Announcement

Collapse
No announcement yet.

~⊙⊙ω บทสรุป DRAGON AGE 2 walkthrough ω⊙⊙~

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • ~⊙⊙ω บทสรุป DRAGON AGE 2 walkthrough ω⊙⊙~

    E-BOOK บทสรุป Dragon Age 2 แบบ PDF ไฟล์โดยคุณ Aresz !!!


    ทำออกมาสวยงามมากๆ ขนาดเล็กกะทัดลัดด้วย เพื่อนๆเซฟเข้าคอมปริ้นส์มาอ่านได้เลยครับที่ลิงค์ด้านล่างนี้
    http://www.mediafire.com/?rm81y8es3a9adnb


    Walkthroughs DA2 มาแล้ว !!


    อยู่ที่หน้า 66 นะครับ คลิ้ก<<< << ที่นี่เลยครับ

    และข้อมูลการคราฟท์ของกับตำแหน่งที่อยู่ในการเก็บอย่างละเอียด รวมถึงแกลลอรี่ของเหล่า FANART อยู่ที่หน้า 69 นะครับ จัดทำโดยคุณ toevtoev คลิ้ก<<< << ที่นี่เลยครับ


    Dragon Age II



    Genre: Role-Playing/Compilation
    Publisher: Electronic Arts
    Developer: BioWare?
    Platform: PC, Xbox 360?, PS3?

    Recommended System Requirements
    CPU: Intel Core 2 Quad 2.4 GHz Processor or equivalent
    CPU: AMD Phenom II X3 Triple core 2.8 GHz or equivalent
    RAM: 2GB (4 GB Vista and Windows 7)
    Video: ATI 3850 512 MB or greater
    Video: NVIDIA 8800GTS 512 MB or greater
    DirectX 11: ATI 5850 or greater
    DirectX 11: NVIDIA 460 or greater

    Minimum System Requirements
    OS: Windows XP 32-bit with SP3
    OS: Windows Vista 32-bit with SP2
    OS: Windows 7 64-bit
    CPU: Intel Core 2 Duo (or equivalent) running at 1.8 GHz or greater
    CPU: AMD Athlon 64 X2 (or equivalent) running at 1.8 GHz or greater
    RAM: 1 GB (1.5 GB Vista and Windows 7)
    Video: Radeon HD 2600 Pro 256 MB
    Video: NVIDIA GeForce 7900 GS 256 MB cards
    Disc Drive: DVD ROM drive required
    Hard Drive: 7 GB
    Sound: Direct X 9.0c Compatible Sound Card Windows Experience Index: 4.5

    DLCs
    ? Hindsight (available from the official Dragon Age II website)
    ? Staff of Parthalan (available by signing up for the newsletter)
    ? The Exiled Prince (available with the Signature Edition, or separately for US$7 or 560 Microsoft Points)
    ? The Black Emporium (available with each original Dragon Age II copy)
    DRAGON AGE 2 - BLACK BLADE TRAILER
    BORKED

    บทนำ
    เป็นเวลาปีกว่าหลังจากที่ Dragon Age Origins หรือ DA ภาคแรกได้ออกประจักษ์สู่สายตาเกมเมอร์ทั่วโลก ได้รับคำขนานนามมาว่าเป็นเกมส์ RPG ที่ดีที่สุดในปี 2009 และได้คะแนน review จากเว็บวิจารณ์เกมส์ดังอย่างถล่มทลายแทบทุกเว็บจนเรียกได้ว่ามันน่าจะเป็นเกมส์ยอดเยี่ยมแห่งทศวรรษเลยด้วยซ้ำ ... บัดนี้ได้เวลาที่เราจะได้สัมผัสกับภาคต่อของเกมส์สุดดังนี้แล้ว ซึ่ง Dragon Age II นี้จะสามารถตามรอยความยิ่งใหญ่ภาคแรก + โหมกระพือให้สุดยอดยิ่งกว่าเดิม หรือจะกลายเป็นเกมส์ที่ด้อยลงมาเนื่องจากมีการปรับโครงสร้างขนานใหญ่และเร่งเวลาในการทำมากเกินไป เราจะต้องมาพิสูจน์กันล่ะครับ (แค่ดู trailer ก็น้ำลายไหลกันแล้วม้าง หุๆ)

    อนึ่งเพราะผมได้ริเริ่มทำกระทู้บทสรุป DA ภาคแรกแล้วได้รับการตอบรับอย่างดีมาก ทั้งยังได้เพื่อนๆชาวเว็บ OCZ หลายคนมาช่วยกันทำจนมันสมบูรณ์แบบอย่างไม่น่าเชื่อ จึงขออนุญาตตั้งกระทู้และทำบทสรุปของภาค 2 ต่อมาแล้วกันครับ และหากผู้ใดสนใจที่จะให้ความช่วยเหลือ ผมยินดีที่จะนำผลงานของท่านมารวมไว้ในหน้าแรกและให้ credit อย่างดีที่สุดครับ ซึ่งผลงานที่เราทำกันก็ทำกันด้วยใจ และผลงานนี้จะเป็นประโยชน์ต่อคนรุ่นหลังต่อๆไปครับดั่งที่ได้เห็นจากบทสรุปของภาคแรกที่ยังมีผู้เล่นเกมส์นี้ใหม่ๆแวะเวียนมาใช้ประโยชน์อย่างไม่ขาดสาย

    และเช่นครั้งที่แล้ว ผลงานเหล่านี้สามารถเอาไปแปะที่ไหนก็ได้ตามสะดวกใจของท่านนะครับ ขอแค่ลง credit ว่าจาก "เหล่าสมาชิกเว็บ OCZ" แล้วทิ้งลิงค์ของหน้านี้ไว้ก็พอครับ

    สำหรับคนที่ยังไม่เคยเล่นภาคแรกมาก่อน แต่มาจับภาค 2 เลย หรือกำลังจะเล่นภาคแรก สามารถหาข้อมูลได้ในนี้ครับ
    http://www.overclockzone.com/forums/...ns-Walkthrough

    สุดท้ายนี้หากผู้ใดรู้สึกชื่นชอบ Dragon Age II ผมอยากขอให้ทุกท่านช่วยกันสนับสนุนแผ่นลิขสิทธิ์นะครับ เพื่อเป็นกำลังใจต่อผู้ผลิตเกมส์ต่อไปครับ

    ปล.เพื่อความง่ายในการอ่าน สำหรับคนที่ใช้ display 1024x768 ให้ปรับ custom zoom เหลือ 90% นะครับ (กดที่ view เมนูด้านบน) ไม่อย่างนั้นความยาวคลิป youtube จะทำให้คุณต้องคอยเลื่อนแถบด้านล่างไปขวาทีซ้ายที ซึ่งมันไม่น่าอภิรมย์เลยใช่ม้า ^^

    เพิ่มเติม : ขอความร่วมมือทุกคนที่เข้ามาพูดคุยในกระทู้นี้ หากมีการโพ๊สเชิงเปิดเผยเนื้อเรื่องเช่นตัวละครนั้นตายตอน ... หรืออะไรก็ตามแต่ บลาๆ รบกวนช่วย ถมขาว ด้วยนะครับ เพราะยังมีเพื่อนเราจำนวนมากที่ยังเล่นไม่จบ และเค้าก็คงไม่อยากมาเจออะไร Spoil ๆ แบบนี้ครับ ขอบคุณครับ


    มาอยู่ในมือผมแร้ววว *_*~ 11/03/2011



    ทำเนียบผู้จัดทำ
    1.pongkrit03 - ส่วน walkthough ทั้งหมดและลงคลิปประกอบตามสมควร , Conversation Icons , inventory ที่สำคัญ
    2.editon - ข้อมูลสกิล Rouge , รายละเอียด combo ข้ามสาย , Attribute
    3.toevtoev - ข้อมูลสกิล warrior ทั้งหมด , สกิล mage , อัพเกรดชุด companions , สมุนไพรคราฟต์ของหน้า69ทั้งหมด
    4.evilbom - สกิลพิเศษของเพื่อน สกิล mage และวิธีการคราฟต์ของ
    5.Speak - การใช้ Tactics อย่างละเอียด (อยู่ล่างๆถัดจากสกิล)
    6.Smily_K - Tactics ส่วน Behaviors

    และ คุณ eekabott เกี่ยวกับคำคมตัวละคร , geminus Patrick007 และ actionvip ในการจัดหาข้อมูล + mod + โปรแกรมต่างๆ

    ขอบคุณคุณPai_Pretend , Armmot , BankWp Kmutt , higashi จาก JKG ด้วยครับสำหรับข้อมูลตัวละคร


    ตอนนี้ยังขาดผู้ช่วยหลายเรื่องๆนะครับ ทั้งด้านข้อมูลอาวุธ , ชุดเกราะ ,ไอเท็ม , sidequest แนวทางการเล่นแต่ละอาชีพ , ผู้แปล codex ตำนานต่างๆ บลาๆๆ แล้วแต่จะคิดครับ ถ้าใครสนใจบอกได้เลยครับ


    Trailer เพิ่มเติม
    Rise of Power : http://www.youtube.com/watch?v=K8mn1rVakZg
    Champion : http://www.youtube.com/watch?v=1opbwMDcnuE

    ตัวอย่าง Game Play จากผู้พัฒนา
    http://www.youtube.com/watch?v=FVscSe8vEGI

    และสำหรับคนที่อยากลอง Demo โหลดเล่นได้ที่นี่ครับ
    http://dragonage.bioware.com/da2/demo/


    _____________________________


    Attributes Dragon Age 2 (โดยคุณ editon)

    Strength - เพิ่มความแรงการโจมตีสำหรับ warrior(เท่านั้น) จาก 0.5 ต่อทุก 1 แต้ม/เพิ่ม fortitude/ความแม่นยำสำหรับ warrior/พลังกายซึ่งจะมีผลต่อการทำให้ล้มหรือกระเด็น และต้านทานล้มหรือกระเด็น

    Dexterity - เพิ่มความแรงการโจมตีสำหรับ Rogue(เท่านั้น) จาก 0.5 ต่อทุก 1 แต้ม/เพิ่มความแม่นยำสำหรับ Rogue/เพิ่มโอกาสในการตีติดคริติคอล 1% ต่อทุก 1 แต้ม

    Willpower - เพิ่ม mana หรือ stamina 5 ต่อทุก 1 แต้ม

    Magic - เพิ่มความแรงโจมตีสำหรับ mage(เท่านั้น)/เพิ่มความแม่นยำสำหรับ Mage/เพิ่ม magic resistance 1% ต่อทุก 10 แต้ม

    Cunning - เพิ่ม defense/เพิ่มความรุนแรงคริติคอล 1% ต่อทุก 1 แต้ม/เพิ่มโอกาสของ rogue ปลดล็อกหีบและกับดักจากหนึ่งระดับความยากต่อทุก 10 แต้ม

    Constitution - เพิ่ม health 5 ต่อทุก 1 แต้ม

    *อันที่ผมลงสีเขียวไว้คือแสดงผลกับทุกอาชีพ

    Attributes เริ่มต้นของแต่ละอาชีพ
    Class / Strength / Dexterity / Willpower / Magic / Cunning / Constitution
    Warrior 13 11 12 11 11 12
    Rogue 11 13 12 11 12 11
    Mage 11 11 12 13 12 11

    _________

    Main Charactor and Companions
    (โดย คุณPai_Pretend , Armmot , BankWp Kmutt , higashi จาก JKG ได้เอื้อเฟื้อข้อมูลมาครับ และคุณ eekabott ช่วยในส่วนคำคม)


    ? HAWKE (ฮวาร์ค) : ตัวเอก
    Race:Human Title:Champion of Kirkwall
    ฮวาร์คเป็นตัวละครเอกใน Dragon Age 2 ฮวาร์คถูกพากย์เสียงอย่างเต็มรูปแบบสามารถเป็นได้ทั้งชายหรือหญิง มีรูปร่างซึ่งสามารถปรับแต่งได้เหมือนใน Origins สามารถเป็นได้ทั้งนักรบ(Warrior) โจร(Rogue)หรือนักเวทย์(Mage) เดิมทีผู้ชายชื่อว่าแกร์เรตต์(Garrett) ส่วนผู้หญิงชื่อว่าแมเรี่ยน(Marian) ฮวาร์คเป็นมนุษย์ซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองลอเทอริ่ง(Lothering)ขณะเกิดเหตุการณ์ the Blight in Ferelden โดยหลบหนีจากการโจมตีจากเหล่าดาร์คสะพวอน(darkspawn) โดยหลบหนไปทางทิศเหนือไปยัง the Free Marches และในที่สุดได้พัฒนามาเป็นตัวละครที่สำคัญที่สุดเพียงหนึ่งเดียวในโลกของ Dragon Age(the single most important character in the world of Dragon Age) ตลอดรายทางได้รับสมญานามว่า "The Champion of Kirkwall" นอกเหนือจากวิถีของเกมระยะเวลา 10 ปี การกระทำและตัวเลือกของผู้เล่นจะกำหนดชีวประวัติของฮวาร์ค ความสัมพันธ์และความเสียใจ สิ่งเหล่านี้จะตอบคำถามใหญ่ที่ว่า "Who is the Champion of Kirkwall?" พ่อของฮวาร์คเป็นนักเวทย์นอกรีต(apostate mage)และแม่ของเขา/เธอชื่อว่าอาเมลล์(Amell)ซึ่งเป็นขุนนางจากเมืองเคิร์ควอ น้องสาวของฮวาร์คซึ่งก็คือเบทานี่(Bethany)ก็ยังเป็นนักเวทย์นอกรีตอีกด้วยและสามารถเป็นเพื่อนร่วมทางได้ แชมป์เปี้ยนของเมืองเคิร์คควอในอนาคตยังมีน้องชายที่เป็นนักรบซึ่งชื่อว่าคาร์เวอร์


    ? ANDERS(แอนเดอร์ส) : นักเวทย์นอกรีตและอดีตเกรย์วาร์เดนจาก Dragon Age: Origins - Awakening เขากลับมาในฐานะผู้ร่วมทางและเรื่องโรแมนติกอาจเกิดขึ้นสำหรับฮวาร์ค
    Race:Human Gender:Male Class: Specialization:Spirit Healer
    "สิ่งที่ฉันต้องการคือสาวน่ารัก อาหารอีสาน(เอ้ย! อาหารอย่างดี)และร่ายสายฟ้าอย่างโง่ๆโดยไม่ผิด" ....แอนเดอร์สเป็นนักเวทย์ผู้ซึ่งหลบหนีออกจาก the Circle of Magi และเป็นเพื่อนร่วมทางใน Dragon Age: Origins - Awakening แม้เขาชัดเจนว่าไม่ชอบ the Circle เขามีท่าทีค่อนข้างผ่อนคลายและไร้กังวลและไม่ปล่อยให้สถานการ์เลวร้ายล้มเขาได้ เขายังเป็นเพื่อนร่วมทางและเป็นที่น่าสนใจด้านความรักที่เป็นไปได้สำหรับฮวาร์คใน Dragon Age II ตอนวัยรุ่น(แสดงว่าตอนนี้แก่แล้วอ่ะดิ) เขาถูกพาตัวไปยัง Circle Tower โดยเทมพลาร์ส ซึ่งเขาดูหมิ่นโดยเปรียบเหมือนคุก เขาเป็นนักเวทย์ที่มีความสามารถพิเศษมากและเคยหลบหนีจากหอคอยถึง 7 ครั้ง ถูกจับและนำตัวกลับมาโดยเทมพลาร์สเพียงครั้งเดียวเท่านั้น(wow!!!) แม้จะมีข้อกล่าหาว่าเขาคือเมเลฟิคา (maleficar, นักเวทย์ที่ใช้เวทย์ต้องห้าม) แต่เขาก็แค่เป็นอโพสเตต(apostate, นักเวทย์ที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ Circle of Magi) และไม่ได้ต้องการอะไรไปกว่าการเป็นอิสระ

    คำคมประจำตัว : All I want is a pretty girl, a decent meal, and the right to shoot lightning at fools >> สิ่งที่ฉันต้องการคือ สาวสวยๆ อาหารดีๆ และสิทธิ์ที่จะยิงสายฟ้าใส่พวกงี่เง่า


    ? AVELINE VALLEN(อเวลีน แวล์เลน) : ภรรยาของเวสลีย์และเป็นนักรบ
    Race:Human Gender:Female Class: Location:Lothering
    "ปกป้องสิ่งสำคัญด้วยทุกสิ่งที่คุณมีหรือว่าคุณไม่มีอะไรเลยและสมควรที่จะได้รับมัน" ... อเวลีน แวล์เลน(Aveline Vallen) เป็นทหารซึ่งเชี่ยวชาญทางด้านดาบและโล่ห์(sword and shield)และเป็นผู้พิทักษ์(guardian)ที่ไม่รู้จักเหนื่อย เธอเป็นลูกสาวของขุนนางซึ่งถูกเนรเทศ Aveline ไม่ได้เป็นอัศวิน(knight)ตามที่พ่ออยากให้เป็น ถึงแม้ว่าเธอถูกฝึกมาอย่างเต็มที่ในการต่อสู้แบบอัศวิน แต่เธอก็เติบโตท่ามกลางมุมมืดของชีวิตที่ต้องสูญเสียและจะไม่สูญเสียอย่างอื่นเพื่อเกียรติยศของผู้อื่นอีกแล้ว การปกป้องบ้านเมืองของตนซึ่งก็คือเคิร์ควอ ได้กลายเป็นหน้าที่ที่เธอเลือก มิใช่การเรียกร้องสิทธิพิเศษ ผู้คนที่เธอยึดมั่นจะไม่สูญเปล่าไปกับการการพ่ายแพ้ในอดีตหรือการปกป้องคนเขลาจากคนเขลาด้วยกันเอง ความหยิ่งยโสสามารถเยียวยาเช่นเดียวกับบาดแผลอื่นๆ เมื่อภัยคุกคามได้หมดไปและทุกๆคนกลับบ้านอย่างปลอดภัย

    คำคมประจำตัว :Protect what matters with everything you have, or you'll have nothing, and deserve it >> ปกป้องทุกอย่าง(จริงๆ มันแปลว่าอะไรก็ตาม) ด้วยทุกๆ อย่างที่มี, หรือจะสูญเสียทุกอย่าง, อย่างสมควร


    ? BETHANY HAWKE(เบทานี่ ฮวาร์ค) น้องสาวของฮวาร์คและเป็นนักเวทย์
    Race:Human Gender:Female Class:
    เบทานี่ ฮวาร์ค(Bethany Hawke) เป็นน้องสาวของฮวาร์คและเป็นฝาแฝดของคาร์เวอร์ เบทานี่เป็น apostate และเธอได้รับการฝึกฝนเวทย์มนตร์มาจากพ่อของเธอซึ่งเป็นพวก apostate และเป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าเธอจะติดสอยห้อยตามฮวอร์ค พี่ของเธอเหมือนเพื่อนร่วมทาง(companion)


