที่ทน volt ได้เท่ากัน เป็นเหตุผลที่นิยมนํามาใช้ เป็นsupply filter ภาค Digital

[ManiacMaew]

กรรมแท้ วันนี้ ถอดมาจะแก้ขาc vishayให้สั้นลง เพราะใส่ลองไว้ไม่กล้าตัดขา
ดัดไปดัดมาขาหลุดออกจากเรซิ่นซะงั้น
กลับไปใช้ silmic เหมือนเดิม แก้ขัด

vishay mkt 1813 เท่าที่ฟังดูมันยังไงดีละเนี่ย ดีหรือไม่ดีหว่า -*-
ควรเอาไปไว้ส่วนไหนครับ แล้วถ้าเอาไปไบแคปนี่จะเหมาะมั๊ย

คือเสียงมัน flatมากครับ flat ในเชิง บาลานซ์ ทุ้มกลางแหลมน่ะครับ
เก็บรายละเอียดได้ดีกว่าsilmicและ nichicon นิดหน่อย
เรื่องมิติ ขอบเสียง ก็กลางๆ อย่างที่อธิบายไปแล้ว มีจุดเด่นด้อยต่างกันเล็กน้อย

ควรเอาไปใส่ตรงไหน นั้นอันนี้แล้ว แต่การบาลานซ์แต่ล่ะคนเลยครับ
เพราะมันflat
ไม่เหมือนnichon fw ที่ถ้าเอาไปใส่แถวภาคsub แล้วเบสมันจะพาลบาง

ถึงผมยังไม่ได้ลองเอาไปbicap แต่ผมว่ามันก็ไม่เหมาะกับการbicap น่ะ
เพราะเสียงมันกลางเกิน เอาไปเสริม ก็ไม่น่าจะช่วยชดเชยจุดด้อยของตัวเดิมได้เท่าไร(เดา)

เอาไปใส่ตรงไหนก็ได้ที่ของเดิมค่าเท่ากันหรือใกล้เคียง
----------
ไหนๆแกะมาทำc พังไปตัวแล้ว เลย ทำสายดินต่อกับตัวถัง7809แบบมีconnector ถอดได้ดูด้วยเลย
ตัดconnector มาจาก สายต่อ3pin ของเคสตัวเก่า
--------------
กำลังปวดตับอยู่
ลองกลับมาใช้silmic ซ้ายขวา มันกว้างกว่าจริงๆ แต่เบสoff side ไปนิด
แต่vishay mkt มันให้ด้านสูงดีกว่า +แหลมดีกว่าหน่อย +เก็บรายละเอียดดีกว่า
จะซื้อvishay มาใส่คืน ก็กลัวเสียซ้ายขวา เอาไงดีหว่า ตำแหน่งอื่น ก็อัดเข้าไปซะเยอะแหล่ะ
ทั้ง nippon , muse kz+fa ,elna denon , pana fm

[milestone]

ท่านนี่มือหนักจริงๆ -*-

[keang]

ลองกลับมาใช้silmic ซ้ายขวา มันกว้างกว่าจริงๆ แต่เบสoff side ไปนิด
แต่vishay mkt มันให้ด้านสูงดีกว่า +แหลมดีกว่าหน่อย +เก็บรายละเอียดดีกว่า
จะซื้อvishay มาใส่คืน ก็กลัวเสียซ้ายขวา เอาไงดีหว่า ตำแหน่งอื่น ก็อัดเข้าไปซะเยอะแหล่ะ
ทั้ง nippon , muse kz+fa ,elna denon , pana fm

ยังมีที่ให้เล่นอีกหลายจุด
• Input = C1 ต่อกับ ขา2 + C2 ต่อกับ ขา4
ค่า1ไมโคร ใส่ไรไว้อยู่ ลองหาCฟิลม์ที่เสียงครบๆ มาใส่เข้าไป

