สื่อต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่จากแบตเตอรี่ลิเธียมภายในศูนย์ข้อมูลแห่งชาติของเกาหลีใต้ (National Information Resources Service Center) เหตุการณ์นี้ต้องระดมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 227 นาย เข้าควบคุมเพลิง ส่งผลให้ระบบไอทีของหน่วยงานรัฐบาลถึง 647 ระบบต้องปิดตัวชั่วคราว
ภายหลังกลับพบความจริงสุดช็อก — ศูนย์ข้อมูลดังกล่าว ไม่มีระบบสำรองข้อมูลภายนอกเลยตั้งแต่ก่อตั้งมา ทำให้เอกสารราชการของข้าราชการกว่า 750,000 คน ที่เก็บมานานกว่า 7 ปี ถูกไฟเผาทำลายหมดสิ้น ไม่สามารถกู้คืนได้
ตามรายงานของ สำนักข่าวรอยเตอร์ (Reuters) หลังเหตุเพลิงไหม้จนถึงขณะนี้ ทางศูนย์ฯ สามารถกู้คืนบริการภาครัฐได้เพียงประมาณ หนึ่งในสิบเท่านั้น และรัฐบาลยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะกลับมาให้บริการเต็มรูปแบบเมื่อใด หน่วยงานที่ได้รับผลกระทบรวมถึง ตำรวจ หน่วยดับเพลิง และกรมศุลกากร ซึ่งล้วนเป็นหน่วยงานหลักของประเทศ
รัฐมนตรีความมั่นคงของเกาหลีใต้ ยุน โฮ-จอง (Yun Ho-jung) เปิดเผยว่า เหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ทำให้ระบบรัฐบาลจำนวน 647 ระบบล่มทั้งหมด และมีอย่างน้อย 96 ระบบถูกเผาทำลายโดยสิ้นเชิง รวมถึงระบบจัดเก็บเอกสารกลางของรัฐบาลที่ชื่อว่า G-Drive ซึ่งไม่มีระบบสำรองภายนอก ทำให้ข้อมูล สูญหายถาวร ไม่สามารถกู้คืนได้
สถาบันวิเคราะห์ข้อมูลของสหราชอาณาจักร Relx ระบุว่า รัฐบาลเกาหลีใต้มีนโยบายให้ข้าราชการทุกคน ห้ามเก็บเอกสารราชการไว้ในคอมพิวเตอร์ส่วนตัว แต่ต้องอัปโหลดเก็บไว้บน G-Drive เท่านั้น
ดังนั้นเมื่อ G-Drive ถูกเผาทำลายจนไม่สามารถกู้คืนได้ หมายความว่า ไฟล์เอกสารราชการของข้าราชการกว่า 7.5 แสนคน ที่เก็บมานานกว่า 7 ปี ได้หายไปหมดสิ้น
ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ อี แจ-มยอง (Lee Jae Myung) ได้ออกมากล่าวขอโทษต่อประชาชน โดยยอมรับว่ารู้สึกตกใจอย่างมากที่หลังจากเกิดเหตุเพลิงไหม้ในปี 2022 ซึ่งเคยทำให้ระบบบริการหยุดชะงักมาแล้ว รัฐบาลกลับยังไม่ได้จัดตั้งระบบสำรองข้อมูลภายนอก พร้อมให้คำมั่นว่าจะดำเนินการสอบสวนและหาผู้รับผิดชอบอย่างจริงจัง
อี ซอง-ยอบ (Lee Seong-yeob) ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยการจัดการเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยโคเรีย วิจารณ์ว่า เหตุการณ์เช่นนี้ “ไม่ควรเกิดขึ้นกับหน่วยงานระดับประเทศ” และเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งพัฒนาระบบสำรองข้อมูลและซิงโครไนซ์แบบเรียลไทม์โดยด่วน
ที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือ ผลการสอบสวนพบว่า ศูนย์ข้อมูลใช้ แบตเตอรี่ลิเธียมของ LG Energy Solution ที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 10 ปี และหมดประกันในเดือนมิถุนายน 2024 โดยทาง LG เคยแจ้งเตือนให้รัฐบาลเปลี่ยนแบตเตอรี่ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ แต่รัฐบาลกลับ เพิกเฉย ไม่ดำเนินการเปลี่ยนตามคำแนะนำ
กระทั่งในวันที่เกิดเหตุ ขณะเจ้าหน้าที่กำลังตรวจเช็กระบบบำรุงรักษาแบตเตอรี่ ได้เกิด การระเบิดขึ้นจนกลายเป็นเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญระบุว่า เหตุการณ์นี้เป็น “ความผิดพลาดจากมนุษย์” ที่สามารถหลีกเลี่ยงได้ทั้งหมด
ที่มา: HKEPC