    ? CARVAR HAWKE(คาร์วาร์ ฮวาร์ค) : น้องชายของฮวาร์คและเป็นนักรบ
    Race:Human Gender:Male Class:
    คาร์วาร์ ฮวาร์คเป็นน้องชายของฮวาร์คและฝาแฝดของเบทานี่ คาร์วาร์เป็นนักรบ


    ? FENRIS (เฟนริส) : เอลฟ์ผู้ชายและอดีตทาสผู้ซึ่งเคยโดนเจ้านายเก่ากรอกยาใส่
    Race:Elf Gender:Male Class:
    ครั้งหนึ่งทาสผู้นี้ไปถึงเทวินเทอร์ มาจิสเทอร์(Tevinter magister) ชีวิตของเขาพลิกผันเมื่อลีเรี่ยม(lyrium)ไหม้บนตัวเขา เวทมนตร์เหล่านั้นได้ทำลายความจำของเขาและปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดกาล เขาจำต้องพกอาวุธและในที่สุดได้ใช้พลังของเขาในการหลบหนีพันธนาการของตัวเอง ตอนนี้เขาค้นพบว่าตัวเองอยู่ในที่ที่แปลกประหลาดซึ่งไม่มีแม้แต่เพื่อน และเจ้านายอย่างเป็นทางการผู้ซึ่งไม่ยอมปล่อยเขาไป

    คำคมประจำตัว :They know what I am. Let them come, if they find the courage >> พวกมันรู้ว่าข้าคือใคร. ให้พวกมันมา, ถ้ามันกล้าพอ


    ? ISABELA (อิสเบล่า) : กัปตันโจรสลัดเรือ The Siren's Call
    Race: Human Gender:Female Class: Title:Captain
    "ฉันชนะเพราะฉันโกง ฉันคิดว่านั่นมันก็ชัดเจนแล้ว" .... อิสเบล่าเป็นโจรสลัดผู้ทำให้เกิดหายนะของ 2 ฝั่งทะเล 4 ชาติและทุกหัวระแหง เธอมีทักษะที่เท่าเที่ยมกันระหว่างดาบสั้น(dagger)และการพูดจาดูถูกและมันเป็นสิ่งที่ยากที่จะรู้ว่าอย่างไหนทำให้เจ็บกว่ากัน!!! มันยากที่จะเห็นเธอในที่ที่เดียวเป็นเวลานาน แต่เมื่อเรือของเธอกลับกลายสภาพเหลือเพียงขอนไม้(ขอนไม้กับเรือ - -) อิสเบล่าจึงจำเป็นต้องทำให้ชีวิตดำรงต่อไปโดยการทำอะไรก็ตามแต่ผู้คนในเมืองเคิร์ควอจะยื่นข้อเสนอให้เธอและนั่นหมายความว่าคนรวยและคนโง่จะไม่มีวันหยุดปวดหัวและไม่มีวันสิ้นสุดของความสนุกสนานสำหรับเธอ เธอได้เป็นในสิ่งที่เธอต้องการและก็เป็นสิ่งที่เธอหวาดกลัวซึ่งกล่าวได้ว่าคนแล้วคนเล่าที่ต้องล้มตายไปด้วยคมดาบ และสยบลงแทบเท้าของเธอ ชัยชนะก็คือชัยชนะ สิ่งเหล่านี้ปรากฏอยู่ในพจนานุกรมชีวิตของเธอ เรืออับปาง คนเลว อิสเบล่ายังไม่เคยจนตรอกเลยซักครั้ง ความสนุกสนานของเธอก็ยังคงดำเนินต่อไป

    คำคมประจำตัว : The ship is the best teacher. She will guide you with her sighs... her shudders, her gentle swaying as she rides the crests of the waves >>> เรือนั้นเป็นครูที่ดีที่สุด. เธอจะชี้ทางเราผ่านลมหายใจของเธอ... ร่างที่สั่นสะเทิ้น, โดยเธอจะค่อยๆ ไกวตัวขณะที่เธออยู่บนยอดคลื่น"


    ? MERRILL (เมอร์ริลล์) : ลูกมือฝึกงานคนแรกของคีปเปอร์(Keeper)มาเรทาริจาก Dragon Age: Origins
    Race: Elf Gender:Female Class: Title:Marethari's First Specialization: Dalish Pariah Location: Dalish Camp - (Origins) Sundermount - (Dragon Age II)
    "มันคืองานของ Keeper ที่จะต้องจดจำ แม้ว่ามันจะอันตรายเพียงใดก็ตาม" .... เมอร์ริลล์เป็นนักเวทย์เอลฟ์และผู้ร่วมทางชั่วคราวไปยัง the Dalish elf Warden ตอน the Dalish Elf Origin และเป็นผู้ร่วมทางของฮวาร์คใน Dragon Age II เมอร์ริลเป็นลูกมือฝึกงานของ Keeper ของเผ่าซึ่งก็คือมาเรทาริ เธอสนใจในการฟื้นฟูความรู้ที่ถ่ายทอดสืบต่อกันของการสูญเสียและความรู้เวทย์มนตร์เก่าแก่ของเอลฟ์ ... Keepers ของ Dalish เป็นผู้เชี่ยวชาญของตำนานโบราณและผู้ปกป้องความลับอันเก่าแก่ เมอร์ริลล์สามารถท่องทุกอย่างเกี่ยวกับประวัติของเอลฟ์ที่เป็นที่รู้จักกันและนำทางไปยัง Fade(ดินแดนเลื่อนลอยซึ่งยังเป็นส่วนหนึ่งของ Thedas แบ่งแยกโดย the Veil) แต่มีประสบการณ์อันน้อยนิดเกี่ยวกับโลกหรือแม้แต่พวกพ้องของเธอ ตอนนี้ในที่ต่างเมืองซึ่งล้อมรอบด้วยอันตรายทุกๆที่ เมอร์ริลล์ต้องการความช่วยเหลือเพื่อเผ่าพันธุ์ของเธอไม่ว่าจะต้องจ่ายเท่าไรก็ตาม

    คำคมประจำตัว : It’s a Keeper’s job to remember, even the dangerous things >> งานของ keeper คือจดจำ, รวมถึงเรื่องอันตรายด้วย


    ? SEBASTIAN VAEL (เซบาสเตียน เวล) : นักธนูที่เกิดในตระกูลชั้นสูงมองหาฆาตกรเพื่อแก้แค้นผู้ร้ายที่ลอบฆ่าครอบครัวเขา
    Race:Human Gender:Male Class: Location:Free Marches
    เซบาสเตียน เวล นักธนูที่เกิดในตระกูลชั้นสูงเป็นผู้ร่วมเดินทางใน Dragon Age II ซึ่งมีอยู่ใน The Exiled Prince DLC ซึ่งอยู่รวมกับ the Signature Edition สาบานต่อผู้อุปสมบทตอนยังเป็นเด็ก เซบาสเตียนถูกบังคับให้กลับเข้าไปยังที่อยู่ของผู้ปองร้ายใหม่โดยเล่ห์เหลี่ยมทางการเมืองแบบเจ้าชายเมื่อครอบครัวเขาถูกฆาตกรรมอย่างอำมหิต ปล่อยให้เขาเป็นทายาทซึ่งรอดชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยว

    คำคมประจำตัว : It is my right, my duty, to show these assassins there's nowhere in the Free Marches to hide >> มันเป็นสิทธิ์ของข้า, พันธกิจของข้า, ที่จะทำให้พวกมือสังหารพวกนี้เห็นว่า ที่ Free Marches นี้ไม่มีที่ให้ซ่อนตัว


    ? VARRIC (แวร์ริค) : คนแคระผู้ทำตัวเหมือนคนเล่าเรื่อง
    Race: Dwarf Gender:Male Class:
    "ฉันรู้จักทุกคนในเมืองนี้เพราะทุกคนสมควรที่จะรู้จัก" ... วาจาคือการค้าของเขา การพูดโอ้อวดเป็นความสามารถพิเศษของเขา!?! แวร์ริคสามารถทำหรือหยุดตำนานโดยที่ไม่ได้แตะต้องมันเลยแม้แต่ปลายเล็บ เขาเกิดในสมาคมผู้ค้าขาย แวร์ริคไม่เคยรู้เรื่องราวเกี่ยวกับบ้านเกิดของเหล่าคนแคระและไม่เคยทำงานที่สโตน(Stone) เขาชอบไปยังโรงเหล้าซึ่งมีทั้งแก้วเบียร์ที่ไม่เคยว่างเปล่า ผู้ชมที่เต็มใจและเรื่องที่ไม่เป็นใจ เขาชอบแต่งเรื่องราวที่ใหญ่โตเกี่ยวกับบรรพบุรุษและตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมหรืออะไรก็ตามที่คุณชอบแต่มันไม่นอกเหนือไปจากการเคารพนับถือ ความจริงคือมีเพียงแค่สินค้าอย่างหนึ่ง ประวัติศาสตร์ถูกเขียนโดยผู้ชนะแต่มันสามารถถูกเขียนโดยแวร์ริคผู้เลือกผู้ชนะได้เช่นกัน ถ้าคุณต้องการกำไรให้ดูพี่ชายเขาเป็นตัวอย่างซึ่งก็คือ บาร์ตแรนด์(Bartrand) จอมวายร้ายที่มีหัวทางด้านธุรกิจ แต่ถ้าคุณอยากเป็นที่จดจำ แวร์ริคคือคนที่คุณต้องการ

    คำคมประจำตัว : I know everyone in this city. Well, everyone worth knowing >> ข้ารู้จักทุกคนในเมืองนี้. คือ, ทุกๆ คนมีค่าที่จะรู้จัก

    __________

    Conversation Icons โดยผมเอง pongkrit03




    ___________


    วิธีการคราฟต์ของโดยคุณ evilbom



    จากรูป แบ่งออก เป็น 3 ส่วนครับ คือ 1.รายชื่อของที่ทำได้และราคา 2.รายละเอียดของ ที่เราจะสร้างและ จำนวนวัตถุดิบที่ใช้้ 3.วัตถุดิบที่ มีอยู่ ซึ่งคงอยู๋ ถาวร

    ซึ่งจากรูปผมมี Elfroot 6 Spindleweed 3 ซึ่งผมสามารถผลิต Restoration Potion ได้โดยการผลิต 1 ครั้งเสียเงิน 49s
    เสียดายมันมันไม่สามารถระบุได้ว่าอยากผลิตกี่ชิ้น ต้องกดรัวๆเหมือนดั่งเช่น ภาคแรก

    ปล. ยา จากการ Craft จะไม่รวมอยู่ใน Quick Heal ฉะนั้นควรตั้งเป็น แทคติก ครับ


    ________
    Originally posted by actionvip View Post
    เอามาฝากครับ

    DragonAge 2 High Resolution PACK

    >>CLICK<<

    ทำให้ปรับ ภาพ แบบ high resolution ได้ครับ

    เพราะตัวเกมส์ที่ให้มาไม่มีให้ปรับ ครับผม จึงต้อง โหลดตัว pack นี้ไปติดตั้งครับ

    แล้ว ภาพที่ได้จะสวยขึ้น ประมาณ 40% จาก very high ครับ
    [/COLOR]

    *ต้องการ memory การ์ดจอ ไม่ต่ำกว่า 1024MB ครับ
    *การ์ดจอต้องรองรับ DX11
    *Windows 7 เท่านั้น
    Originally posted by actionvip View Post
    เอา MOD ต่างๆมาฝากครับ สำหรับคนเล่นหลายๆ แล้วเบื่อ

    ลอง mod พวกนี้ดูอาจจะทำให้หายเบื่อได้บ้าง ^^

    MOD CLICK

    Originally posted by geminus View Post
    มาฝาก ทริค การเล่นเบื้องต้น + nightmare นิดหน่อย จากประสบการณ์

    1. การวิ่งไปตั้งหลักใน ชัยภูมิที่ได้เปรียบมีผลมากครับ (ส่วนมาก จะเน้นที่สูงไม่ก็ทางแคบบังคับให้ เข้าได้ทางเดียว) เพื่อให้ตัวชนได้ ชนเต็มที่ แล้วแนวหลังได้ยิงสนับสนุน
    2. ปุ่ม paused สำคัญมาก ถ้าเป็นไปได้ กด ให้บ่อยๆ ดีกว่าพลาดแล้วนั่งโหลดใหม่
    2. ปุ่ม hold (H) บังคับใช้ เพราะไม่งั้นวิ่งกันมั่วมากๆ
    3. ฉากไหนมี npc ช่วยเรา แนะนำ อย่าไปชนเองคับ ให้ npc ชน
    4. การใช้สกิลให้ได้ผลดีที่สุดควรกดใช้เองครับ set ใน tactic ควร set ให้น้อย เพราะ อาจจะเกิดเหตุการณ์ ใช้สกิล ไม่ตรงตามต้องการแล้วพลาดได้
    5. อย่ากลัวการหนีครับ (ฮ่าๆ) ถ้าดูแล้วไงๆก็รอดยาก ให้หนีออกมาจาก ฉากต่อสู้ไปเลย จนออกนอกการต่อสู้ (มีการ regen hp/mp รวมถึงเซฟได้) แล้วค่อยเข้าไปสู้ใหม่ (ทริคนี้ ใช้ได้ถ้าไม่เป็นการต่อสู้แบบบังคับฉาก)
    6. มอน จะโจมตีใส่คนที่อยู่ใกล้สุดตอนที่ spawn เป็นคนแรก เพราะงั้น พยายามให้แนวหลังอยู่ไกลๆ แล้ว hold ไว้เอาตัวที่จะชนนำหน้าไปลากมอนมาก็ได้ (เพราะงั้น ไม่มี taunt ก็ชนได้คับ)
    7. เนื่องจากสกิลหมู่จะโดนพวกเดียวกัน เพราะฉะนั้นเล็งให้ดีครับ เวลาจะใช้ สังเกตุว่าตอนลากวงกลมครอบ มีชื่อเพื่อนเราไหมขึ้นไหม ถ้าไม่มีก็ไม่โดนครับ (ถ้าเพื่อนไม่ขยับตัวนะ)
    8. เวลา โจมตี มอน อย่าแยกกันยิงคับ พยายามกด ctrl+A (เลือกทุกตัวละครในปาร์ตี้) แล้วกด R เพื่อโจมตีเป้าหมายเดียวกัน โดยควรเล็งเป้าหมายที่เลือดน้อยที่สุดก่อน
    9. nightmare จะมี มอนจะมีการกันธาตุ ชนิดimmune เพราะงั้นถ้าเกิดเห็น immune ควรเปลี่ยนธาตุที่ใช้โจมตี
    (ควร ปรับ option เปิด show minor combat detail ถ้าจะให้ดีเปิดโชว์ ดาเมจด้วยครับ จะได้ดูว่ามอนแพ้ธาตุไหน)
    10. ควร F5 quick save บ่อยๆครับ ยิ่งใกล้ฉากต่อสู้ ยิ่งสำคัญ สามารถ quick load ด้วย F9
    11. ควรพก rouge ไว้ 1 ตัวในตี้ตลอดครับ เพราะ จำเป็นต้องใช้ disarm trap กับ lockpicking (ส่วนตัวไหนแล้วแต่ชอบครับ) ซึ่งการ disarm trap ได้ exp ด้วย
    12. กดปุ่ม tab ให้บ่อยๆเวลาต้องการเดินสำรวจ หรือเชคสิ่งของ เชคเลือดมอน

    นึกออกเท่านี้ เอาไว้นึกออกอีกจะมาแปะเพิ่มละกัน
    Originally posted by geminus View Post
    การ จะ modify ไอเทม ใช้โปรแกรม GFF v.4.0 Editor ครับ
    http://social.bioware.com/bw_project...t_file_id=9057
    โดยจะเป็นการ modify จากตัว save เกมของเราเอง ชื่อเซฟ.das
    โดยควรจะถอดไอเทมที่ต้องการจะ edit ออกก่อน
    1. เปิดโปรแกรม
    2. เลือก เซฟ.das ที่เราต้องการ
    3. ดูตรงช่อง SAVEGAME_PARTYLIST > SAVEGAME_BACKPACK
    4. เลือกไอเทมที่ต้องการ ดูชื่ออาจจะยากนิดนึงครับ ถ้าจะให้ดีควรเอาไอเท็มเก็บในคลังให้หมด จนเหลือไอเทมที่จะ modify แค่ชิ้นเดียวในตัว
    5. จากนั้นก็ edit ได้เลยครับ ถ้าจะ edit เรื่อง ความสามารถให้ดูที่
    1. ITEM_PROPERTIES
    (ตรงนี้เป็นความสามารถครับ ดูได้จาก file item_properties.gda)
    2. ITEM_PROPERTIES_POWER
    (ตรงนี้เป็นค่าพลัง ถ้าจะเอา max ก็ใส่ 1073741824 ทุกอันครับ)
    3. ITEM_PROPERTIES_EFFECTID (ตอนถอดออกจะเป็น -1 ทุกอัน)
    4. ITEM_PROPERTIES_VFXID (ตอนถอดออกจะเป็น -1 ทุกอัน)
    สังเกตุว่า 4 อย่างนี้จะมี จำนวน items ตามหลังเท่านั้น
    *สำคัญมากครับ ถ้าจะ edit จำนวน items ใน 4 หัวข้อด้านบนจะต้องมีจำนวนเท่ากันหมด
    สามารถเพิ่มจำนวน ไอเท็มได้โดนการ copy (ctrl+C) แล้ว paste (ctrl+v)
    Originally posted by ZenJune View Post
    ไปเจอในพันทิพย์มาครับ Lore ของ dragon age ผู้เขียนเค้ารวบรวมข้อมูลและแปลไว้เยอะเลยครับ คิดว่าหลายๆคนน่าจะอยากอ่าน
    http://www.pantip.com/tech/games/top...GC2993141.html
    Originally posted by Patrick007 View Post
    ไปได้วิธีแก้ปัญหาสำหรับคนที่เล่น Mage แล้ว Slow โคตรๆ ในตอนท้ายๆมาฝากครับ
    ได้จากบอร์ดต่างประเทศ

    Hawke stuck in slow motion animation. *Bioware response and temporary solution

    No known way to prevent this bug but you can do the following to stop it from getting worse.

    1. Do not save without Isabella/Sebastian in your active party.
    2. Do not load a save without Isabella/Sebastian in your active party.

    The only way to avoid this bug seems to be
    1. Do not befriend them
    2. Always have them in your party.
    ----------------------------------------------------------------------

    Since the effect congregates with a rate of 5% per save, many people do not realize it until it is pretty late.