• Ripple Filter = C3 ต่อกับ ขา1
ใส่ Sprague รุ่น678D ถ้าหาไมได้ก็ใช้Nippon Chemi-Con ตัวสีน้ำเงิน รุ่น678D / ถ้าจะเผื่อเสียงช่วงกลางด้วยก็ใช้ ROE นัฐพงษ์มีขาย

• Impulse noise prevention = C4 ต่อกับ ขา6
ใส่ Sanyo OS-CON รุ่นSPหรือSSก็ได้ + BI-CAP ด้วย Cฟิลม์(ขาห่.าง5มิล) ERO ค่า0.01uF 50v



• C mylar สีน้ำตาลแดง 2ตัว ริมด้านขวาติดกับL เปลี่ยนเป็นWIMA รุ่นMKS


สงสัยมานานละ ดูยังงัยว่าฟิวส์ตัวนั้นเป็นฟิวส์เงิน ขั้วของตัวฟิวส์ก็ชุบนิคเกิ้ล


เปลี่ยนอะหลั่ยแบบเดามั่ว เสียงอาจจะใกล้เคียงกับแนวที่ฟังอยู่
ถ้าหูเบาหลงเชื่อ ลองแล้วเสียงไม่ถูกใจ ไปต่อว่าคุณmilestoneได้เลย


--------------------------------------------------------------------


=
Vishay MKT1813 จริงๆคือยี่ห้อERO (โดนVishayซื้อไปก็เลยโดนเปลี่ยนชื่อเป็นVishay Roederstein)
ERO , ROE เป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัทเดียวกัน คือ Roederstein
Cฟิลม์จะใช้ชื่อ ERO / Cอิเลคทรอไลติคจะใช้ชื่อ ROE


ERO รุ่นEROMAK-1 ชนิด Polycarbonate Film & Foil ค่าทนไฟ63v
เป็นของรุ่นเก่า ใครเจอก็ลองซื้อมาลองเสียงดู อาจจะชอบก็ได้

[ManiacMaew]

ยังมีที่ให้เล่นอีกหลายจุด
• Input = C1 ต่อกับ ขา2 + C2 ต่อกับ ขา4
ค่า1ไมโคร ใส่ไรไว้อยู่ ลองหาCฟิลม์ที่เสียงครบๆ มาใส่เข้าไป
(ของเก่ามันเป็นsmd อยู่ด้านล่าง ติดกับตัวถัง ยังหาตัวที่ยัดลงไปไม่ได้
จริงๆ อาจจะแก้มาบัดกรีตรงด้านบนก็ได้ แต้อาจจะยากหนักข้อไปอีกเพราะด้านบนอะไหล่เบียดเต็มแล้ว+มือสั่น)

• Ripple Filter = C3 ต่อกับ ขา1
ใส่ Sprague รุ่น678D ถ้าหาไมได้ก็ใช้Nippon Chemi-Con ตัวสีน้ำเงิน รุ่น678D / ถ้าจะเผื่อเสียงช่วงกลางด้วยก็ใช้ ROE นัฐพงษ์มีขาย
(ตรงนั้นตอนนี้ใช้ nippon 511d อยู่)


• Impulse noise prevention = C4 ต่อกับ ขา6
ใส่ Sanyo OS-CON รุ่นSPหรือSSก็ได้ + BI-CAP ด้วย Cฟิลม์(ขาห่.าง5มิล) ERO ค่า0.01uF 50v

(คือตำแหน่งที่ปวดตับกับมันตอนนี้)

• C mylar สีน้ำตาลแดง 2ตัว ริมด้านขวาติดกับL เปลี่ยนเป็นWIMA รุ่นMKS
(ภาคขยายsub
อยากเปลี่ยนมานานแหล่ะ แต่อ่านค่าc mylarไม่เป็น+ ยังงงๆ อยู่ว่าc mylar มีจุดเด่นจุดด้อยตรงไหน)


สงสัยมานานละ ดูยังงัยว่าฟิวส์ตัวนั้นเป็นฟิวส์เงิน ขั้วของตัวฟิวส์ก็ชุบนิคเกิ้ล
(มั่วครับพี่น้อง ตรงไหนผมผิดช่วยแก้ด้วยครับ)