    As explained below, the bug seems to be caused by the game not
    being able to read a save properly. It does not recognize that Isa/Seb
    is or is not in your party.
    ---------------------------------------------------------------------

    Example:
    Isabella gives you 5% attack speed increase, if you remove her from your party, save, and reload, you will get a 5% decrease in attack speed. This effects congregates and as you do this more often, your character will be come as slow as a snail.

    สรุปนะครับ


    Solution: DO NOT SAVE UNLESS YOU HAVE IASBELLA AND SEBASTIAN IN YOUR ACTIVE PARTY
    Originally posted by geminus View Post
    เอาโปรแกรม auto tab autorun มาฝากครับ (เราไม่ต้องกด tab ค้างอีกต่อไป)

    http://www.dragonagenexus.com/downlo...le.php?id=2266

    ในนั้นจะมี สามตัวครับ ผมใช้แต่ auto tab (วิธีใช้ก็เปิดโปรแกรม แล้วกด tab ทีนึง)
    Originally posted by methkrubpom View Post
    ขออณุญาติโพสลิ๊งนะครับ
    เป็นtalent simulator แต่เป็นแบบonlineนะครับ
    http://biowarefans.com/dragon-age-2-talent-builder/#8

    ปล.ถ้าซ้ำขออภัยนะครับ
    Originally posted by syncronise View Post
    เอา MOD ชุด Champions silverite Line Thai มาให้ลองใช้คับ ได้ทั้งชายและหญิง
    ผมเอามาโมใหม่เพิ่มลายไทยและแก้สี ติชมตามสบายคับ

    โหลด Mage http://www.mediafire.com/?hbedbj4v4hxgvxd
    โหลด Rogue http://www.mediafire.com/?as0wvd86dnd170a
    โหลด Warrior http://www.mediafire.com/?u847aet77hwj8gz

    โหลด Warrior ลายธงชาติไทย http://www.mediafire.com/?omxpmbzxo4y88o4

    Mage



    Rogue


    Warrior


    Warrior ลายธงชาติไทย
    ]

    all class

    ______


    ประกาศ : เปิดหมวด
    DRAGON AGE 2 : HOW TO KILL BOSS CLIPS


    แหล่งรวมคลิปผู้เล่นชาวไทย หากผู้ใดคิดว่ามีความสามารถในการปราบบอสต่างๆ อัดคลิปมาลงได้เลยครับ หรือใครอยากรู้วิธีการปราบบอสแต่ละตัวอย่างถูกต้องเด็ดขาดแม้ใน mode nightmare ก็ไม่ครณามือ

    หมวดนี้อยู่ที่หน้า 66 ต่อจากส่วน Walkthrough กดเข้ามาดูรายละเอียดได้ คลิ้ก<<< << ที่นี่เลยครับ
    Last edited by pongkrit03; 11 Jun 2011, 21:17:24.

  • #2
    รายละเอียดสกิลของภาคสอง

    Warrior (โดย toevtoev)

    อธิบาย นิดนึงนะครับ เดี๋ยวจะ งง? กันเอาได้
    ที่ผม ( ) ไว้ข้างชื่อ สกิล เช่น = (สกิลหลัก) // (สกิลอัพเกรดของ.....)
    หมายความว่า ........ เช่น
    5.Scatter (เป็นสกิลหลัก)
    เงื่อนไข : เรียนได้ตอน Lv6 // ต้องเรียนสกิล Shield Bash และ Shield Defenseมาก่อน // ต้องอัพสกิลในทักษะ Weapon and Shield 2พ้อย
    Effect : สร้างความเสียหายทางกายภาพ 24 พลังทำลายทางกายภาพ คูณ 4
    Cost : 30 สแทมมีน่า // Cooldown : 25 วินาที // เป็นสกิลกดใช้ใส่เป้าหมาย

    6.Disperse (สกิลอัพเกรดของ Scatter)
    เงื่อนไข : เรียนได้ตอน Lv6 //ต้องเรียนสกิล Scatterมาก่อน
    Effect : เพิ่มความเสียหายทางกายภาพขึ้น 12 สร้างความเสียหายทางกายภาพ 300% แก่เป้าหมายที่ติดสถานะDISORIENTED เพิ่มพลังทำลายทางกายภาพขึ้น คูณ 2

    หมายความว่า สกิล Scatter คือ สกิลที่ใช้งานในการโจมตี แล้วพอเรา อัพสกิล Disperse มันจะไปอัพเกรด สกิล Scatter
    เพื่อเพิ่ม ความสามารถต่าง เช่น พออัพสกิล Disperse ก็จะเพิ่ม ความเสียหายทางกายภาพให้ สกิล Scatter ขึ้นอีก 12 แล้วถ้า
    มีศัตรู ที่ติดสถานะ DISORIENTED อยู่ จะทำให้ศัตรูโดน ความเสียหายทางกายภาพ เพิ่มขึ้นถึง 300%


    ก็หวังว่าจะเข้าใจกันนะครับผม ตัวผมเอง ก็พยายามอธิบายให้ง่าย เท่าที่จะทำได้
    (สกิลติดตัว = Passive)
    เริ่มที่ Battlemaster

    1. Rally (สกิลหลัก)
    เงื่อนไข : ตัวละคร Lv 4
    Effect : เพิ่มอัตราการฟื้นฟู Mana/stamina 200% แก่เพื่อนของเราทุกคน และถ้าตัวเรามีการเปิดใช้สกิล Might, Control, Turn the Blade หรือ Elemental Aegis อยู่ เพื่อนเราคนอื่นจะได้รับผลของสกิลเหล่านี้ไปด้วย
    สกิลมีผล : 10 วินาที // Cost : 15 // Cooldown 30 วินาที // Active Skill

    2.Unite (สกิลอัพเกรดของ Rally )
    เงื่อนไข : ตัวละคร Lv 8 // ต้องอัพสกิล Rally // ต้องอัพสกิลในทักษะ Battlemaster 2 พ้อย
    Effect : ถ้าเรามีการ upgrade สกิล Might, Control, Turn the Blade หรือ Elemental Aegis อยู่ เพื่อนของเราจะได้ผลการ upgrade ด้วยถ้าเราเปิดใช้ Rally (ถ้าไม่มีสกิลนี้ เวลาใช้ Rally ตัวเราจะได้ผลการอัพเกรดคนเดียว ส่วนเพื่อนเราจะได้แบบเท่าปกติ) และแถมพิ่มอัตราการฟื้นฟู Mana/stamina เป็น 400%

    3.Battle Synergy (สกิลหลัก)
    เงื่อไข : ตัวละคร Lv5 // ต้องอัพสกิล Rally // ไม่สามารถ ใช้งานร่วมกับสกิล Bravery
    Effect : เพิ่ม พลังป้องกัน 5% ต่อ จำนวนเพื่อน ,มีผลกับ ทุกคนในปาตี้ ลดความเสียหายลง 3% ต่อจำนวนเพื่อน ,มีผลกับ ทุกคนในปาตี้
    ระยะของสกิล : 10 เมตร // Cost : 30% ของ Stamina ทั้งหมด // Cooldown : 10 วินาที // Sustained mode

    4.Fearless Synergy (สกิลอัพเกรดของ Battle Synergy )
    เงื่อนไข : ตัวละคร Lv9 // ต้องอัพสกิล Battle Synergy // ต้องอัพสกิลในทักษะ Battlemaster 2 พ้อย
    Effect : เพิ่มค่า Threat transfer 50% จากเพื่อน สู่ตัวเอง

    5.Hero's Synergy (สกิลอัพเกรดของ Battle Synergy )
    เงื่อนไข : ตัวละคร Lv 11 // ต้องอัพสกิล Battle Synergy // ต้องอัพสกิลในทักษะ Battlemaster 2 พ้อย
    Effect : ถ่ายโอนความเสียหาย 25% จากเพื่อน สู่ตัวเอง

    6.Bolster
    เงื่อนไข : ตัวละคร Lv 3
    Effect : ฟื้นฟู Stamina 5% // Active Skill
    <- ข้อมูลเว็บฝรั่งอาจผิด เพราะมันแหม่งๆ

    7.Second Wind (สกิลหลัก)
    เงื่อนไข : ตัวละคร Lv 8 // ต้องอัพสกิล Bolster
    Effect : ฟื้นฟู Stamina 100%
    Cooldown : 60 วินาที // Active Skill

    8.Last Push (สกิลอัพเกรดของ Second Wind )
    เงื่อนไข : ตัวละคร Lv 14 // ต้องอัพสกิล Second Wind
    Effect : ทำให้สกิลที่อยู่ในช่วง Cooldown Cooldownเร็วขึ้น

    9.Deep Breath (สกิลอัพเกรดของ Second Wind )
    เงื่อนไข : ตัวละคร Lv 12 // ต้องอัพสกิล Second Wind
    Effect : ลด Cooldown ของสกิล Second Wind ลง 15 วินาที

    10.Deep Reserves (สกิลติดตัว)
    เงื่อนไข : ตัวละคร Lv6 // ต้องอัพสกิล Bolster
    Effect : เพิ่มอัตราฟื้นฟู Mana/stamina +10

    2.Defender

    1.Stonewall (สกิลหลัก)
    เงื่อนไข : n/a
    Effect : พลังทำลายทางกายภาพ คูณ2 เมื่อโจมตีศัตรูที่โจมตีเราอยู่ เพิ่มความต้านทานความเสียหาย 50%
    สกิลมีผล : 5วินาที // Cost : 20 // Cooldown : 15 วินาที // เป็น Active Skill

    2.Bulwark (สกิลอัพเกรดของ Stonewall )
    เงื่อนไข : ตัวละคร Lv 3 // ต้องอัพสกิล Stonewall
    Effect : เพิ่มความต้านทานความเสียหาย 50% เพิ่มความต้านทาน Knockback(ทำให้กระเด็น) 100% เพิ่มความต้านทานKnockdown(ทำให้ล้ม)100%
    Cooldown : ลดCooldown ของสกิล Stonewall 5วินาที

    3.Adamant (สกิลติดตัว)
    เงื่อนไข : ตัวละคร Lv8 // ต้องอัพสกิลStonewall และ Turn the Blade // ต้องอัพสกิลในทักษะ Defender 3พ้อย
    Effect : เพิ่มความต้านทานความเสียหายจากทุกรูปแบบ 5%

    4.Turn the Blade (สกิลหลัก)
    เงื่อนไข : ตัวละคร Lv3
    Effect : เพิ่มพลังป้องกัน 10% (ไม่สามารถใช้ร่วมกับสกิล Elemental Aegis )
    Cost : 20% ของ Stamina ทั้งหมด // Cooldown : 5วินาที //เป็น Sustained mode

    5. Raise the Guard (สกิลอัพเกรดของ Turn the Blade)
    เงื่อนไข : ตัวละคร Lv9 // ต้องอัพสกิล Turn the Blade // ต้องอัพสกิลในทักษะ Defender 2พ้อย
    Effect : เพิ่มพลังป้องกัน 5%

    6.Steady the Foot (สกิลอัพเกรดของ Turn the Blade)
    เงื่อนไข : ตัวละคร Lv 7 // ต้องอัพสกิล Turn the Blade
    Effect : เพิ่มค่าความอดทน(Fortitude) 20

    7.Resilience (สกิลติดตัว)
    เงื่อนไข : ตัวละคร Lv 5 // ต้องอัพสกิล Turn the Blade และ Elemental Aegis // ต้องอัพสกิลในทักษะ Defender 2 พ้อย
    Effect : ความต้านทานKnockback(ทำให้กระเด็น) 100%

    8.Elemental Aegis (สกิลหลัก)
    เงื่อนไข : ตัวละคร Lv 3
    Effect : เพิ่มความต้านทาน ไฟ ,น้ำแข็ง,ไฟฟ้า,วิญญาณ,ธรรมชาติ(Nature) 40% (ไม่สามารถใช้ร่วมกับสกิลTurn the Blade )
    Cost : 15% ของ Stamina ทั้งหมด // Cooldown : 5วินาที //เป็นSustained mode

    9.Elemental Shroud (สกิลอัพเกรดของ Elemental Aegis )
    เงื่อนไข : ตัวละคร Lv7 // ต้องอัพสกิล Elemental Aegis // ต้องอัพสกิลในทักษะ Defender 2 พ้อย
    Effect : เพิ่มความต้านทาน ไฟ ,น้ำแข็ง,ไฟฟ้า,วิญญาณ,ธรรมชาติ(Nature) 20%

    10.Resolute (สกิลติดตัว)
    เงื่อนไข : ตัวละคร Lv 8 // ต้องอัพสกิล Elemental Aegis // ต้องอัพสกิลในทักษะ Defender 4 พ้อย
    Effect : เพิ่มความต้านทานเวยท์มนต์ 10%

    3.Two-Handed


    1. Mighty Blow (สกิลหลัก)
    เงื่อนไข : ต้องมี Lv2 จึงจะเรียนได้
    Effect : สร้างความเสียหายทางกายภาพ + 24 พลังทำลายทางกายภาพ คูณ 2
    Cost : 20 // Cooldown : 20วินาที // เป็นActive Skill

    2.Shattering Blow (สกิลอัพเกรดของ Mighty Blow )
    เงื่อนไข : ต้องมี Lv8 จึงจะเรียนได้ // ต้องเรียนสกิล Mighty Blow มาก่อน // ต้องอัพสกิลในทักษะTwo-Handed 2พ้อย
    Effect : สร้างความเสียทางกายภาพ 300% ต่อเป้าหมายที่ติดสถานะ BRITTLE พลังทำลายทางกายภาพ 200% ต่อเป้าหมายที่ติดสถานะ BRITTLE
    Cooldown : ลด Cooldown ของสกิล Mighty Blow 5 วิ

    3.Killer Blow (สกิลอัพเกรดของ Mighty Blow )
    เงื่อนไข : ต้องมี Lv6 จึงจะเรียนได้ // ต้องอัพสกิล Mighty Blow มาก่อน
    Effect : เพิ่มความเสียทางกายภาพ + 12

    4.Scythe (สกิลหลัก)
    เงื่อนไข : ต้องมี Lv5 จึงจะเรียนได้ // ต้องอัพสกิล Mighty Blow มาก่อน // ต้องอัพสกิลในทักษะTwo-Handed 2พ้อย
    Effect : พุ่งเข้าโจมตีในลักษณะกลุ่ม สร้างความเสียทางกายภาพ 18 พลังทำลายทางกายภาพ คูณ 2
    Cost : 30 // Cooldown : 20 วินาที // เป็นActive Skill

    5.Reaper (สกิลอัพเกรดของ Scythe)
    เงื่อนไข : ต้องมีLv9 จึงจะเรียนได้ // ต้องอัพสกิล Scythe มาก่อน
    Effect : เพิ่มความเสียทางกายภาพ 9 สร้างความเสียทางกายภาพ 200% ต่อเป้าหมายที่ติดสถานะ BRITTLE เพิ่มพลังทำลายทางกายภาพ คูณ 1
    พลังทำลายทางกายภาพ 200% ต่อเป้าหมายที่ติดสถานะ BRITTLE

    6.Giant's Reach (สกิลติดตัว)
    เงื่อนไข : ต้องมี Lv3 จึงจะเรียนได้ // ต้องอัพสกิลในทักษะTwo-Handed 1พ้อย
    Effect : เพิ่มระยะของการโจมตีธรรมดาแและสกิล Whirlwind, Mighty BLow, and Scythe อีก 1 เมตร

    7.Whirlwind (สกิลหลัก)
    เงื่อนไข : ต้องมี Lv7 จึงจะเรียนได้ // ต้องอัพสกิล Mighty Blow และ Giant's Reach มาก่อน //ต้องอัพสกิลในทักษะTwo-Handed 3พ้อย
    Effect : หมุนดาบโจมตีศัตรูรอบตัว สร้างความเสียหายทางกายภาพ 18 + พลังทำลายทางกายภาพ คูณ 2
    ระยะของสกิล : 6เมตร // Cost : 30 // Cooldown : 30 วินาที // เป็นActive Skill

    8.Tornado (สกิลอัพเกรดของ Whirlwind)
    เงื่อนไข : ต้องมี Lv 13 จึงจะเรียนได้ // ต้องอัพสกิล Whirlwind มาก่อน // ต้องอัพสกิลในทักษะTwo-Handed 6 พ้อย
    Effect : โอกาส ติด คริติคอล 100% ตอนใช้ท่า Whirlwind

    9.Cyclone (สกิลอัพเกรดของ Whirlwind )
    เงื่อนไข : ต้องมี lv 11 จีงจะอัพสกิลได้ // ต้องอัพสกิล Whirlwind มาก่อน
    Effect : เพิ่มความเสียทางกายภาพ 6
    Cooldown : ลด Cooldown ของ สกิล Whirlwind 5 วิ

    10.Sunder (สกิลติดตัว)
    เงื่อนไข : ต้องมี Lv 4 จึงจะเรียนได้ // ต้องอัพสกิลในทักษะTwo-Handed 1 พ้อย
    Effect : เพิ่มโอกาสติด คริติคอล 10% ถ้าโจมตีติด คริติคอล มีโอกาส 50% ที่จะทำให้ ศัตรูระดับธรรมดาติดสถานะ STAGGER

    4.Vanguard


    1. Control (สกิลหลัก)
    เงื่อนไข : ต้องมี lv 3 จึงจะอัพสกิลได้
    Effect : เพิ่มพลังโจมตี 10% (ไม่สามารถใช้ร่วมกับสกิล Might ได้)
    Cost : 15% ของ stamina ทั้งหมด // Cooldown : 5 วินาที // เป็นSustained mode

    2. Command (สกิลอัพเกรดของ Control)
    เงื่อนไข : ต้องมี Lv 7 จึงจะเรียนได้ // ต้องเรียนสกิล Control มาก่อน //ต้องอัพสกิลในทักษะVanguard 2พ้อย
    Effect : เพิ่มโอกาสติด คริติคอล 10%

    3.Destroyer (สกิลติดตัว)
    เงื่อนไข : ต้องมี Lv7 จึงจะเรียนได้ // ต้องเรียนสกิล Control มาก่อน // ต้องอัพสกิลในทักษะVanguard 3พ้อย
    Effect : ทำให้ความต้านทานความเสียหายของศัตรู ลดเหลือ 90% เมื่อ warrior โจมตี ธรรมดา
    ทำให้ความต้านทานความเสียหายของศัตรู ลดเหลือ 50% เมื่อ warrior โจมตีติด คริติคอล

    4.Cleave (สกิลหลัก)
    เงื่อนไข : ต้องมี Lv6 จึงจะเรียนได้ // ต้องเรียนสกิล Control และ Mightมาก่อน // ต้องอัพสกิลในทักษะVanguard 2พ้อย
    Effect : เพิ่ม Damage 100%
    สกิลมีผลอยู่ : 10วินาที // Cost : 20 //เป็นActive Skill

    5.Claymore (สกิลอัพเกรดของ Cleave)
    เงื่อนไข : ต้องมี Lv10 จึงจะเรียนได้ // ต้องเรียนสกิล Cleave มาก่อน //ต้องอัพสกิลในทักษะVanguard 4พ้อย
    Effect : มีโอกาส 40% ที่จะทำให้ ศัตรูธรรมดา><(ยังไม่ติดสถานะใดๆ) ติดสถานะ STAGGER มีโอกาส 100% ที่จะสตั้นเป้าหมายที่ติดสถานะ BRITTLE
    สกิลมีผล : 5วินาที

    6.Massacre (สกิลติดตัว)
    เงื่อนไข : ต้องมี Lv12 จึงจะเรียนได้ // ต้องเรียนสกิล Cleave มาก่อน // ต้องอัพสกิลในทักษะVanguard 4พ้อย
    Effect : สามารถทำให้ศัตรู ระดับธรรมดา ตายในการโจมตีครั้งเดียว เมื่อพลังชีวิตศัตรูเหลือ 20% สามารถทำให้ศัตรู ระดับหัวหน้า ตายในการโจมตีครั้งเดียว เมื่อพลังชีวิตศัตรูเหลือ 10%

    7.Might (สกิลหลัก)
    เงื่อนไข : ต้องมี Lv3 จึงจะเรียนได้ //
    Effect : เพิ่ม ดาเมจ 10% (ไม่สามารถใช้ร่วมกับสกิล Control)
    Cost : 20% ของ staminaทั้งหมด // Cooldown : 5 วินาที // เป็นสกิลกดใช้ มีผลกับเอง

    8.Muscle (สกิลอัพเกรดของ Might)
    เงื่อนไข : ต้องมี Lv7 จึงจะเรียนได้ // ต้องเรียนสกิล Might มาก่อน // ต้องอัพสกิลในทักษะVanguard 2พ้อย
    Effect : เพิ่ม คริคิคอล ดาเมจ 25 % เมื่อเปิดใช้สกิล Might

    9.Assail (สกิลหลัก)
    เงื่อนไข : ต้องมี Lv5 จึงจะเรียนได้ // ต้องเรียนสกิล Might มาก่อน // ต้องอัพสกิลในทักษะVanguard 3พ้อย
    Effect : Damage เพิ่มขึ้น 10% พลังทำลายทางกายภาพ คูณ3 พลังทำลายทางธาตุ คูณ 3
    สกิลมีผล : 15 วินาที // Cost : 20 // Cooldown : 30 วินาที // เป็นActive Skill

    10.Besiege (สกิลอัพเกรดของ Assail)
    เงื่อนไข : ต้องมีLv9 จึงจะเรียนได้ // ต้องเรียนสกิล Assail มาก่อน // ต้องอัพสกิลในทักษะVanguard 4พ้อย
    Effect : เมื่อใช้สกิล Assail จะทำให้ศัตรู รอบๆตัวเรา ได้รับความเสียหายทางกายภาพ 6 ต่อการโจมตี 1ครั้ง

    5.Warmonger


    1.Pommel Strike (สกิลหลัก)
    เงื่อนไข : n/a
    Effect : สตันข้าศึก มีโอกาส100% ที่จะสตั้น ศัตรูธรรมดา
    สกิลมีผล : 5 วินาที // Cost : 10 // Cooldown : 15 วินาที // เป็นActive Skill

    2.Pommel Blow (สกิลอัพเกรดของ Pommel Strike )
    เงื่อนไข : ตัวละคร Lv3 //
    Effect : มีโอกาส100% ที่จะสตั้น ศัตรูธรรมดา และเพิ่มระยะเวลาเกิดผลอีก 3 วินาที ลดCooldown ของสกิล Pommel Strike 5 วินาที

    3.Tremor (สกิลหลัก)
    เงื่อนไข : ตัวละคร Lv5
    Effect : ฟาดอาวุธลงพื้น เพื่อให้ศัตรูที่อยู่รอบเรากระเด็น พลังทำลายทางกายภาพ คูณ 8 ระยะ : 6เมตร
    Cost : 30 / / Cooldown : 20 วินาที // เป็นActive Skill

    4.Quake (สกิลอัพเกรดของ Tremor)
    เงื่อนไข : ตัวละคร Lv 11 //ต้องอัพสกิล Tremor // ต้องอัพสกิลในทักษะ Warmonger 3 พ้อย
    Effect : เพิ่มรัศมีของท่า Tremor เป็น 10 เมตร และตัวที่ล้มลงจะติดสตั้นด้วย

    5.Aftershock (สกิลอัพเกรดของ Tremor )
    เงื่อนไข : ตัวละคร Lv 9 // ต้องอัพสกิล Tremor
    Effect : ลด cooldown ของสกิล Tremor 5วินาที และทำให้ตัวที่ล้มลง มีโอกาส 40% ที่จะทำให้ ศัตรูธรรมดา ติดสถานะ STAGGER

    6. Taunt (สกิลหลัก)
    เงื่อนไข : ตัวละคร Lv3
    Effect : ตะโกนเรียกศัตรูรอบตัวให้มาตีที่ตัวเอง (ติด100%) // ระยะของสกิล : 10เมตร
    Cost : 30 // Cooldown : 20 วินาที // เป็นActive Skill

    7.Bellow (สกิลอัพเกรดของ Taunt)
    เงื่อนไข : ตัวละคร Lv7 // ต้องอัพสกิลในทักษะ Warmonger 2 พ้อย
    Effect : เพิ่มระยะของสกิล Taunt ขึ้นเป็น 16 เมตร

    8.Bravery (สกิลหลัก)
    เงื่อนไข : ตัวละคร Lv 6 // ต้องอัพสกิล Taunt
    Effect : เพิ่มพลังโจมตี 10% ตามจำนวน ศัตรู ที่อยู่รอบๆตัว ,(ไม่นับตัวแรก) มีโอกาสติด คริติคอล 3% ตามจำนวน ศัตรูที่อยู่รอบๆตัว, ,(ไม่นับตัวแรก) ***(ไม่สามารถใช้ร่วมกับสกิล Battle Synergy )***
    ระยะของสกิล : 10 เมตร // Cost : 15% ของ Stamina ทั้งหมด // Cooldown : 10 วินาที // เป็น Sustained mode

    9.Bravado (สกิลอัพเกรดของ Bravery )
    เงื่อนไข : ตัวละคร Lv 9 // ต้องอัพสกิล Bravery
    Effect : เพิ่ม Threat generation 50% ต่อ จำนวนศัตรู ที่อยู่รอบๆ (ไม่นับตัวแรก)

    10.Bravura (สกิลอัพเกรดของ Bravery )
    เงื่อนไข : ตัวละคร Lv9 // ต้องอัพสกิล Bravery // ต้องอัพสกิลในทักษะ Warmonger 3 พ้อย
    Effect : เพิ่ม Damage อีก 5% ต่อจำนวน ศัตรูที่อยู่รอบๆ , (ไม่นับตัวแรก)

    6.Weapon_and_Shield


    1.Shield Defense (สกิลหลัก)
    เงื่อนไข : เรียนได้ตอน Lv 3 และจำเป็นต้องใส่โล่
    effect : ลด ดาเมจ 25% เพิ่ม ความต้านทานจากการโจมตีด้านหน้า 25%
    Cost : 15% ของสแทมมีน่าทั้งหมด // Cooldown : 5 วินาที // Sustained mode

    2.Shield Wall (สกิลอัพเกรดของShield Defense )
    เงื่อนไข : เรียนได้ตอน Lv 8 // ต้องเรียนสกิล Shield Defense มาก่อน //ต้องอัพสกิลในทักษะ Weapon and Shield 4พ้อย
    effect : เพิ่มความต้านทานการโจมตีจากด้านหลัง 50% และเพิ่มโอกาสหลบหลีกให้เราอีก 20% สำหรับการโจมตีปกติของศํตรู

    3.Perception (เป็นสกิลติดตัว)
    เงื่อนไข : เรียนได้ตอน lv 4 // ต้องเรียนสกิล Shield Defense มาก่อน // จำเป็นต้องใส่โล่
    effect : ทำให้ไม่ได้รับผลจากแทงด้านข้าง // ศัตรูที่โจมตีจากข้างหลัง จะไม่ได้โบนัสดาเมจ

    4.Safeguard (เป็นสกิลติดตัว)
    เงื่อนไข : เรียนได้ตอน Lv7 // ต้องเรียนสกิล Scatter และPerception มาก่อน // ต้องอัพสกิลในทักษะ Weapon and Shield 4พ้อย
    Effect : ทำให้ไม่ได้รับความเสียหายพิเศษจากการโจมตีติดคริติคอลของศัตรู

    5.Scatter (เป็นสกิลหลัก)
    เงื่อนไข : เรียนได้ตอน Lv6 // ต้องเรียนสกิล Shield Bash และ Shield Defenseมาก่อน // ต้องอัพสกิลในทักษะ Weapon and Shield 2พ้อย
    Effect : ผลักศัตรูให้กระเด็นไปข้างหลัง สร้างความเสียหายทางกายภาพ 24 พลังทำลายทางกายภาพ คูณ 4
    Cost : 30 สแทมมีน่า // Cooldown : 25 วินาที // เป็นสกิลกดใช้ใส่เป้าหมาย

    6.Disperse (สกิลอัพเกรดของ Scatter)
    เงื่อนไข : เรียนได้ตอน Lv6 //ต้องเรียนสกิล Scatterมาก่อน
    Effect : ท่าทำให้ท่า scatter ผลักได้แม้แต่ศัตรูตัวใหญ่ก็ตาม และถ้าตัวเล็กๆอาจตายได้เลย เพิ่มความเสียหายทางกายภาพขึ้น 12 สร้างความเสียหายทางกายภาพ 300% แก่เป้าหมายที่ติดสถานะDISORIENTED เพิ่มพลังทำลายทางกายภาพขึ้น คูณ 2

    7.Shield Bash (สกิลหลัก)
    เงื่อนไข : เรียนได้ตอน Lv 12 // จำเป็นต้องใส่โล่
    Effect : ผลักศัตรูให้ล้ม พร้อมกับสร้างความเสียหายทางกายภาพ 10+ พลังทำลายทางกายภาพ คูณ 12
    Cost : 10 // Cooldown 15 วินาที // เป็นสกิลกดใช้ใส่เป้าหมาย

    8.Pummel (สกิลอัพเกรดของShield Bash )
    เงื่อนไข : เรียนได้ตอน Lv6 // จำเป็นต้องเรียนสกิล Shield Bash มาก่อน
    Effect : มีโอกาส 100% ที่ Shield Bash จะทำให้ติดสถานะ STAGGER
    Cooldown : ลดCooldown ของสกิล Shield Bash 5 วินาที

    9.Assault (สกิลหลัก)
    เงื่อนไข : เรียนได้ตอน Lv 5 // ต้องเรียนสกิล Shield Bash มาก่อน //จำเป็นต้องใส่โล่
    Effect : โจมตีศัตรูตัวเดียวติดต่อ 3 ทีรวดพร้อมอัดให้กระเด็น แต่ละครั้งความเสียหายทางกายภาพ +10 พลังทำลายทางกายภาพ คูณ2
    Cost : 20 // Cooldown : 20 วินาที // เป็นสกิลกดใช้ใส่เป้าหมาย

    10.Battery (สกิลอัพเกรดของ Assault)
    เงื่อนไข : เรียนได้ตอน Lv9 // จำเป็นต้องเรียนสกิล Assault มาก่อน//ต้องอัพสกิลในทักษะ Weapon and Shield 3พ้อย
    Effect : เพิ่มความเสียหายทางกายภาพ 5 จำนวน3ที สร้างความเสียหายทางกายภาพ 400% ในการโจมตีครั้งสุดท้าย ต่อเป้าหมายที่ติดสถานะ DISORIENTED
    Cooldown : ลดคูลดาวน์ ของสกิลหลัก (Assault) 5วินาที


    Wariror Specialization



    BERSERKER
    ความสามารถพิเศษเมื่อเรียนรู้ทักษะ : เพิ่มอัตราฟื้นฟู Mana/stamina 10

    1. Berserk
    ต้องการ : Lv7
    ต้องการ : Specialization Berserker
    Effect : เพิ่ม Damage 10% ของ Stamina ที่มีอยู่ (สมมุติ Stamina เหลือ100 จาก 200 ก็เพิ่ม damage ขึ้น10% ของ 100)
    Cost : ลด Stamina 4 ต่อการโจมตี 1ครั้ง
    Cooldown : 10 วินาที
    สกิลประเภท : กดใช้งานมีกับตัวเอง (Sustained mode)

    2. Savage Berserk
    ต้องการ : Lv13
    ต้องการ : สกิลBerserk
    ต้องการ : ต้องอัพสกิลในทักษะ Berserker 4พ้อย
    Effect : เพิ่ม Damage ของสกิล Berserk อีก 5% ตามจำนวน stamina ที่เหลืออยู่
    สกิลประเภท : อัพเกรดของ สกิล Berserk

    3. Endless Berserk
    ต้องการ : Lv11
    ต้องการ : สกิล Berserk
    ต้องการ : ต้องอัพสกิลในทักษะ Berserker 3 พ้อย
    Effect : ลดการใช้ Stamina ของสกิล Berserk จาก 4 เหลือ 2 ต่อการโจมตี 1 ครั้ง
    สกิลประเภท : อัพเกรดของ สกิล Berserk

    4. Adrenaline
    ต้องการ : Lv8
    ต้องการ : สกิล Berserk
    Effect : เพิ่ม Damage: Stacking 5% ( ต้องขอโทษด้วยครับ คำว่า Stacking ไม่เข้าใจจริง ) ต้องใช้ต้องเปิด Berserkers
    สกิลมีผล : 8 วินาที
    Cost : 20 Stamina
    Cooldown : 2 วินาที
    สกิลประเภท : กดใช้งาน

    5. Adrenaline Rage
    ต้องการ : Lv14
    ต้องการ : สกิล Adrenaline
    ต้องการ : ต้องอัพสกิลในทักษะ Berserker 4 พ้อย
    Effect : เพิ่ม Damage: Stacking ให้กับสกิล Adrenaline อีก 3%
    สกิลประเภท : อัพเกรดของ สกิล Adrenaline

    6. Adrenaline Rush
    ต้องการ : Lv12
    ต้องการ : สกิล Adrenaline
    ต้องการ : ต้องอัพสกิลในทักษะ Berserker 3 พ้อย
    Effect : ลด cooldown ของสกิล Adrenaline ลง 2 วินาที
    สกิลประเภท : อัพเกรดของสกิล Adrenaline

    7. Barrage
    ต้องการ : Lv9
    ต้องการ : สกิล Berserk
    Effect : เพิ่มความเร็วในการโจมตี 50% แต่ลดความต้านทานความเสียหาย 20% (ต้องเปิด Berserker ด้วย)
    สกิลมีผล : 10 วินาที
    Cost : 20 Stamina
    Cooldown : 30 วินาที
    สกิลประเภท : กดใช้งาน

    8. Unrelenting Barrage
    ต้องการ : Lv9
    ต้องการ : สกิล Barrage
    ต้องการ : ต้องอัพสกิลในทักษะ Berserker 3 พ้อย
    Effect : เพิ่ม ระยะเวลาของสกิล Barrage อีก 10 วินาที
    สกิลประเภท : อัพเกรดของสกิล Barrage

    9. Resilient Barrage
    ต้องการ : Lv15
    ต้องการ : สกิล Barrage
    ต้องการ : ต้องอัพสกิลในทักษะ Berserker 4 พ้อย
    Effect : เพิ่ม ความต้านทาน Damage 10% เมื่อใช้ Barrage
    สกิลประเภท : อัพเกรดของสกิล Barrage

    10. Death Blow
    ต้องการ : Lv15
    ต้องการ : สกิล Adrenaline
    ต้องการ : สกิล Barrage
    ต้องการ : ต้องอัพสกิลในทักษะ Berserker 5 พ้อย
    Effect : ฟื้นฟู Stamina ขั้นต่ำ 5% เมื่อศัตรูตาย / คำนวนจาก ระดับของ ศัตรู
    สกิลประเภท : สกิลติดตัว passive



    REAVER
    ความสามารถพิเศษเมื่อเรียนรู้ทักษะ : เพิ่ม Damage ทางกายภาพ // ไฟ // น้ำแข็ง // ไฟฟ้า // ธรรมชาติ // วิญญาณ 5 %

    1. Blood Frenzy
    ต้องการ : Lv7
    ต้องการ : Specialization Reaver
    Effect : สามารถเพิ่ม Damage ตาม Hp เราที่ลดลงไป (ง่ายๆคือยิ่งเราใกล้ตาย เรายิ่งตีแรงขึ้น) สูงสุด 200%
    สกิลประเภท : สกิลติดตัว

    2. Sacrificial Frenzy
    ต้องการ : Lv9
    ต้องการ : สกิล Blood Frenzy
    ต้องการ : ต้องอัพสกิลในทักษะ Reaver 2 พ้อย
    Effect : เพิ่ม Damage ของสกิล Blood Frenzy อีก คูณ 2 โดยยอมสละ Hp ตัวเองไป 20
    สกิลมีผล : 10 วินาที
    Cooldown : 25 วินาที
    สกิลประเภท : กดใช้งาน

    3. Sustained Frenzy
    ต้องการ : Lv13
    ต้องการ : สกิล Sacrificial Frenzy
    ต้องการ : ต้องอัพสกิลในทักษะ Reaver 3 พ้อย
    Effect : ลด cooldown ของสกิล Sacrificial Frenzy ลง 5 วินาที
    สกิลประเภท : อัพเกรดของสกิล Sacrificial Frenzy

    4. Fervor
    ต้องการ : Lv13
    ต้องการ : สกิล Sacrificial Frenzy
    ต้องการ : สกิล Aura of Pain
    ต้องการ : ต้องอัพสกิลในทักษะ Reaver 4 พ้อย
    Effect : เพิ่ม ความเร็วในการโจมตี 30% เมื่อศัตรูตาย
    สกิลมีผล : 10 วินาที
    สกิลประเภท : สกิลติดตัว

    5. Aura of Pain
    ต้องการ : Lv10
    ต้องการ : สกิล Blood Frenzy
    ต้องการ : สกิล Devour
    Effect : ทำให้ศัตรู รอบๆตัว ได้รับ ความเสียหายธาตุวิญญาณ 5 ต่อ 1 คลื่น ลด Hp 5% ต่อ 1 คลื่น แต่ตัวเราก็โดนผลนี้เหมือนกันนะ
    ระยะเวลาต่อการเกิดคลื่น : 4วินาที ต่อ 1คลื่น
    ระยะของสกิล : 6 เมตร
    Cost : 10% ของ Stamina ทั้งหมด
    Cooldown : 5 วินาที
    สกิลประเภท : สกิลกดใช้งานกับตัวเอง