เปลี่ยนอะหลั่ยแบบเดามั่ว เสียงอาจจะใกล้เคียงกับแนวที่ฟังอยู่
ถ้าหูเบาหลงเชื่อ ลองแล้วเสียงไม่ถูกใจ ไปต่อว่าคุณmilestoneได้เลย
(ลำโพงทำขำๆ เลยไม่ละเอียด บางจุดไม่ได้เทสเทียบทีล่ะตัว เปลี่ยนยกแผงเลย แต่ถ้าทำพังเสียงไม่ออกเลยอาจจะไม่ขำแล้ว55+)

--------------------------------------------------------------------

เบื่อๆ ปัญหาเก่ายังไม่รู้แก้ไง เราก็ทดลอง เอา silver mic 1800pF/1000 ยี่ห้อ CD
มาbicap denon ที่เป็น filter ภาคsatt

bicap กับตัว denon ที่วงในรูป
เรื่องแนวเสียงทุ้มกลางแหลมเว้นไว้ก่อนล่ะกันรอเบิร์น์

มิติ ด้านสูงลดลงนิดหนึ่ง ไม่ค่อยแปลกใจ (แต่ยังดีกว่าของเดิมๆของsony พี่แกbicapมา ประมาณ
6-8จุดได้มั้ง ไม่แน่ใจ)
แต่มิติ ด้านกว้าง โดยเฉพาะ กว้าง*ลึก เปลี่ยนอย่างแรง เปลี่ยนไงรอเบิร์น ค่อยบอกล่ะกัน

จริงก็เปลี่ยนหมดแหล่ะ กว้าง* ลึก*สูง
เหมือนได้ลึก มาแทนสูง ไงไม่รู้

จะว่าไป ตอนเทสเรื่องมิติ นี้ นั่งต้องตำแหน่งเดิมเลยน่ะ หัวห้ามก้ม ห้ามเงย
ผิดมุมนิดเดียวพี่แก เปลี่ยนที่เลย

------------
พอใส่ silver mica เข้าไปแล้วมีปัญหาไงไม่รู้ สายดิน ของ7809 ที่ต่อไว้ ต่อแล้ว มีเสีย
แทรก บางครั้งดังปุ๊ กลัวดอกลำโพงจะพังเลย เลยต้องแยก กระถางสายดิน
7809ไว้อีกกระถาง สายดินคอม อีกกระถาง
ถึงหาย
----------
ปวดตับกับ7809 ไม่น่าต่อตรงขาc เลย มันดีกว่าก็จริง แต่มันบอบบางกว่า โดนนิดหน่อยลายทอแดงหลุด
ตอนนี้แก้ เอา สาย 18awg กับ ขาลวดทองแดงชุบทอง ตัดมาจากขาc crerafine ขาทอง มาต่อแทน
+เพิ่มจุดจั้มป์บางจุด ตามลายpcb เขาทำให้ใส่ได้2เส้นอยู่แล้วแต่มันใส่มาให้เส้นเดียว ไปมาที่เดียวกัน เลยเอา18awgเส้นฝอย มาจั้มเพิ่มอีกเส้น
----------
ผลการbicap silver mica
ตั้งแต่ใส่มาใหม่ๆ จนถึงตอนนี้่ การเบิร์น แทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย
เรื่องมิติ
ก่อนbicap หลังbicapเหมือนด้านขวา
รูปประกอบ คร่าวๆ ด้านว้ายคือ่กอนbicap ด้านขวาคือหลังbicap

ก่อน bicap สูงกว่านิดหน่อย
ด้านลึกจะน้อยกว่า เสียงเบสจะoffside โดนเขี่ยๆ มาด้านหน้า บางทีล้ำหน้าเสียงcenter
ชิ้นเสียงที่อยู่มิติด้านลึกจะกว้างกว่าแต่ก็ตื้นกว่า