    6. Frenzy of Pain
    ต้องการ : Lv16
    ต้องการ : สกิล Aura of Pain
    ต้องการ : ต้องอัพสกิลในทักษะ Reaver 5 พ้อย
    Effect : ทำให้สกิล สูญเสีย Hp จาก Aura of Pain ลดลง (ไม่ได้บอกว่าเท่าไร)
    สกิลประเภท : อัพเกรดของสกิล Aura of Pain

    7. Torrent of Pain
    ต้องการ : Lv14
    ต้องการ : สกิล Aura of Pain
    ต้องการ : ต้องอัพสกิลในทักษะ Reaver 3 พ้อย
    Effect : เพิ่มความเสียหายธาตุ วิญญาณ อีก สกิลAura of Pain อีก 3 ต่อ 1 คลื่น (เพิ่มเฉพาะศัตรู แต่เราลดเท่าเดิม)
    สกิลประเภท : อัพเกรดของสกิล Aura of Pain

    8. Devour
    ต้องการ : Lv8
    ต้องการ : Specialization Reaver
    Effect : สร้างความเสียหายทางกายภาพ 10 ฟื้นฟู Hp 10(ดูดเลือด)
    Cost : 20 Stamina
    Cooldown : 120 วินาที
    สกิลประเภท : กดใช้งาน

    9. Voracious
    ต้องการ : Lv12
    ต้องการ : สกิล Devour
    Effect : เมื่อใช้ devour จะเพิ่มความเสียหายทางกายภาพ 3 เพิ่มฟื้นฟู Hp 3 (ดูดเลือด) มีโอกาส 100% ทำให้ติดสถานะSTAGGER มีโอกาศ 100% ที่จะ Stun ศัตรูปรกติ
    สกิลประเภท : อัพเกรดของสกิล Devour

    10. Insatiable
    ต้องการ : Lv14
    ต้องการ : สกิล Devour
    ต้องการ : ต้องอัพสกิลในทักษะ Reaver 2 พ้อย
    Effect : เพิ่มความเสียหายทางกายภาพ 3 เพิ่มความเสียหายทางกายภาพ 300% ต่อเป้าหมายที่ติด สถานะDISORIENTED ฟื้นฟู Hp 3 ฟื้นฟู Hp 300% (ดูดเลือด) จากเป้าหมายที่ติด สถานะ DISORIENTED
    Cooldown : ลด cooldown ของสกิล Devour ลง 20 วินาที
    สกิลประเภท : อัพเกรดของสกิล Devour



    TEMPLAR
    เพิ่ม Damage 10% ต่อ สิ่งมีชีวิตจาก Fade และ พวกที่ ร่ายเวยท์

    1. Cleanse
    ต้องการ : Lv8
    ต้องการ : Specialization Templar
    Effect : สร้างคลื่นลบผลจากสกิลเวทย์มนต์ของข้าศึกที่ใช้ใส่เพื่อนเรา รวมถึงข้าศึกที่เปิด sustain เวทอยู่ก็จะโดนปิดลงด้วย
    ระยะของสกิล : 6 เมตร
    Cost : 20 Stamina
    Cooldown : 30 วินาที
    สกิลประเภท : กดใช้งาน

    2. Cleansing Wave
    ต้องการ : Lv12
    ต้องการ : สกิล Cleanse
    ต้องการ : ต้องอัพสกิลในทักษะ TEMPLAR 2 พ้อย
    Effect : เพิ่มระยะของสกิล Cleanse เป็น 10เมตร
    สกิลประเภท : อัพเกรดของสกิล Cleanse

    3. Lasting Cleanse
    ต้องการ : Lv14
    ต้องการ : สกิล Cleanse
    ต้องการ : ต้องอัพสกิลในทักษะ TEMPLAR 4 พ้อย
    Effect : Cleanse จะทำให้ ศัตรูปรกติ ติดใบ้ (คือใช้เวทไม่ได้) เป็นระยะเวลาสั้นๆ
    สกิลมีผล : 10 วินาที
    สกิลประเภท : อัพเกรดของสกิล Cleanse

    4. Silence
    ต้องการ : Lv12
    ต้องการ : สกิล Cleanse
    ต้องการ : ต้องอัพสกิลในทักษะ TEMPLAR 2 พ้อย
    Effect : ทำให้ศัตรูเป้าหมายเดี่ยวติดใบ้
    สกิลมีผล : 20 วินาที
    Cost : 25 Stamina
    Cooldown : 45 วินาที
    สกิลประเภท : กดใช้งาน

    5. Lingering Silence
    ต้องการ : Lv12
    ต้องการ : สกิล Silence
    ต้องการ : ต้องอัพสกิลในทักษะ TEMPLAR 4 พ้อย
    Effect : ลด cooldown ของสกิล Silence ลง 10 วินาที
    สกิลประเภท : อัพเกรดของสกิล Silence

    6. Holy Smite
    ต้องการ : Lv7
    ต้องการ : Specialization Templar
    Effect : สร้างความเสียหายธาตุวิญญาณ 24 ใส่ข้าศึกในลักษณะกลุ่ม
    ระยะของสกิล : 8 เมตร
    Cost : 35 Stamina
    Cooldown : 25 วินาที
    สกิลประเภท : กดใช้งาน

    7. Righteous Smite
    ต้องการ : Lv11
    ต้องการ : สกิล Holy Smite
    ต้องการ : ต้องอัพสกิลในทักษะ TEMPLAR 2 พ้อย
    Effect : Holy Smite จะสร้างความเสียหายธาตุวิญญาณ 200% ต่อสิ่งมีชีวิตจาก Fade และพวกนักเวท
    สกิลประเภท : อัพเกรดสกิลของ Holy Smite

    8. Staggering Smite
    ต้องการ : Lv13
    ต้องการ : สกิล Holy Smite
    ต้องการ : สกิล
    ต้องการ : ต้องอัพสกิลในทักษะ TEMPLAR 3 พ้อย
    Effect : ทำให้สกิล Holy Smite มีโอกาส 50% ที่จะ Stun ศัตรูปรกติ
    สกิลประเภท : อัพเกรดสกิลของ Holy Smite

    9. Righteous Strike
    ต้องการ : Lv10
    ต้องการ : สกิล Cleanse
    ต้องการ : สกิล Holy Smite
    Effect : เมื่อโจมตี มีโอกาส 10% ที่จะทำให้ศัตรูปรกติไม่สามารถใช้สกิลของตัวเองได้
    สกิลมีผล : 4 วินาที
    สกิลประเภท : สกิลติดตัว passive

    10. Annulment
    ต้องการ : Lv15
    ต้องการ : สกิล Silence
    ต้องการ : สกิล Righteous Strike
    ต้องการ : ต้องอัพสกิลในทักษะ TEMPLAR 4 พ้อย
    Effect : เพิ่มความต้านทาน เวทย์มนต์ 50%
    สกิลประเภท : สกิลติดตัว passive




    ROGUE(โดย คุณ editon)

    โจรเป็นอาชีพที่มีจุดเด่นเรื่องการโจมตีที่รุนแรงติด Critical สามารถฆ่าศัตรูเป้าหมายเดียวได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นจะเกิดค่าความเกลียดชังต่อศัตรูรอบด้านได้สูง แต่ก็มีความสามารถด้านการซ่อนเร้น หลอกล่อ อำพราง ก่อกวน ลูกเล่นที่แพรวพราวเหล่านี้จึงทำให้ Rogue เป็นอาชีพที่มีเสน่ห์ดึงดูด แต่ก็มีข้อเสียคือค่าพลังกายภาพที่ต่ำเสี่ยงต่อการกระเด็นแต่ถูกทำให้ล้มได้ง่ายจึงไม่เหมาะหากจะสู้กันซึ่งๆหน้าในระดับโหดๆอย่าง Nightmare เว้นแต่ซะว่าคุณจะมีค่าปัดป้องการโจมตีที่สูงลิบ

    - จริงๆ Rogue จะเล่นหลักๆได้ 3-4 สายนะครับเดี๋ยวผมค่อยมาวิเคราะให้
    *ผมเน้นเอาไว้นะครับสำหรับความน่าใช้ ☆ยอดเยี่ยม △ดี ◎แล้วแต่ ○ทางผ่าน xไม่แนะนำ
    * Critical = การโจมตีแบบทวีคูณ(Damage X2)/ Sustained mode = โหมดสนับสนุนจะหักลด Max MP,Max Stamina เมื่อกดใช้


    Dual Weapon
    เป็นความสามารถที่เน้นไปทางการใช้มีดคู่
    ☆ทักษะที่น่าสนใจคือ Backstab, Explosive Strike , Twin Fangs




    1. Unforgiving Chain
    ต้องการ: เลเวล 3
    ช่วงเวลาหนึ่ง, ทุกการโจมตีธรรมดาของ rogue จะทำด้วยความรวดเร็วอย่างต่อเนื่อง สร้างโอกาสที่จะโจมตีแบบทวีคูณ
    สร้างโอกาสตีแบบทวีคูณ +2% ต่อ/ครั้ง
    ประเภท Passive ability

    2. Explosive Strike
    ต้องการ: เลเวล 4 / ต้องการ: Unforgiving Chain
    สร้างการโจมตีคอมโบกับ Unforgiving Chain. ทุกครั้งที่โจมตีแบบธรรมดานั้น rogue หลังจากที่ใช้ Explosive Strike จะสร้างความเสียหายเพิ่มเติม
    ความรุนแรงโจมตีทางกายภาพ 10
    เพิ่มความรุนแรงโจมตีทางกายภาพ: +50% ต่อการโจมตีแบบธรรมดา 10 ที หลังจากใช้งาน Explosive Strike
    พลังทางกายภาพ: 2x

    ใช้ : 15 stamina / ระยะเวลารอ : 25 วินาที
    ประเภท Activated ability

    3. Merciless Strike

    ต้องการ : เลเวล 4 / ต้องการ : Explosive Strike / ต้องการเพิ่มแต้มในทักษะ Dual Weapon 3 แต้ม
    Explosive Strike การันตีการแบบตีทวีคูณ และความเสียหายเพิ่มเติมไปยังเป้าหมายที่สูญเสียการทรงตัวอันเนื่องมาจากการกระทำของ warrior
    เพิ่มความรุนแรงในการโจมตีทางกายภาพ 400% กับเป้าหมายที่ติด STAGGERED
    โอกาสโจมตีแบบทวีคูณ 100%

    ประเภท Upgrade

    4. Backstab
    ต้องการ: เลเวล 2
    rogue สร้างหมอกควันปกคลุมร่างกายและเข้าจู่โจมเป้าหมายรวดเร็วดั่งสายฟ้าแลบจากด้านหลังโดยที่เป้าหมายไม่อาจป้องกันตัวได้
    ความรุนแรงทางกายภาพ 25
    พลังทางกายภาพ 2x

    สูญเสีย 20 stamina / ระยะเวลารอ 15 วินาที
    ประเภท Activated ability

    5. Murder

    ต้องการ: เลเวล 8 / ต้องการ: Backstab / ต้องการเพิ่มแต้มในทักษะ Dual Weapon : 3 แต้ม
    ณ.ตอนนี้ rogue ได้มองเห็นจุดอ่อนคู่ต่อสู้และใช้ Backstab และสร้างความเสียหายเป็นทวีคูณ
    โอกาสโจมตีแบบทวีคูณ: 100%
    ประเภท Upgrade

    6. Perforate X
    ต้องการ: เลเวล 6 / ต้องการ: Backstab
    ปัจจุบัน Backstab ได้ลดระยะเวลารอ เปิดโอกาสให้ Rogue ใช้งานความสามารถนี้ได้ถี่ขึ้น
    ลดระยะเวลารอ 5 วินาที
    ประเภท Upgrade

    7. Twin Fangs
    เงื่อนไข Level 6 / ต้องการ Explosive Strike, Backstab / ต้องลงแต้มในทักษะ Dual Weapon แล้วอย่างน้อย 4 แต้ม
    The rogue แทงที่เป้าหมายด้วยอาวุธคู่พร้อมกันจะสร้างความเสียหายแบบทวีคูณทันทีโดยความรุนแรงนั้นแยกกันในมีดแต่ละข้าง
    ความรุนแรงทางกายภาพ 60 (x2 ข้าง)
    พลังทางกายภาพ 2x (x2 ข้าง)
    โอกาสโจมตีแบบทวีคูณ 100%

    สูญเสีย 30 stamina / ระยะเวลารอ 30 วินาที
    ประเภท Activated ability

    8. Reversed Grip X
    เงื่อนไข Level 10
    Twin Fangs ลดระยะเวลารอสามารถใช้งานได้ถี่ขึ้น
    ระยะเวลารอ: -10 วินาที
    ประเภท Upgrade

    9. Lacerate

    เงื่อนไข Level 5 / ความต้องการ Backstab / ต้องลงแต้มในทักษะ Dual Weapon แล้วอย่างน้อย 2 แต้ม
    เมื่อโหมดนี้ถูกใช้งาน การจู่โจมของ rogue มีโอกาสจะทำให้เป้าหมายเลือดไหล
    โอกาสสำเร็จ 10%
    ความเสียหายทางกายภาพจากเลือดไหล 10

    หักลด 10% ของ Stamina / ระยะเวลารอ 10 วินาที
    ประเภท Sustained mode

    10. Main
    เงื่อนไข Level 9 / ความต้องการ Lacerate / ต้องลงแต้มในทักษะ Dual Weapon แล้วอย่างน้อย 4 แต้ม
    Lacerate ปัจจุบันสามารถสร้างแผลลึกขึ้น
    โอกาสสำเร็จ 100% กับเป้าหมาย STAGGERED
    ความรุนแรงทางกายภาพ +5

    ประเภท Upgrade

    Archery ความสามารถหลักสำหรับนักธนู ประกอบไปด้วยทักษะโจมตีเป็นกลุ่มที่ทรงพลัง
    ☆ สำหรับคนที่ชอบเล่นมาทางสายธนูเลือกอัพได้ทุกอัน Bursting Arrow, Hail of Arrows, Archer's Lance, Pinning Shot คุณจะได้ใช้มันตั้งแต่ต้นยันจบเกม


    1. Bursting Arrow

    เงือนไข Level 3 / ต้องใช้ธนู
    ยิงลูกศรระเบิดพุ่งกระทบเป้าหมายทำให้เกิดระเบิดเพลิง
    ความเสียหายจากธาตุไฟ 8
    พลังธาตุ 2x
    รัศมี 5 เมตร

    เสีย 30 stamina / ระยะเวลารอ 20 วินาที
    ประเภท Activated ability

    2. Shattering Arrow
    เงือนไข Level 9 / ต้องการ Bursting Arrow / ต้องลงแต้มในทักษะ Archery แล้วอย่างน้อย 2 แต้ม
    เพิ่มประสิทธิภาพของ Bursting Arrow และทำให้ใช้งานได้ถี่ขึ้น
    เพิ่มความเสียหาย 600% กับเป้าหมายที่ติด BRITTLE
    เพิ่มพลังธาตุ 400% กับเป้าหมายที่ติด BRITTLE
    ลดระยะการรอ 5 วินาที

    ประเภท Upgrade

    3. Smoking Arrow
    เงือนไข Level 7 / ต้องการ Bursting Arrow
    สร้างหมอกควันรอบรัศมี Bursting Arrow
    โอกาสพรางตัว 100% สำหรับสมาชิกในทีม
    ประเภท Upgrade

    4. Hail of Arrows
    เงือนไข Level 5 / ต้องการ ธนู, Bursting Arrow / ต้องลงแต้มในทักษะ Archery แล้วอย่างน้อย 2 แต้ม
    ยิงขึ้นฟ้าอย่างมากมายด้วยความรวดเร็วให้ตรงลงยังกลุ่มศัตรูอย่างกับสายฝน
    ความเสียหายทางกายภาพ 3 ทุก 1 วินาที
    ระยะเวลา 4 วินาที
    รัศมี 10 เมตร

    เสีย 30 stamina / ระยะเวลารอ 30 วินาที
    ประเภท Activated ability

    5. Storm of Arrows
    เงือนไข Level 9 / ต้องการ Hail of Arrows / ต้องลงแต้มในทักษะ Archery แล้วอย่างน้อย 5 แต้ม
    Hail of Arrows ตอนนี้กินรัศมีเป็นวงกว้างและสร้างความลำบากให้กับศัตรูมากขึ้น
    ลดความเร็วโจมตีศัตรู 50%
    ลดความเร็วเคลื่อนที่ศัตรู 50%
    รัศมี 15 เมตร

    ประเภท Upgrade

    6. Archer's Lance
    Requires: Level 7 / ต้องการ ธนู, Pinning Shot, Bursting Arrow / ต้องลงแต้มในทักษะ Archery แล้วอย่างน้อย 5 แต้ม
    ยิงลูกศรทะลุศัตรูที่ขว้างเป้าหมายวิถีลูกศร
    ความเสียหายทางกายภาพ 19 กับศัตรูทั้งหมดที่อยู่ในวิถีลูกศร
    พลังกายภาพ 2x กับศัตรูทั้งหมดที่อยู่ในวิถีลูกศร
    โจมตีแบบทวีคูณ 100% กับศัตรูที่เป็นเป้าหมาย

    เสีย 40 stamina / ระยะเวลารอ 30 วินาที
    ประเภท Activated ability

    7. Punishing Lance
    เงือนไข level 11 / ต้องการ Archer's Lance / ต้องลงแต้มในทักษะ Archery แล้วอย่างน้อย 6 แต้ม
    Archer's Lance จะพุ่งสังหารศัตรูที่กำลังอ่อนล้าที่เข้ามาในวิถีทันที
    ผลทำให้ สังหารศัตรูที่มีอาการอ่อนล้าในวิถีลูกศรทันที
    เพิ่มความเสียหายทางกายภาพ 9 กับทุกเป้าหมายที่ติด BRITTLE ในวิถีลูกศร
    เพิ่มพลังกายภาพ 400% กับทุกเป้าหมายที่ติด BRITTLE ในวิถีลูกศร

    ประเภท Upgrade

    8. Pinning Shot
    เงือนไข Level 2 / ต้องการ ธนู
    ยิงลูกศรไปยึดขาเป้าหมายไม่ให้เคลื่อนที่ชั่วขณะ
    ความเสียหายทางกายภาพ 19
    พลังทางกายภาพ 2x
    โอกาสยึดขา 80% กับศัตรูธรรมดา
    ระยะเวลา 8 วินาที

    เสีย 20 stamina / ระยะเวลารอ 20 วินาที
    ประเภท Activated ability

    9. Rapid Pinning Shot
    เพิ่มระยะเวลายึดและลดระยะเวลารอ
    เพิ่มระยะเวลายึด 2 วินาที
    ลดระยะเวลารอ 5 วินาที

    ประเภท Upgrade

    10. Disorienting Shot
    เงือนไข Level 8 / ต้องการ Pinning Shot / ต้องลงแต้มในทักษะ Archery แล้วอย่างน้อย 3 แต้ม
    เพิ่มการทำลายล้างของ Pinning Shot จนทำให้เป้าหมายลดการป้องกัน
    เพิ่มความเสียหาย 9
    โอกาส DISORIENT 100% เป้าหมายที่ถูกยึด

    ประเภท Upgrade

    Sabotage เป็นความสามารถที่เน้นไปทางทักษะของการก่อกวนดีบัพ
    **มีทักษะที่น่าสนใจแทบทุกอันแล้วทั้งหมดยังเป็นการก่อกวนเป้าแบบกลุ่มอีกต่างหาก ซึ่งขึ้นอยู่กับจะเลือกเรียนไปใช้งาน


    1. Rush
    Requires: Level 3
    พุ่งกระแทกเป้าหมายและศัตรูที่รายรอบเป้าหมายจะล้มลงไปด้วย
    พลังทางกายภาพ 16x
    สูญเสีย 15 stamina / ระยะเวลารอ 15 วินาที
    ประเภท Activated ability

    2. Charge
    เงือนไข Level 7 / ต้องการ Rush
    พุ่งชนอย่างจังทำให้ศัตรูที่ขว้างทางล้มกระจาย
    Type: Upgrade

    3. Blitz
    เงือนไข Level 9 / ต้องการ Rush / ต้องลงแต้มใน Sabotage แล้วอย่างน้อย 2 แต้ม
    ขณะที่พุ่งชนจะสร้างความเสียหายมากยิ่งขึ้น
    ความเสียหายทางกายภาพ 11
    ประเภท Upgrade

    4. Fatiguing Fog

    เงือนไข Level 7 / ต้องการ Rush / ต้องลงแต้มใน Sabotage แล้วอย่างน้อย 3 แต้ม
    ขว้างระเบิดควันหนาแน่นห่อหุ้มร่างกายศัตรู ทำให้รู้สึกหนักอึ่ง
    ลดความเร็วโจมตีศัตรู 50% / ลดความเร็วในการเคลื่อนที่ศัตรู 50%
    ระยะเวลา 10 วินาที / รัศมี 6 เมตร / สูญเสีย 20 stamina / ระยะเวลารอ 20 วินาที
    ประเภท Activated ability

    5. Overpowering Fog
    เงือนไข Level 13 / ต้องการ Fatiguing Fog / ต้องลงแต้มใน Sabotage แล้วอย่างน้อย 5 แต้ม
    Fatiguing Fog เพิ่มความสามารถให้ศัตรูติด DISORIENTED ลดค่าการป้องกันลงละทำให้ warrior หรือ mage ใช้คอมโบได้
    DISORIENT โอกาสติด 100% กับศัตรูธรรมดา
    Type: Upgrade

    6. Impenetrable Fog
    เงือนไข Level 11 / ต้องการ Fatiguing Fog
    Fatiguing Fog ระเหยไปในอากาศรอบๆ
    ทำให้เกิดโอกาสพรางตัว 100% แก่สมาชิกร่วมทีมทุกคน
    Type: Upgrade

    7. Miasmic Flask
    ขว้างระเบิดขวดใส่กลุ่มเป้าหมายทำให้เกิดอาการมึน
    โอกาสมึน 100% ศัตรูธรรมดา
    ระยะเวลา 4 วินาที
    รัศมี 5 เมตร

    สูญเสีย 20 stamina / ระยะเวลารอ 20 วินาที
    ประเภท Activated ability

    8. Improved Formula
    เงือนไข Level 3
    เพิ่มประสิทธิภาพ Miasmic Flasks ทำให้มึนนานและใช้งานได้ถี่ขึ้น
    เพิ่มระยะเวลามึน 2 วินาที /ลดระยะเวลารอ 5 วินาที
    Type: upgrade

    9. Confusion
    เงือนไข Level 5 / ต้องการ Miasmic Flask / ต้องลงแต้มใน Sabotage แล้วอย่างน้อย 2 แต้ม
    ล่อหลอกให้สับสนจนศัตรูทำร้ายกันเอง
    โอกาสสำเร็จ 50% กับศัตรูธรรมดา
    ระยะเวลา 10 วินาที / รัศมี 4 เมตร / สูญเสีย 30 stamina / ระยะเวลารอ 30 วินาที
    ประเภท Activated ability

    10. Chaos
    เงือนไข Level 9 / ต้องการ Confusion / ต้องลงแต้มใน Sabotage แล้วอย่างน้อย 6 แต้ม
    การสับสนจะทรงอณุภาพมากขึ้นและศัตรูจะมุ่งแต่ทำร้ายกันเองจนลืมป้องกันตัว
    DISORIENT โอกาสสำเร็จ 100% กับศัตรูธรรมดา
    ระยะเวลาเพิ่มขึ้นมาอีก 10 วินาที

    Type: Upgrade

    Specialist เป็นความสามารถที่ไปทางทักษะของการใช้โหมดสนับสนุนตนเอง
    *มีทักษะที่น่าสนใจคือ Speed


    1. Speed
    เงือนไข Level 4
    ขณะที่เปิดโหมดนี้จะเพิ่มความเร็วในการโจมตีให้ตนเอง (โหมดนี้ไม่สามารถใช้ร่วมกับ Precision หรือ Power)
    ความเร็วโจมตี +10%
    หักลด 20% ของ stamina / ระยะเวลารอ 5 วินาที
    ประเภท Sustained mode

    2. Lightning Speed
    เงือนไข Level 8 / ความต้องการ Speed / ต้องลงแต้มในทักษะ Specialist แล้วอย่างน้อย 3 แต้ม
    ขณะนี้ Speed ทำให้การโจมตีของตนเองรวดเร็วมากขึ้น
    ความเร็วโจมตี +5%
    ประเภท Upgrade

    3. Energizing Speed
    เงือนไข Level 10 / ความต้องการ Speed / ต้องลงแต้มในทักษะ Specialist แล้วอย่างน้อย 5 แต้ม
    ขณะเปิดโหมด Speed ระยะการรอคอยที่จะใช้วิชาของตนเอง จะลดลง
    ลดระยะการรอคอย 90% ให้กับทุกวิชา***ผมว่าต้นฉบับภาษาอังกฤษพิมพ์ผิดทั้ง2เว็บไซต์เลยหรือยังไงรอการยืนยันในตัวเกม 90% มันดูจะเหนือมนุษย์เกินไป
    ประเภท Upgrade

    4. Precision
    เงือนไข Level 3
    ขณะเปิดโหมดนี้จะเพิ่มความแม่นยำให้ ตนเองและเพิ่มโบนัสโอกาสตีแบบทวีคูณ (โหมดนี้ไม่สามารถใช้ร่วมกับโหมดSpeed หรือโหมด Power)
    เพิ่มความแม่นยำ 20% / เพิ่มโอกาสตีแบบทวีคูณ 10%
    หักลด 15% ของ stamina / ระยะเวลารอ 5 วินาที
    ประเภท Sustained mode

    5. Precise Attack
    เงือนไข Level 7 / ความต้องการ Precision / ต้องลงแต้มในทักษะ Specialist แล้วอย่างน้อย 2 แต้ม
    ขณะเปิดโหมด Precision จะเพิ่มความแม่นยำให้ตนเองขึ้นไปอีก
    เพิ่มความแม่นยำ 10%
    ประเภท Upgrade

    6. Precise Criticals
    เงือนไข Level 9 / ความต้องการ Precision / ต้องลงแต้มในทักษะ Specialist แล้วอย่างน้อย 3 แต้ม
    ขณะเปิดโหมด Precision จะเพิ่มโอกาสตีแบบทวีคูณให้ตนเองขึ้นไปอีก
    เพิ่มโอกาสตีแบบทวีคูณ 5%
    ประเภท Upgrade

    7. Harmony
    เงือนไข Level 6 / ความต้องการ Speed, Precision, Power / ต้องลงแต้มในทักษะ Specialist แล้วอย่างน้อย 3 แต้ม
    ขณะเปิดโหมดใดใน Power, Precision, หรือSpeed เพิ่มโบนัสให้อย่างละ 2 โหมด
    เพิ่มความเร็วโจมตี 5% ใน Power หรือ Precision
    เพิ่มความแม่นยำ 10% ใน Speed หรือ Power
    เพิ่มโอกาสตีแบบทวีคูณ 5% ใน Speed หรือ Power
    โอกาสมึนงง 1% กับศัตรูธรรมดา ในโหมด Speed หรือ Precision

    ประเภท Passive ability

    8. Power
    เงือนไข Level 5
    ขณะเปิดโหมดนี้จะสามารถทำให้ศัตรูมึนจากการโจมตี (ไม่สามารถใช้ร่วมกับโหมด Precision หรือ Speed)
    โอกาสมึน 3% กับศัตรูธรรมดา
    หักลบ 20% ของ stamina / ระยะเวลารอ 5 วินาที
    ประเภท Sustained mode

    9. Stunning Power
    เงือนไข Level 11/ ต้องการ Power / ต้องลงแต้มในทักษะ Specialist แล้วอย่างน้อย 5 แต้ม
    ขณะเปิดโหมด Power ตนเองจะได้รับโอกาสทำมึนศัตรูมากขึ้น
    เพิ่มโอกาสมึน 3% กับศัตรูธรรมดา
    ประเภท Upgrade

    10. Slashing Power

    เงือนไข Level 9/ ต้องการ Power / ต้องลงแต้มในทักษะ Specialist แล้วอย่างน้อย 3 แต้ม
    ขณะโจมตีศัตรูที่กำลังมึนจากโหมด Power จะเพิ่มการติดสถานะเลือดออกมาช่วงเวลาหนึ่ง
    ความเสียหายทางกายภาพ 11 กับเป้าหมายที่ติดมึนงง
    ประเภท Upgrade

    Scoundrel
    เป็นความสามารถที่ไปทางทักษะของการล่อลวงเพื่อลดค่าความเกลียดชัง
    *มีทักษะที่นาสนใจคือ Blindside และ Twist the Knife



    1. Blindside
    เงือนไข Level 5
    เพิ่มการโจมตีเมื่อคู่ต่อสู้เกิดสนใจจะเล่นงานฝ่ายที่เป็นมิตรหรือเพื่อนร่วมทีม
    เพิ่มความเสียหาย 120% กับศัตรูที่สนใจสมาชิกทีมหรือฝ่ายที่เป็นมิตร
    ประเภท Passive ability

    2. Twist the Knife
    เงือนไข Level 5 / ต้องการ Blindside / ต้องลงแต้มในทักษะ Scoundrel: แล้วอย่างน้อย 2 แต้ม
    rogue โดยมากจะกังวลเกี่ยวกับชัยชนะมากกว่าจะสนใจการต่อสู้อย่างใสสะอาด กับศัตรูที่มึนงงจะเข้าทำร้ายอย่างไร้ปราณีด้วยการโจมตีแบบทวีคูณ
    โอกาสตีแบบทวีคูณ 100% กับเป้าหมายที่มึน
    ประเภท Passive ability

    3. Follow-Through
    เงือนไข Level 7 / ต้องการ Back-to-Back / ต้องลงแต้มในทักษะ Scoundrel แล้วอย่างน้อย 2 แต้ม
    ดูด Stamina จากการโจมตีแบบธรรมดา
    ฟื้นคืน Stamina 1% ต่อ 1 การโจมตีธรรมดา
    ประเภท Passive ability

    4. Back-to-Back
    เงือนไข Level 3
    rogue ล่องหนเข้าหาเป้าหมายของสหายและจะปรากฏตัวทันทีเพื่อช่วยเหลือ
    สูญเสีย 15 stamina / ระยะเวลารอ 30 วินาที
    ประเภท Activated ability

    5. Invisible Friend
    เงือนไข Level 7 / ต้องการ Back-to-Back / ต้องลงแต้มในทักษะ Scoundrel แล้วอย่างน้อย 2 แต้ม
    เมื่อใช้ Back-to-Back จะเพิ่มโอกาสและระยะเวลาในการล่องหน ผลนี้จะเกิดขึ้นได้แม้ไม่ได้เรียน Stealth มาเลยก็ตาม
    โอกาสล่องหน 100%
    ระยะเวลา 10 วินาที

    ประเภท Upgrade

    6. Armistice
    เงือนไข level 4
    หากตกเป็นเป้าสนใจของศัตรูทั้งหมด Rogue จะล่อหลอกมันไปหาเป้าหมายอื่นในปาร์ตี้และและศัตรูจะแห่ไปรุมเพื่อนที่มีค่าเกลียดชังเป็นอันดับที่สองแทน...
    ลดค่าความเกลียดชัง 100%
    รัศมี 10 เมตร

    สูญเสีย 20 stamina / ระยะเวลารอ 20 วินาที
    ประเภท Activated ability

    7. Truce
    เงือนไข Level 8 / ต้องการ Armistice / ต้องลงแต้มในทักษะ Scoundrel แล้วอย่างน้อย 3 แต้ม
    ขณะนี้ rogue ใช้ Armistice ได้ถี่ขึ้น ...
    ลดระยะเวลารอ 5 วินาที
    ประเภท Upgrade

    8. Goad
    เงือนไข Level 6 / ต้องการ Armistice
    ลดค่าความเกลียดชังให้เป้าหมาย
    ลดค่าความเกลียดชังให้เป้าหมายที่เป็นสหาย 100%
    รัศมี 6 เมตร

    สูญเสีย 20 stamina / ระยะรอ 20 วินาที
    ประเภท Activated ability

    9. Corral
    เงือนไข Level 10 / ต้องการ Armistice / ต้องลงแต้มในทักษะ Scoundrel แล้วอย่างน้อย 4 แต้ม
    เพิ่มรัศมี
    ขนาด 10 เมตร
    ประเภท Upgrade

    10. Brand △(จะยอดเยี่ยมหากไม่ต้องผ่านทักษะ Back-to-Back มาก่อน ถ้าลองคำนวนแล้วสายที่เล่นแต้มพอก็อัพไว้ใช้งานได้ครับ)
    เงือนไข Level 6 / ต้องการ Back-to-Back
    เพิ่มพลังในการโจมตีแบบทวีคูณแก่เพื่อนร่วมทีมที่เป็น นักรบหรือนักเวทย์
    เพิ่มโอกาสตีแบบทวีคูณ 10% เมื่อใช้กับเป้าหมายที่เป็น warriors และ mages
    สูญเสีย 20 stamina / ระยะเวลารอ 30 วินาที
    ประเภท Activated ability

    Subterfuge สายลอบเร้นอำพรางตัวเหมาะสำหรับพวกชอบสอยเมจหรือจะหนีเอาตัวรอดก็ได้ทั้งนั้น
    **ถ้าคุณมาทางสายระยะไกลพวกทักษะ Stealth ดูเหมือนจะไม่จำเป็น ไปเลือกเรียนทักษะความสามารถพิเศษของ Shadow เห็นจะดีกว่า


    1. Stealth
    เงือนไข Level 3
    ล่องหนในสมรภูมิรบเขาจะเคลื่อนที่ช้าๆอย่างระมัดระวัง นั้นจะทำให้เหล่าศัตรูไม่สังเกตเห็น rogue
    โอกาสลองหน 100%
    ความเร็วในการเคลื่อนที่เหลือ 60%
    ระยะเวลา 10 วินาที

    สูญเสีย 20 stamina / ระยะเวลารอ 30 วินาที
    ประเภท Activated ability

    2. Silent Running ◎สายประชิด Xธนู
    เงือนไข Level 7 / ต้องการ Stealth / ต้องลงแต้มในทักษะ Subterfuge แล้วอย่างน้อย 2 แต้ม
    rogue ฝึกการซ่อนเร้นอยากเชียวชาญจนสามารถเคลื่อนได้ในระดับปรกติขณะล่องหน
    ความเร็วในการเคลื่อนที่ 100%
    ประเภท Upgrade

    3. Camouflage ◎สายประชิด Xธนู
    เงือนไข Level 9 / ต้องการ Stealth / ต้องลงแต้มในทักษะ Subterfuge แล้วอย่างน้อย 3 แต้ม
    rogue ฝึกจนถึงขั้นที่ใช้เวลาล่องหนได้นานกว่าเดิม
    ระยะเวลาเพิ่มขึ้น 5 วินาที
    สูญเสีย 10 stamina
    ประเภท Upgrade

    4. Ambush
    เงือนไข Level 4 / ต้องการ Stealth / ต้องลงแต้มในทักษะ Subterfuge แล้วอย่างน้อย 2 แต้ม
    The rogue โจมตีศัตรูแบบทวีคูณอัตโนมัติ รวมถึงความสามารถอื่นๆ เช่น Hail of Arrows หรือ Backstab
    โอกาสโจมตีแบบทวีคูณ 100% เมื่อล่องหน
    ประเภท Passive ability

    5. Lingering Shroud ☆หากเล่นสายประชิด
    Requires: Level 6 / Requires: Stealth / ต้องลงแต้มในทักษะ Subterfuge แล้วอย่างน้อย 2 แต้ม
    The rogue คือผู้เขียวชาญการซ่อนเร้น หากเขาพรางตัวและล่องหนในบางเวลา rogue จะกระทำการบางอย่างในครั้งแรกไม่ว่าจะโจมตีหรือใช้ไอเท็มโดยยังคงสถานะล่องหนเอาไว้อยู่ มีเพียงสถานะพรางตัวเท่านั้นที่หายไป และขณะที่ rogue กระทำการบางอย่างในครั้งที่สองเขาจะหลุดจากการล่องหน, เมื่อนำมาใช้ร่วมกับความสามารถซ่อนเร้นอื่นๆ อย่าง Ambush หรือ Shadow Veil จะแสดงผลลัพธ์ที่ทรงพลังมากขึ้น
    ประเภท Passive ability

    6. Evade
    กระโดดหนีไปด้านหลังด้วยความรวดเร็ว ความเกลียดชังของศัตรูลดลงซึ่งขึ้นอยู่กับ Rank ศัตรูด้วย
    รัศมี 5 เมตร
    สูญเสีย 15 stamina / ระยะเวลารอ 10 วินาที
    ประเภท Activated ability

    7. Tactical withdrawal
    เงือนไข Level 3 / ต้องการ Evade
    การหลบนี้อย่างกระทันหันทำให้ศัตรูมึนงง
    โอกาส 100% กับศัตรูธรรมดา
    ประเภท Upgrade