หลังbicap ด้านสูงลดลงเล็กน้อย ซ้ายขวา ถ้าชิ้นเสียงในมิติด้านลึกอยู่ตื้นแทบจะไม่ต่างเลย
แต่ด้านลึก ไปไกลตัวมาก ซ้ายขวาจะหดลงเยอะกว่ามาก
เสียงกลอง เสียงเบส ถอยกลับไปด้านไกลตัว

การเก็บรายละเอียดเสียงหลังbicap ทำได้ดีกว่าเดิม ในช่วงกลางmid -แหลมดีกว่าเล็กน้อย แต่ยังไม่ดีเท่า
ใส่vishayที่ตำแหน่งขา6 กลางล่าง ถึงdeepเบส เก็บรายละเอียดไม่ได้


เสียงกลางถึงแหลมฟังดูหวานขึ้น แหลมที่ได้ต่างจากใส่nichicon fw แหลมfwมันจะออกบาดๆ
เก็บรายละเอียดหางเสียงได้ดีกว่าหน่อย แต่ติดฟุ้งซ่า ขอบไม่ฃัด
bicap ด้วยsilver micaออกหวานๆ อบอุ่นกว่า ขอบเสียงทำออกมาได้กลางๆ ชัดกว่าfw แต่ก็ไม่ชัดมาก

เบส ความกระโชกโฮกฮากลดลง เสียงกระแทกกระทั้นลดลงบ้าง

[milestone]

แง่ว ทำไมหวยมาออกทีผมละเนี่ย -*-

ตอนนี้อยู่ในช่วงเดินทางมีอะไรลองผมก็ลองไปเรื่อยล่ะ เป็นประสบการณ์
ผมเป็นคนที่ชอบลองด้วยตัวเอง เวลามีใครมาถามอย่างน้อยก็ไม่ได้แค่จำเค้ามาเล่าต่อ ^^

[keang]

• Input = C1 ต่อกับ ขา2 + C2 ต่อกับ ขา4
ค่า1ไมโคร ใส่ไรไว้อยู่ ลองหาCฟิลม์ที่เสียงครบๆ มาใส่เข้าไป
(ของเก่ามันเป็นsmd อยู่ด้านล่าง ติดกับตัวถัง ยังหาตัวที่ยัดลงไปไม่ได้
จริงๆ อาจจะแก้มาบัดกรีตรงด้านบนก็ได้ แต้อาจจะยากหนักข้อไปอีกเพราะด้านบนอะไหล่เบียดเต็มแล้ว+มือสั่น)
ลองหาทางเปลี่ยนดู เพราะอินพุทเป็นSMDเนี่ย ขอบอกเลยว่า คุณภาพเสียงมันสาหัสเอาเรื่อง
คุณภาพมันก็สาหัสแบบเดียวกับที่เครื่องรุ่นใหม่ๆหรือซาวน์การ์ด ใช้CแบบSMD มาต่อBI-CAP, มาต่อเป็นทางผ่านสัญญาณเสียง นั่นแหล่ะ


• Ripple Filter = C3 ต่อกับ ขา1
ใส่ Sprague รุ่น678D ถ้าหาไมได้ก็ใช้Nippon Chemi-Con ตัวสีน้ำเงิน รุ่น678D / ถ้าจะเผื่อเสียงช่วงกลางด้วยก็ใช้ ROE นัฐพงษ์มีขาย
(ตรงนั้นตอนนี้ใช้ nippon 511d อยู่)
ถ้าหารุ่น678Dได้ ลองเอามาเปลี่ยน แล้วฟังเสียงเทียบกันดู
ผู้ผลิตทุกยี่ห้อ เค้าผลิตออกมาเป็นสิบๆรุ่น เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานแต่ละประเภท


• C mylar สีน้ำตาลแดง 2ตัว ริมด้านขวาติดกับL เปลี่ยนเป็นWIMA รุ่นMKS
(ภาคขยายsub
อยากเปลี่ยนมานานแหล่ะ แต่อ่านค่าc mylarไม่เป็น+ ยังงงๆ อยู่ว่าc mylar มีจุดเด่นจุดด้อยตรงไหน)
ไม่ถาม แล้วเมื่อไหร่จะรู้ละครับ
ดูที่ตัวมัน มีพิมพ์ไรไว้บ้าง ก็อปมาโพสเลย จะได้รู้ค่า