    8. Chameleon's Breath
    เงือนไข Level 4 / ต้องการ Evade
    ขว้างระเบิดควัน ให้สหายเกิดสถานะพรางตัวระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งจะทำให้ศัตรูตีพลาดเป้าได้ในระยะเวลาหนึ่ง
    โอกาสพรางตัว 100% กับสมาชิกร่วมทีมทุกคน
    ระยะเวลา 10 วินาที
    รัศมี 5 เมตร

    สูญเสีย 20 stamina / ระยะเวลารอ 30 วินาที
    ประเภท Activated ability

    9. Chameleon's Cloud
    เงือน Level 8 / ต้องการ Chameleon's Breath / ต้องลงแต้มในทักษะ Subterfuge แล้วอย่างน้อย 2 แต้ม
    เพิ่มระยะเวลาในการพรางตัว 5 วินาที และรัศมีกว้างเป็น 8 เมตร
    ประเภท Upgrade

    10. Subtlety
    เงือนไข Level 6 / ต้องการ Evade / ต้องลงแต้มในทักษะ Subterfuge แล้วอย่างน้อย 2 แต้ม
    ทุกการกระทำจะลดค่าความเกลียดชังได้อย่างต่อเนื่อง
    ลดความเกลียดชังต่อเนื่อง 25%
    ประเภท Passive ability





    _________
    Last edited by pongkrit03; 8 Mar 2011, 21:41:50.

    Comment


    • #3
      Rouge Specialization (โดยคุณ editon)
      (ตัวละครสามารถเรียนรู้ได้ที่เลเวล 5)

      SHADOW ผู้เชียวชาญด้านการพรางตัว
      ความสามารถพิเศษเมื่อเรียนรู้ทักษะ มีโอกาสพรางตัว 3% เมื่อ Hawke ถูกโจมตี
      ระยะเวลา : 5 วินาที


      1. Pinpoint Precision
      ต้องการ : เลเวล 7
      ต้องการ : Specialization Shadow
      ค้นหาจุดอ่อนของคู่ต่อสู้และโจมตีอย่างรุนแรง
      ความรุนแรงของคริติคอลเพิ่มขึ้น (Critical damage) +25%
      ประเภท : ติดตัว (Passive ability)

      2. Inconspicuous
      ต้องการ : เลเวล 8
      ต้องการ : Specialization Shadow
      เป็นสกิลที่ลดความเกลียดชังของศัตรูที่มีต่อตนเองให้ไปสนใจเป้าหมายอื่นที่มีค่าความเกลียดชัง(Threat)ในลำดับรองลงไป
      ลดความเกลียดชังลง(Threat reduction) 100%
      ลดความเกลียดจากการกระทำปัจจุบันในระยะเวลาของสกิลลง(Threat generation) -50%
      ระยะเวลา : 10 วินาที
      ระยะ : 20 เมตร
      ใช้ : 30 stamina
      คูลดาวน์ : 30 วินาที
      ประเภท : กดใช้งาน (Activated ability)

      3. Indiscernible
      ต้องการ : เลเวล 12
      ต้องการ : สกิล Inconspicuous
      ต้องอัพสกิลในทักษะ Shadow : 2 แต้ม
      เพิ่มระยะเวลาของสกิล Inconspicuous ให้ยาวนานขึ้น
      ระยะเวลา : +10 วินาที
      ประเภท : Upgrade

      4. Imperceptible
      ต้องการ : เลเวล 14
      ต้องการ : สกิล Inconspicuous
      ต้องอัพสกิลในทักษะ Shadow : 4 แต้ม
      ลดการกระทำต่อเนื่องที่มีผลให้ศัตรูเกลียดชังลงอีก
      ลดความเกลียดจากการกระทำปัจจุบันในระยะเวลาของสกิลลง(Threat generation) -50%

      5. Disorienting Criticals
      ต้องการ : เลเวล 9
      ต้องการ : สกิล Pinpoint Precision
      ขณะพรางตัว(obscured), the shadow จะเพิ่มโบนัส critical damage. และยังเพิ่มความสามารถขณะพรางตัวเมื่อตีคริติคอลติดศัตรูติดค่า DISORIENT อัตโนมัติ
      ความรุนแรงตริติคอลเพิ่ม(Critical damage) : +25% เมื่อพรางตัว
      โอกาสติด DISORIENT : 100% เมื่อตีศัตรูคริติคอลติดขณะพรางตัว

      6. Predator
      ต้องการ : เลเวล 13
      ต้องการ : สกิล Disorienting Criticals
      ต้องอัพสกิลในทักษะ Shadow : 5 แต้ม
      Shadows จะอันตรายอย่างยิ่งเมื่อเขาจัดการศัตรูจากด้านข้าง. เมื่อไรก็ตามที่ the shadow จู่โจมศัตรูจากด้านหลัง, ไม่ว่าจะโจมตีธรรมดาหรือใช้สกิล, จะติดคริติคอลเสมอ
      โอกาสคริติคอล (Critical chance) : 100% สำหรับการโจมตีศัตรูจากด้านข้างและหลัง
      ประเภท : เสริม (Upgrade)

      7. Decoy
      ต้องการ : เลเวล 10
      ต้องการ : สกิล Pinpoint Precision
      ต้องการ : สกิล Inconspicuous
      ต้องอัพสกิลในทักษะ Shadow : 2 แต้ม
      The shadow เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการหลอกล่อ,โดยจะสร้างหุ่นเหมือนตนเองล่อลวงให้ศัตรูมาโจมตีขณะที่ตนเองพรางตัวหลบหนีไป
      ร่างเงา(Decoy)จะมีพลังชีวิต : 50% ของจำนวนพลังชีวิตสูงสุด(MAX HP)ของผู้ใช้
      โอกาสล่องหน (Stealth chance) : 100%
      ระยะเวลา : 10 วินาที
      ใช้ : 40 stamina
      คูลดาวน์ : 30 วินาที
      ประเภท : กดใช้งาน (Activated ability)

      8. Sturdy Decoy
      ต้องการ : เลเวล 14
      ต้องการ : Decoy
      เพิ่มพลังชีวิตให้กับร่างเงาและเพิ่มระยะเวลาให้สามารถรับการโจมตีได้มากขึ้น
      ร่างเงา(Decoy)จะมีพลังชีวิต : +50% ของจำนวนพลังชีวิตสูงสุด(MAX HP)ของผู้ใช้
      ระยะเวลา : +5 วินาที
      ประเภท : เสริม (Upgrade)

      9. Rigged Decoy
      ต้องการ : เลเวล 16
      ต้องการ : Decoy
      ต้องอัพสกิลในทักษะ Shadow : 4 แต้ม
      ภายในร่างเงาจะถูกซ่อนกับดักเอาไว้เมื่อศัตรูทำลายระเบิดจะทำงาน
      เพิ่มความเสียหายจากธาตุไฟ(Fire damage) : เมื่อตาย, ตามอัตตราส่วนของเลือดร่างเงา
      Type: Upgrade

      10. Shadow Veil
      ต้องการ : เลเวล 11
      ต้องการ : สกิล Disorienting Criticals
      ต้องการ : สกิล Decoy
      ต้องอัพสกิลในทักษะ Shadow : 3 แต้ม
      ขณะที่ Shadow ล่องหนจะเข้าสู่โหมดพรางตัว เมื่อถูกโจมตีโดยศัตรูการโจมตีนั้นจะพลาดเป้า
      โอกาสพรางตัว (Obscure chance) : 100% เมื่อล่องหน(stealth)
      ประเภท : ติดตัว (Passive ability)

      ASSASSIN สุดยอดนักฆ่า
      ความสามารถพิเศษเมื่อเรียนรู้ทักษะ เพิ่มความรุนแรงคริติคอล(Critical damage) : +10%



      1. Mark of Death
      ต้องการ : เลเวล 7
      ต้องการ : Assassin
      เมื่อ assassin หมายหัวศัตรู, จะเผยให้เห็นจุดอ่อนซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสมาชิกทำให้จู่โจมคู่ต่อสู้ได้รุนแรงขึ้น
      ความต้านทานการโจมตีของศัตรูลดลง(Enemy damage resistance) : -25%
      ระยะเวลา : 10 วินาที
      ใช้ : 25 stamina
      คลูดาวน์ : 40 วินาที
      ประเภท : กดใช้งาน (Activated ability)

      2. Enduring Mark
      ต้องการ : เลเวล 11
      ต้องการ : สกิล Mark of Death
      ต้องอัพสกิลในทักษะ Assassin : 3 แต้ม
      เพิ่มระยะเวลา Mark of Death
      ระยะเวลา : +10 วินาที
      ประเภท : เสริม (Upgrade)

      3. Mark of Doom

      ต้องการ : เลเวล 13
      ต้องการ : สกิล Mark of Death
      ต้องอัพสกิลในทักษะ Assassin : 3 แต้ม
      ลดความต้านทานการโจมตีของศัตรูเพิ่มเติม
      ลดความต้านทานการโจมตีของศัตรูลงอีก(Enemy damage resistance) : -25%
      ประเภท : เสริม (Upgrade)

      4. Bloodlust
      ต้องการ : เลเวล 8
      ต้องการ : ทักษะ Assassin
      ดูด Stamina จากการฆ่าเหยื่อ
      (ดูดสตามิน่า)Stamina regeneration: ต่ำสุด 5% จากศัตรูที่ตาย, และลดลงตาม rank ศัตรู
      ประเภท : ติดตัว (Passive ability)

      5. Pinpoint Strikes
      ต้องการ : เลเวล 9
      ต้องการ : สกิล Mark of Death
      ต้องการ : สกิล Bloodlust
      ในช่วงเวลาหนึ่ง, assassin สามารถฉวยโอกาสจากศัตรูที่อ่อนล้า(weaknesses)เล่งจู่โจมเป้าหมายด้วยความแม่นยำ, ทำให้ตีติดคริติคอลทุกครั้งที่โจมตี
      โอกาสติดคริติคอล (Critical chance): 100%
      ระยะเวลา : 10 วินาที
      ใช้ : 30 stamina
      คูลดาวน์ : 40 วินาที
      ประเภท : กดใช้งาน (Activated ability)
      *สกิลนี้ผมแปลตามต้นฉบับนะครับ แต่เขาก็ไม่ได้เขียนเงื้อนไขว่าต้องตีศัตรูที่ติด weakness และผมก็จำได้ว่าสกิลนี้เป็นของ Duelist ในภาคแรกมาก่อนไม่จะเป็นต้องมีเงื้อนไขกดแล้วตีคริทันที

      6. Relentless Strikes
      ต้องการ : เลเวล 13
      ต้องการ : Pinpoint Strikes
      ต้องอัพสกิลในทักษะ Assassin : 3 แต้ม
      เพิ่มระยะเวลา Pinpoint Strikes
      ระยะเวลา : +10s
      ประเภท : เสริม(Upgrade)

      7. Devious Harm
      ต้องการ : เลเวล 12
      ต้องการ : Pinpoint Strikes
      ต้องอัพสกิลในทักษะ Assassin : 3 แต้ม
      ค่า cunning ของ assassin, จะเสริมความรุนแรงในการตีแบบคริติคอล
      ความรุนแรงคริติคอล (Critical damage): +1% ต่อแต้มของ cunning
      ประเภท : ติดตัว(Passive ability)

      8. Assassinate
      ต้องการ : เลเวล 10
      ต้องการ : Pinpoint Strikes
      Assassinate สามารถฆ่าศัตรูได้อย่าฉับพลัน, หากรอดชีวิตก็จะรู้สึกเจ็บปวดจากการตีคริคอลอันหนักหน่วง
      ความรุนแรงทางกายภาพ (Physical damage) : 132
      โอกาสติดคริติคอล (Critical chance) : 100%
      ใช้ : 40 stamina
      คูลดาวน์ : 40 วินาที
      ประเภท : กดใช้งาน (Activated ability)

      9. Annihilate
      ต้องการ : เลเวล 10
      ต้องการ : Assassinate
      ต้องอัพสกิลในทักษะ Assassin : 3 แต้ม
      Assassinate เพิ่มความสามารถของจนถึงระดับที่ลดคูลดาวน์และสร้างความเสียหายกับเป้าหมายที่ติดสถานะ BRITTLE ได้
      ความรุนแรงทางกายภาพ (Physical damage) : 400% vs. เป้าหมายติดสถานะ BRITTLE
      คูลดาวน์ : -10 วินาที
      ประเภท : เสริม (Upgrade)

      10. Overkill
      ต้องการ : เลเวล 16
      Requires: Assassinate
      ต้องอัพสกิลในทักษะ Assassin : 4 แต้ม
      เพิ่มพลังการทำลายล้างให้กับ Assassinate
      ความรุนแรงทางกายภาพ (Physical damage): +66
      ประเภท : เสริม (Upgrade)

      Duelist โจรสายดีบัพและที่สุดของการปัดป้อง
      ความสามารถพิเศษเมื่อเรียนรู้ทักษะ เพิ่มโอกาสในการติดคริติคอล (Critical chance) : +5%



      1. Throw the Gauntlet

      ต้องการ : เลเวล 8
      ต้องการ : Duelist
      The duelist นั้นไร้เทียมทานในการต่อสู้แบบตัวต่อตัว. ศัตรูจะปฏิเสธเผชิญหน้ากับ Rogue แทบจะทันทีในทันที
      ระยะเวลา : 20 วินาที
      ใช้ : 25 stamina
      คูลดาวน์ : 25 วินาที
      ประเภท : กดใช้ (Activated ability)
      *ไม่เคยลองสกิลใหม่คงจะหมายถึงทำให้เป้าหมายโจมตีไม่ได้และเปลี่ยนเป้าหมายใหม่ไม่ได้ หากไม่ติดก็จะมีผลของอัพเกรดช่วยให้โดนตีเบาลง

      2. To the Dealth
      ต้องการ : เลเวล 12
      ต้องการ : Throw the Gauntlet
      ต้องอัพสกิลในทักษะ Duelist : 2 แต้ม
      หากศัตรูคือคู่ต่อสู้ที่สุดยอดมาการดวล. ในช่วงเวลาหนึ่ง, ศัตรูจะไม่สามารถหันไปหาเป้าหมายอื่นจนกว่าจะพ่าย. คู่ต่อสู้ที่โจมตีด้วยอาวูธระยะไกลด้วยเช่นกันจะโจมตีอย่างหวาดหวั่น, ทำให้ความสามารถในการโจมตีด้อยลง
      Effect: ศัตรูจะไม่สามารถเปลี่ยนเป้าหมายใหม่
      ลดการโจมตีของศัตรู (Enemy damage) : -25%
      ประเภท : (เสริม) Upgrade

      3. Cutting Barbs
      ต้องการ : เลเวล 14
      ต้องการ : Throw the Gauntlet
      ต้องอัพสกิลในทักษะ Duelist : 4 แต้ม
      The duelist ข่มขู่ศัตรูทำให้เป้าหมายลดการป้องกันลง
      ลดค่าป้องกันของศัตรู (Enemy defense) : -50%
      ระยะเวลา : 20 วินาที
      ประเภท : (เสริม) Upgrade

      4. Sure Strikes
      ต้องการ : เลเวล 10
      ต้องการ : Throw the Gauntlet
      ต้องอัพสกิลในทักษะ Duelist : 2 แต้ม
      จากประสบการณ์ของ duelist ทำให้รอดชีวิตมานับไม่ถ้วน ทำให้ง่ายดายที่จะสอยคู่ต่อสู้
      เพิ่มความแม่นยำ (Attack) : +20%
      ประเภท : ติดตัว Passive ability
      *Attack เกม Dragon Age คือความแม่นยำนะครับ

      5. Parry
      ต้องการ : เลเวล 7
      ต้องการ : Duelist
      ขณะที่อยู่ในโหมดนี้,ค่าป้องกันของ duelist จะเพิ่มอย่างมหาศาล. เมื่อเผชิญหน้ากับคู่ต่อกรที่ที่โยนถุงมือยอมแพ้ duelist จะป้องกันได้เพิ่มขึ้นอีก
      ค่าการป้องกัน (Defense) : +20%
      ค่าการป้องกันเพิ่มเติม (Defense) : เพิ่มขึ้น +20% vs. ศัตรูที่ติดผลของสกิล Throw the Gauntlet
      หัก : 20% ของ stamina
      คูลดาวน์ : 5 วินาที
      ประเภท : เปิดบัพโหมด (Sustained mode)

      6. Riposte
      ต้องการ : เลเวล 11
      ต้องการ : Parry
      ต้องอัพสกิลในทักษะ Duelist : 2 แต้ม
      duelist สวนกลับด้วยการโจมตีที่ร้ายกาจ
      ความแม่นยำ (Attack) : +20%
      เพิ่มเติมความแม่นยำ (Attack) : เพิ่มขึ้น +20% vs. ศัตรูที่ติดผลของสกิล Throw the Gauntlet
      ประเภท : เสริม (Upgrade)

      7. En Garde

      ต้องการ : เลเวล 13
      ต้องการ : Parry
      ต้องอัพสกิลในทักษะ Duelist : 2 แต้ม
      The duelist โจมตีด้วยความดุดัน
      โอกาสคริติคอล (Critical chance) : +10%
      โอกาสคริติคอลเพิ่มขึ้น Critical chance: พิ่มขึ้น +10% vs. ศัตรูที่ติดผลของสกิล Throw the Gauntlet
      ประเภท : เสริม (Upgrade)

      8. Evasive Maneuvers
      ต้องการ : เลเวล 10
      ต้องการ : Parry
      ต้องอัพสกิลในทักษะ Duelist : 2 แต้ม
      หลังจากฝึกฝนมาแรมปี, the duelist จะทำให้รับการโจมตีจากทิศทางต่างๆได้ดีขึ้น
      ค่าการป้องกัน (Defense) : +20%
      ประเภท : ติดตัว (Passive ability)

      9. Vendetta

      ต้องการ : เลเวล 11
      ต้องการ : Throw the Gauntlet
      ต้องการ : Parry
      ต้องอัพสกิลในทักษะ Duelist : 2 แต้ม
      duelist ทั้งหมด, กระทั้งนักธนูหากเกิดการต่อสู้ในระยะใกล้ นั้นกลับโต้ตอบอย่างร้ายกาจจนได้เปรียบ, rogue หายตัวในหมอกควัน, และโดยมากจะจู่โจมศัตรูอย่างโหด*****มจากจากข้างหลัง. แต่สกิลนี้สามารถใช้ได้ทั่วทั้งสมรภูมิรบ
      โจมตีทางกายภาพ (Physical damage) : 99
      พลังทางกายภาพ (Physical force) : 2x
      ใช้ : 40 stamina
      คูลดาวน์ : 40 วินาที
      ประเภท : กดใช้งาน (Activated ability)