ตอนนี้อยู่ในช่วงเดินทางมีอะไรลองผมก็ลองไปเรื่อยล่ะ เป็นประสบการณ์
ผมเป็นคนที่ชอบลองด้วยตัวเอง เวลามีใครมาถามอย่างน้อยก็ไม่ได้แค่จำเค้ามาเล่าต่อ ^^

นี่คือจุดแตกต่างของ DIYer กับ คนท่องจำ, คนลอกการบ้าน


---------------------------------------------------------------------------


ตัวเก็บประจุ ประเภทAluminum Organic Polymer ไม่ใช่มีแค่Sanyoยี่ห้อเดียวที่ทำ ยังมีอีกหลายๆยี่ห้อที่ทำ แต่ไม่หลุดมาบ้านเรา เราเลยไม่ได้เห็นจนคุ้นตากัน เช่น sprague, mallory, marcon, nichicon, nippon chemi-con, roe ฯลฯ

ถ้าใครท่องเวปร้านขายอะหลั่ยต่างประเทศ จะมีโอกาสเห็นยี่ห้ออื่นๆ ซึ่งมีราคาสูงกว่าSanyoมากบ้างน้อยบ้าง
ดังนั้นจึงไม่แปลกใจ ที่เห็นผู้ผลิตเครื่องส่วนใหญ่เลือกใช้Sanyoกันมาก ส่วนนึงก็เป็นเพราะเรื่องราคาค่าตัวที่ไม่สูงเกินไป

[ManiacMaew]

- ตรง1uf ด้านล่างนี้แหล่ะตัวดี ไซส์ที่ใส่ได้ คือ หนาไม่เกินsilver mica 1800pf หรือ wima mks ค่า0.1 เจอหางหนูตัวควายๆ
บางยี่ห้อก็อยากลอง แต่ยัดไม่ลงแน่ๆ
-c nippon spargue roe ero mallory rifa และอื่นๆ พวกนี้ผมก็อยากลองหลายรุ่นน่ะ ถ้ามีเงินมีเวลา แล้วจะไปหามาลอง
- c mylar เก็บไว้ก่อนคร้าบ ตอนนี้ทำหลายจุดมั่วไปเรื่อย เริ่มงง
---------------

วันนี้ลองเอาcยี่ห้อIC แบบfilm มั้ง ตัวกลมหางหนู สีเหลือง ค่า2.2 ใส่ไปแทนตำแหน่งที่เคยลองเอาteapoแล้วถอดดู
ผลก่อนเบิร์น คือมิติมันกว้างมากๆ
---------------------
ไปเจอมาที่ebay พวก 7805 7905 ตัวทอง
http://cgi.ebay.com/MC7805CP-MOTOROL...ht_1228wt_1135
http://cgi.ebay.com/VOLTAGE-REG-MC79...6#ht_782wt_909
http://cgi.ebay.com/MC7905CP-MOT-197...ht_1170wt_1135
----------------------

ซน โมมั่วอีกรอบ
ดูวงจรamp ของ sat แล้ว มันไม่ได้ต่อ c คร่อม ระหว่างv+ และ v-ไว้ ในdatasheet มันก็ไม่ได้บอกไว้

เคยเอาวงจรheadamp มาให้ดูทีหนึ่งที่เป็นcmoy เขาต่อ V+ inคร่อมไว้กับสายดิน แล้วบอกว่า ถ้าใช้ ค่าถึง1 uF จะกรองกระแสที่ต่ำกว่า10Khzออก
(แต่นั้นเขาใช้แค่ค่า0.1 เพราะ เขาจะใส่ตัวเล็ก)

เลยเอาบาง ต่อ c คร่อม v+ กับ v- ถ้าสองข้างของsatt ด้วย wima mkp 0.1
(ของเดิม pcb ทำลายทองแดงให้ต่อc smdได้ไว้อยู่แล้วน่ะ ไม่รู้ประหยัดงบหรือว่าอะไร เลยไม่ได้ใส่ลงมาซะงั้น)

เหมือนจะได้ มิติ ด้านสูงคืนมา ไม่แน่ใจหลอกตัวรึเปล่า
แต่เสียงของsattเบาลง ต้องปรับvolume หลักเพิ่มขึ้นแล้วลดตัวปรับbass(ลองดูวงจรใหม่แล้ว
มันน่าจะเป็น volume control ของsub มากกว่าเป็น crossover คือมันไม่ได้ตัดความถี่ที่ตัดลงsub แต่มันปรับระดับ
เสียงซับมากกว่า)
รอเบิร์น ดีไม่ดีจะเป็น effect หลัง เบิร์น c ยี่ห้อic

โมมั่วก็เงี้ย หลงทางเอง = ="

ตอนนี้เสียงออกมาสไตล์คนแก่ฟังสบายๆ 55+

[keang]

ตรง1uf ด้านล่างนี้แหล่ะตัวดี ไซส์ที่ใส่ได้ คือ หนาไม่เกินsilver mica 1800pf หรือ wima mks ค่า0.1 เจอหางหนูตัวควายๆ
บางยี่ห้อก็อยากลอง แต่ยัดไม่ลงแน่ๆ

พวกCฟิลม์ แบบขา5มิล ร้านนัฐพงษ์ขายWIMA รุ่นMKS ขา5มิล ตัวนึงประมาณ20บาทมั้ง
แต่จุดนี้แนะนำให้ใช้ค่าความจุสูงกว่าที่เค้าบอกมา ค่าที่มีขาย 2.2uF, 3.3uF, 4.7uF(ตัวนี้แพงหน่อยประมาณ80บาท)


--------------------------------------------------------------


ตัวเก็บประจุยี่ห้อ IC ชื่อเต็มคือ Illinois Capacitor
เสียงบางๆ มีแต่ด้านกว้าง ไม่มีด้านลึก แบบที่ManiacMaewเห็นนั่นแหล่ะ


--------------------------------------------------------------


ManiacMaewเคยสงสัยว่า DAC จีนตัวนี้ ผู้ผลิตใช้ไอซีเบอร์LM1875(ไอซีแอมป์ขยายเสียง)ทำหน้าที่ไรในเครื่องนี้
ตอนนี้ผมรู้คำตอบแล้ว ทำหน้าที่เป็น Virtual Ground แบบเดียวกับ ที่DAC Z2ใช้BUF634นั่นแหล่ะ



edit
ManiacMaew น่าจะทำ "DAC Z2" ให้กลับมาใช้งานได้ปรกติอีกครั้งน่ะ
หลังจากนั้นก็ "รวบรวมประสบการณ์ที่ได้จากการทดลองที่ผ่านมา" ไว้ในโพสเดียว
ตั้งเป็นประทู้ใหม่สำหรับDAC Z2โดยเฉพาะหรือจะโพสในนี้ก็ได้ คนที่ตามเรื่องZ2จะได้เข้าใจและทำตามได้ง่ายขึ้น

ผมว่า "แฟนคลับของDAC Z2" ก็มีไม่น้อยน่ะ จะได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์แลกเปลี่ยนมุมมองกันในกลุ่มผู้ใช้

[pluanant]

โฮก แว่บไปสอบมากันเพียบ จดแหลก
ตอนนี้มีโปรเจ็กใหม่เดียว เอามา ให้ชมกันครับ งบ200 บาท !! > w <

[ManiacMaew]

พวกCฟิลม์ แบบขา5มิล ร้านนัฐพงษ์ขายWIMA รุ่นMKS ขา5มิล ตัวนึงประมาณ20บาทมั้ง
แต่จุดนี้แนะนำให้ใช้ค่าความจุสูงกว่าที่เค้าบอกมา ค่าที่มีขาย 2.2uF, 3.3uF, 4.7uF(ตัวนี้แพงหน่อยประมาณ80บาท)

ไม่อยากได้ MKSอ่ะแหลมเกิน ตอนนี้แหลมพอแล้ว MKP ก็หมดอีก

--------------------------------------------------------------


ตัวเก็บประจุยี่ห้อ IC ชื่อเต็มคือ Illinois Capacitor
เสียงบางๆ มีแต่ด้านกว้าง ไม่มีด้านลึก แบบที่ManiacMaewเห็นนั่นแหล่ะ

ตอนนี้เรื่องมิติ กว้าง*ลึก โอเคแล้ว สูงน้อยไปนิดแต่พอทน
เดี๊ยวลงรูปแล้วจะคุยต่อเรื่องนี้


--------------------------------------------------------------


ManiacMaewเคยสงสัยว่า DAC จีนตัวนี้ ผู้ผลิตใช้ไอซีเบอร์LM1875(ไอซีแอมป์ขยายเสียง)ทำหน้าที่ไรในเครื่องนี้
ตอนนี้ผมรู้คำตอบแล้ว ทำหน้าที่เป็น Virtual Ground แบบเดียวกับ ที่DAC Z2ใช้BUF634นั่นแหล่ะ
กรรม= =" ทำไมไม่ใช้หม้อแปลงรอบเดียวให้จบๆไปเลย
คงเน้นพกพาสิน่ะ
จริงๆดูวงจร1793แล้ว ใช้หม้อแปลงampมากหน่อย+วงจรเรียงกระแสดีๆ 5v ก็จ่ายให้ อนาล้อคdac กับopamp ก็น่าจะได้แล้วน่ะ เหลือแต่3.3v ภาคดิจิตอล
สั่งพันหม้อแปลงคงเปลืองๆ +ใหญ่


ManiacMaew น่าจะทำ "DAC Z2" ให้กลับมาใช้งานได้ปรกติอีกครั้งน่ะ
หลังจากนั้นก็ "รวบรวมประสบการณ์ที่ได้จากการทดลองที่ผ่านมา" ไว้ในโพสเดียว
ตั้งเป็นประทู้ใหม่สำหรับDAC Z2โดยเฉพาะหรือจะโพสในนี้ก็ได้ คนที่ตามเรื่องZ2จะได้เข้าใจและทำตามได้ง่ายขึ้น

ผมว่า "แฟนคลับของDAC Z2" ก็มีไม่น้อยน่ะ จะได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์แลกเปลี่ยนมุมมองกันใน
กลุ่มผู้ใช้
กำลังหงุดหงิดกับมันอยู่ คราวก่อนทำ ถอดอะไหล่มาดูลายทองแดง
ดันทำหัวแร้งโดนนิ้วตัวเอง คราวนี้ถอดอะไหล่มายืมwima mkpไปลองใส่ในลำโพง
ตาไก่ก็ขาดอีก - -*
อารมณ์เสีย ไม่อยากมองหน้ามัน อยู่



--------------
กระทู้โมลำโพงก็ยังไม่จบเลย(คนอ่านแทบไม่มี T_T แต่จริงผมว่ามันเอาไปadaptโมลำโพงอื่นได้น่ะ
) งงๆ กับตัวเอง ไม่รู้จะจบเมื่อไรดี
จริงๆตอนนี้ก็พอใจแล้ว แต่มันก็ยังมีจุดน่าปรับปรุงอีกเยอะเหมือนที่คุณkeangบอก
และอีกหลายจุดมากมายเลย
-พวกสายจัมป์ก็น่าเปลี่ยนใหม่ ใช้แบบชุบเงิน +ท่อเทฟลอนหรือ สาย 18awg ที่ซื้อมาก็โอเค
ลองลากจัมเพิ่มจุดหนึ่งตอนซ่อมลายทองแดง7809 ขาด เสียงก็ดีขึ้นนิดหน่อย
-หม้อแปลง = =" เสียดายตรงนี้ไม่รู้ว่ากี่Volt แต่เปลี่ยนแบบดีๆแอมป์มาก รู้สึกจะแพงเอาเรื่องเหมือนกัน +อาจจะใหญ่ยัดไม่ลง
-น่าทำหัวกับสายใหม่ด้วย สายเดิม ให้มาบางจ๋อยเชียว ดูแล้วทำไม่น่ายาก รูเดิมเอากระดาษทรายขัดหน่อย ก็น่าจะใส่หัว cmc ที่ตอนแรกว่าจะเอามาใส่dacได้แล้ว
-ถ้าhardcore พอก็ตีกล่องไม้ ให้sattด้วยเลย หรือจะอะลูดีหว่า (บ้า อลู)

(ไปๆมาๆ ต่อตู้ ทำลำโพงทำแอมป์เองเลยดีมั้ยเนี้ย)

เรื่องเสียง ถ้าเบิร์นต่อ แล้วยังได้แนวนี้อยู่ก็อาจจะหยุดแล้ว กลัวแต่เบิร์นเสร็จแล้ว เสียงมันเปลี่ยนแนวเยอะเกิน แต่ก็อาจจะซนต่อก็ได้ตามอารมณ์และกำลังทรัพย์
-----------------

มาเรื่องลำโพงต่อ

ด้านบน ตามภาพ ขี้เกียจเลเบลอยู่ มีแรงแล้วจะมาร์ค-เบิร์นแล้วรีวิวในกระทู้ลำโพงตัวเองอีกที

เลอะ ๆ ด้านบน 7809 คือรอยพยายามต่อกราวน์ดให้มัน ตอนหลังถอดออก



ด้านล่าง จริงๆ แก้ wima ตรงsattแล้ว แบบในภาพทำแล้ว ติดตัวถัง
แต่รูปแบบและทางการต่อยังเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนตำแหน่งบัดกรี


เสียงเบิร์นมาถึงค่ำแล้ว ก็ไม่เปลี่ยนมาก

คร่าวๆ ณ ปัจจุบัน

ตอนนี้มิติ ซ้ายขวากว้างโคตรๆ ลึกพอประมาณ ด้านสูงน้อยกว่าเพื่อนหน่อย โดยร่วมดีกว่าของเดิม ของdb211เยอะ
มาก


เสียงแหลมที่ได้จาก silver mica นี้ก็ดี ไม่บาดหูเหมือน fw ออกนุ่มๆ หวาน (vrก็ออกบาดๆ ฟุ้งซ่าเหมือนกันน่ะ
แต่เบากว่า)

ใส่wima ที่ sattแล้ว เสียง ร้องcenter หนาขึ้นอีกเยอะ(หลังจากโดน illinoisทำให้บาง) แต่หนาแบบไม่เด่นไม่คมน่ะ
อธิบายไม่ค่อยถูก คนละอารมณ์ กับ เวลาเอาnippon bicap ด้วย wima ตอนทำdac
อันนั้น เสียงกลางเด่นมาก offside กลบเสียงแหลมหมด เสียงsurrondหาย

เสียงร้องดูมีพลัง (อันนี้มีตั้งแต่ตอนทำกราวน์ดแหล่ะ)

เบสกึ่งแข็งกึ่งนุ่มบอกไม่ถูก ได้ปริมาณ แต่ก็ไม่ offside คือตำแหน่ง มันถอยกลับไปอยู่ด้านหลัง ห่.างๆ กว่าเดิม
ก่อนหน้าใส่ illinois เหมือนเอากลองชุด มาตั้งประชิดหลังนักร้องเลย

เสียงsurround ดังหน่อย ไม่หลบเท่าไร กำลังดี ผมชอบ

การเก็บรายละเอียด ทำได้ด้อยกว่าตอนใส่ vishay เล็กน้อย
แต่รายละเอียดdeep bass ทุกรอบของการโม พยายามยังไงก็ไม่รู้สึกอะไรเลย