      10. Blood Feud
      ต้องการ : เลเวล 16
      ต้องการ : Vendetta
      ต้องอัพสกิลในทักษะ Duelist : 4 แต้ม
      เพิ่มคอมโบ STAGGERED
      โจมตีทางกายภาพ (Physical damage) : 300% vs. เป้าหมายที่ติด STAGGERED
      เกราะป้องกันของศัตรู (Enemy armor) : เหลือ 0% ชั่วขณะ
      ค่าต้านทานการโจมตีทางกายภาพ (Enemy damage resistance) : เหลือ 0% ชั่วขณะ
      คูลดาวน์ : -10 วินาที
      ประเภท : เสริม (Upgrade)

      จากที่ผมสัมผัสมาจากภาคแรกปละดูในภาคนี้จะแบ่งดังนี้ครับ
      Shadow -จะกลางๆ เน้นได้ทั้งสาย Dex นำและ Cun นำ จุดเด่นอยู่ที่พรางตัวและโจมตีจะติดคริออโต้เลยทีเดียว แถมมีสกิลหุ่นกระป๋องเอาไว้ล่อมอนส์เวลาถูกรุม ถ้าเล่นแบบ normal ถ้าจะเอา Decoy หุ่นกระแป๋งก็อัพสกิลลดค่าเกลียดมอนแค่1พอละครับเป็นทางผ่าน

      Assasin - หากเล่นโจรสายทำลายล้างครับ ดีบัพลดต้านทานกายภาพ บัพคริติคอล และมีสกิลสายโจรที่โจมตีแรงที่สุดอยู่ Assasin สายที่จะได้ประโยชน์สูงสุดคือ Cun

      Duelist - ผมรู้สึกว่าทักษะนี้ถูกปรับให้เก่งขึ้นกว่าภาคแรกมาก เพราะภาคแรกสกิลอ่อนไปมีเด่นที่ใช้บ่อยก็ Pinpoint Strikes แต่ถูกย้ายไปใส่ใน Assasin แล้ว Duelist จุดเด่นอยู่ที่การโจมตีที่แม่นยำ และสุดยอดแห่งการปัดป้อง เรียกง่ายๆหากคุณเล่นโจรสายประชิดมันก็มากพอจะแทงค์บอสบางตัวได้สบาย

      อยู่ที่จะจับคลาสไหนมาผสมกันไม่ตายตัวอัพไม่ดีก็ไปซื้อยารีสกิลรีสเตตัสในเกมเอา ลองๆเทสด้วยตัวเองหาสายที่ถูกใจ แต่ผมชอบแนวๆลอบฆ่าฉึกหลังคงเล่น Shadow+Assasin Cunนำ Dexตาม แล้วอัพ Will นิดนึง



      _____


      Mage (โดยคุณ toevtoev และคุณ evilbom)

      1.Elemental


      1. Winter's Grasp
      ยิงลูกหิมะใส่ศัตรู
      Effect : สร้างความเสียหายด้วยธาตุน้ำแข็ง 27 พลังทำลายด้วยธาตุ คูณ 2 ลดความเร็วในการโจมตีและความเร็วในการเคลื่อนที่ ของศัตรู ลง 50%
      Cost : 20 Mana
      Cooldown : 20 วินาที
      สกิลประเภท : Activated ability

      2. Winter's Blast
      ต้องการ : Level 6
      ต้องการ :สกิล Winter's Grasp
      ต้องการ :ต้องอัพสกิลในทักษะ Elemental 2 พ้อย
      Effect : มีโอกาศ 100% ในการแช่แข็ง ศัตรูที่ยังไม่ติดสถานะใดๆ
      สกิลประเภท : สกิลอัพเกรดของ Winter's Grasp

      3. Cone of Cold
      ต้องการ : Level 4
      ต้องการ :สกิล Winter's Grasp
      สาดกำแพงน้ำแข็งใส่ศัตรู
      Effect : สร้างความเสียหายด้วยธาตุน้ำแข็ง 18 พลังทำลายด้วยธาตุ คูณ 2 ลดความเร็วในการโจมตีและความเร็วในการเคลื่อนที่ ของศัตรู ลง 75%
      ระยะของสกิล : 12 เมตร
      สกิลมีผล : วินาที
      Cost : 30 Mana
      Cooldown : 30 วินาที
      สกิลประเภท : Activated ability

      4. Deep Freeze
      ต้องการ : Level 8
      ต้องการ :สกิล Cone of Cold
      ต้องการ :ต้องอัพสกิลในทักษะ Elemental 3 พ้อย
      Effect : มีโอกาศ 60% ที่จะแช่แข็ง ศัตรูที่ยังไม่ติดสถานะใดๆ และ มีโอกาศ 20% ที่จะทำให้ ศัตรูที่โดนแช่แข็ง ติดสถานะ BRITTLE
      สกิลประเภท : สกิลอัพเกรดของ Cone of Cold

      5. Fireball
      ยิงลูกไฟ ใส่ศัตรู
      Effect : สร้างความเสียหายด้วยธาตุไฟ 8 พลังทำลายด้วยธาตุ คูณ 2
      ระยะของสกิล : 5 เมตร
      Cost : 20 Mana
      Cooldown : 20 วินาที
      สกิลประเภท : Activated ability

      6. Searing Fireball
      ต้องการ : Level 6
      ต้องการ :สกิล Fireball
      ต้องการ : สกิล
      ต้องการ :ต้องอัพสกิลในทักษะ Elemental 2 พ้อย
      Effect : เพิ่มพลังทำลายด้วยธาตุ คูณ 2 และเพิ่ม ระยะของสกิลเป็น 10 เมตร
      สกิลประเภท : สกิลอัพเกรดของ Fireball

      7. Pyromancer
      ต้องการ :สกิล Fireball
      Effect : เพิ่มความเสียหายด้วยธาตุไฟ 25%
      สกิลประเภท :Passive ability (ติดตัว)

      8. Firestorm
      ต้องการ : Level 5
      ต้องการ :สกิล Fireball
      เรียกลูกไฟ ให้ตกลงในระยะของสกิล สุ่มที่ตก
      Effect : สร้างความเสียหายด้วยธาตุไฟ 8 ต่อ 1วินาที พลังทำลายด้วยธาตุ คูณ 2
      ระยะของสกิล : 10 เมตร
      สกิลมีผล : 10 วินาที
      Cost : 60 Mana
      Cooldown : 30 วินาที
      สกิลประเภท : Activated ability

      9. Apocalyptic Firestorm
      ต้องการ : Level 9
      ต้องการ :สกิล Firestorm
      ต้องการ :ต้องอัพสกิลในทักษะ Elemental 3 พ้อย
      Effect : เพิ่มความเสียหายด้วยธาตุไฟ 3 และเพิ่มระยะของสกิล Firestorm เป็น 15 เมตร
      สกิลประเภท : สกิลอัพเกรด ของ Firestorm

      10. Elemental Mastery
      ต้องการ : Level 10
      ต้องการ :สกิล Cone of Cold
      ต้องการ : สกิล Firestorm
      ต้องการ :ต้องอัพสกิลในทักษะ Elemental 7 พ้อย
      Effect : เพิ่มความเสียหายด้วยธาตุ ไฟ และ น้ำแข็ง อีก 25% เพิ่ม อัตราฟื้นฟู Mana/stamina 10 และมีโอกาศ 100% ที่จะทำให้ ศัตรูที่โดนแช่แข็ง ติดสถานะ BRITTLE
      สกิลประเภท :Passive ability (ติดตัว)


      2.Primal


      1. Stonefist
      หมัดเทพพระเจ้าดาวเหนือ O_o
      Effect : สร้างความเสียหายทางกายภาพ 24 พลังทำลายทางกายภาพ คูณ 4
      Cost : 20 Mana
      Cooldown : 15 วินาที
      สกิลประเภท : Activated ability

      2. Golem's Fist
      ต้องการ : Level 6
      ต้องการ :สกิล Stonefist
      ต้องการ :ต้องอัพสกิลในทักษะ Primal 2 พ้อย
      Effect : เพิ่มความเสียหายทางกายภาพ 12 เพิ่มพลังทำลายทางกายภาพ คูณ 2 สร้างความเสียหายทางกายภาพ 200% ต่อเป้าหมายที่ติดสถานะ DISORIENTED สร้างพลังทำลายทางกายภาพ 200% ต่อเป้าหมายที่ติดสถานะ DISORIENTED
      สกิลประเภท : สกิลอัพเกรดของ Stonefist

      3. Petrify
      ต้องการ : Level 4
      ต้องการ :สกิล Stonefist
      สาปศัตรูให้เป็นหิน
      Effect : มีโอกาศ 100% ที่จะสาปศัตรูให้เป็นหิน แต่จะเพิ่ม ความต้านทานความเสียหาย 50% ให้แก่ศัตรู
      สกิลมีผล : 15 วินาที
      Cost : 30 Mana
      Cooldown : 45 วินาที
      สกิลประเภท : Activated ability

      4. Desiccate
      ต้องการ : Level 8
      ต้องการ :สกิล Petrify
      ต้องการ :ต้องอัพสกิลในทักษะ Primal 3 พ้อย
      Effect : ความต้านทานความเสียหายของศัตรู ลดลง 30% มีโอกาศ 100% ที่จะทำให้ศัตรูที่ยังไม่ติดสถานะใดๆ ติดสถานะ BRITTLE
      สกิลประเภท : สกิลอัพเกรดของ Petrify

      5. Rock Armor
      สร้างเกราะของหินผา มาป้องกันตัวเอง
      Effect : เพิ่มพลังเกราะป้องกัน 25%
      Cost : 10% ของ Mana ทั้งหมด
      Cooldown : 5 วินาที
      สกิลประเภท :Sustained mode

      6. Chain Lightning
      ยิงสายฟ้าใส่ศัตรู
      Effect : สายฟ้าสามารถช๊อต ศัตรู 2ตัว สร้างความเสียหายด้วยธาตุ ไฟฟ้า 19 พลังทำลายด้วยธาตุ คูณ 2
      ระยะของสกิล : 2 เมตร
      Cost : 30 Mana
      Cooldown : 20 วินาที
      สกิลประเภท : Activated ability

      7. Chain Reaction
      ต้องการ : Level 6
      ต้องการ :สกิล Chain Lightning
      ต้องการ :ต้องอัพสกิลในทักษะ Primal 2 พ้อย
      Effect : ช๊อตศัตรูเพิ่มอีก2ตัว สร้างความเสียหายด้วยธาตุไฟฟ้า 600% ต่อเป้าหมายที่ติดสถานะ STAGGERED สร้างพลังทำลายด้วยธาตุ 200% ต่อเป้าหมายที่ติดสถานะ STAGGERED เพิ่มระยะของสกิลอีก 2 เมตร
      สกิลประเภท : สกิลอัพเกรดของ Chain Lightning

      8. Tempest
      ต้องการ : Level 5
      ต้องการ :สกิล Chain Lightning
      สร้างสนามพลังไฟฟ้าขึ้น
      Effect : สร้างความเสียหายด้วยธาตุ ไฟฟ้า 4 ต่อ 4 วินาที พลังทำลายด้วยธาตุ คูณ 2
      ระยะของสกิล : 15 เมตร
      สกิลมีผล : 20 วินาที
      Cost : 50 Mana
      Cooldown : 30 วินาที
      สกิลประเภท : Activated ability

      9. Strikes Twice
      ต้องการ : Level 9
      ต้องการ :สกิล Tempest
      ต้องการ :ต้องอัพสกิลในทักษะ Primal 3 พ้อย
      Effect : ลดระยะ***งของ สายฟ้า ลง 2 วินาที (สร้างดาเมจ 4 ต่อ 2วินาที)
      สกิลประเภท : สกิลอัพเกรดของ Tempest

      10. Galvanism
      ต้องการ : Level 7
      ต้องการ :สกิล Petrify
      ต้องการ : สกิล Tempest
      ต้องการ :ต้องอัพสกิลในทักษะ Primal 7 พ้อย
      Effect : เพิ่มความเสียหายทางกายภาพ 125% ให้แก่ สกิล Stonefist เพิ่มเกราะป้องกัน 125% ให้แก่สกิล Rock Armor เพิ่มระยะเวลาที่สกิลเกิดผล 125% ให้แก่สกิล Petrify เพิ่มความเสียหายด้วยธาตุไฟฟ้า 25% เพิ่มอัตราฟื้นฟู Mana/stamina 10
      สกิลประเภท : Passive ability



      3.Spirit


      1. Spirit Bolt
      ยิงลูกไฟวิญญาณใส่ศัตรู
      Effect : สร้างความเสียหายด้วยธาตุวิญญาณ 16 พลังทำลายด้วยธาตุ คูณ 2
      Cost : 20 Mana
      Cooldown : 10 วินาที
      สกิลประเภท : Activated ability

      2. Spirit Strike
      ต้องการ : Level 6
      ต้องการ :สกิล Spirit Bolt
      ต้องการ :ต้องอัพสกิลในทักษะ Spirit 2 พ้อย
      Effect : เพิ่มความเสียหายด้วยธาตุ วิญญาณ 8 สร้างความเสียหายด้วยธาตุวิญญาณ 200% ต่อเป้าหมายที่ติดสถานะ DISORIENTED สร้างพลังทำลายทางกายภาพ 200% ต่อเป้าหมายที่ติดสถานะ DISORIENTED และลด การใช้ mana ลง 5
      สกิลประเภท : สกิลอัพเกรดของ Spirit Bolt

      3. Walking Bomb
      ต้องการ : Level 4
      ต้องการ :สกิล Spirit Bolt
      Effect : สร้างความเสียหายด้วยธาตุวิญญาณ 100% ของ Hp ของเหยื่อ ต่อ เป้าหมายที่อยู่ใกล้ๆเหยื่อตอนระเบิด พลังทำลายด้วยธาตุ คูณ 1 ต่อเป้าหมายที่อยู่ใกล้เหยื่อตอนระเบิด
      สกิลมีผล : 10 วินาที
      Cost : 30 Mana
      Cooldown : 30 วินาที
      สกิลประเภท : Activated ability

      4. Corrosive Walking Bomb
      ต้องการ : Level 8
      ต้องการ :สกิล Walking Bomb
      ต้องการ :ต้องอัพสกิลในทักษะ Spirit 3 พ้อย
      Effect : สร้างความเสียหายด้วยธาตุ วิญญาณ 16 ต่อเหยื่อ สร้างความเสียหายด้วยธาตุวิญญาณ 200% ถ้าเหยื่อติดสถานะ DISORIENTED
      สกิลประเภท : สกิลอัพเกรดของ Walking Bomb

      5. Virulent Walking Bomb
      ต้องการ : Level 10
      ต้องการ :สกิล Walking Bomb
      ต้องการ :ต้องอัพสกิลในทักษะ Spirit 4 พ้อย
      Effect : สร้างความเสียหายด้วยธาตุ 200% ต่อเป้าหมายที่อยู่ใกล้ๆเหยื่อตอนระเบิด ถ้าเหยื่อ ติดสถานะ DISORIENTED สร้างพลังทำลายทางกายภาพ 200% ต่อเป้าหมายที่อยู่ใกล้ๆเหยื่อตอนระเบิด ถ้าเหยื่อ ติดสถานะ DISORIENTED
      สกิลประเภท : สกิลอัพเกรดของ Walking Bomb

      6. Dispel Magic
      Effect : มีโอกาศ 100% ที่จะล้างการติดสถานะต่างๆ รวมไปถึงสกิลประเภท sustained ด้วย
      ระยะของสกิล : 5 เมตร
      Cost : 20 Mana
      Cooldown : 15 วินาที
      สกิลประเภท : Activated ability

      7. Transmutation
      ต้องการ : Level 7
      ต้องการ :สกิล Dispel Magic
      ต้องการ :ต้องอัพสกิลในทักษะ Spirit 2 พ้อย
      Effect : สร้างความเสียหายด้วยธาตุ วิญญาณ 16 ต่อ ศัตรู ที่ใช้สกิลประเภท sustained ฟื้นฟู Hp 20 ให้แก่ เพื่อนในปาตี้ ที่ติดสถานะต่างๆ
      สกิลประเภท : สกิลอัพเกรดของ Dispel Magic

      8. Death Syphon
      ต้องการ : Level 5
      Effect : ฟื้นฟู mana 5% ต่อ 1 ศพ
      ระยะของสกิล : 10 เมตร
      Cost : 20% ของ Mana ทั้งหมด
      Cooldown : 5 วินาที
      สกิลประเภท :Sustained mode

      9. Death Vortex
      ต้องการ : Level 9
      ต้องการ :สกิล Death Syphon
      ต้องการ :ต้องอัพสกิลในทักษะ Spirit 3 พ้อย
      Effect : ฟื้นฟู Hp 5% ต่อ 1 ศพ เพิ่มการฟื้นฟู mana อีก 5% ต่อ 1 ศพ
      สกิลประเภท : สกิลอัพเกรดของ Death Syphon

      10. Spirit Mastery
      ต้องการ : Level 6
      ต้องการ :สกิล Walking Bomb
      ต้องการ : สกิล Death Syphon
      ต้องการ :ต้องอัพสกิลในทักษะ Spirit 7 พ้อย
      Effect : เพิ่มความเสียหายด้วยธาตุวิญญาณ 25% เพิ่มโอกาศติด คริติคอล 5% เพิ่มอัตราฟื้นฟู Mana/stamina 10
      สกิลประเภท :Passive ability


      Entropy สายคำสาป


      1.Hex of Torment
      enemy dmg resistance -25%
      ระยะเวลา 15 วิ
      Cost 20 mana CD 30วิ

      2.Death Hex [Hex of Torment Upgrade] ต้องการ Entropy 5 แต้ม
      Critical Chance 100% เมื่อโจมตีใส่เป้าหมายที่ถูก Hex of Torment

      3.Misdirection Hex ต้องการ Horror
      enemy atk -50%
      enemy critical chance 0%
      ระยะเวลา 10 วิ
      Cost 25 mana CD 30 วิ

      4.Shackling Hex [Misdirection Hex Upgrade] ต้องการ Entropy 3 แต้ม
      enemy atk speed -75%
      enemy move speed -75%

      5.Entropic Cloud [FF skills] ต้องการ Misdirection Hex และ Sleep และ Entropy 4 แต้ม
      enemy atk -25% ---- เป็น skill lock target แต่จะโดนพื้นที่รอบเป้าหมายด้วย
      enemy def -25%
      sleep chance 10% กับศัตรูระดับ normal หรือต่ำกว่า
      stun chance 25% กับ ศัตรูระดับ normal หรือต่ำกว่า
      ระยะเวลา 15 วิ
      Cost 35 mana CD 40 วิ

      6.Death Cloud [Entropic Cloud Upgrade] ต้องการ Entropy 6 แต้ม
      sprit dmg 7 ทุกๆ 4 วิ
      enemy atk speed -50%
      enemy move speed -50%
      enemt dmg resistance -25%
      อัมพาต 100% ถ้าเป้าหมายติด sleep

      7.Horror
      Stun chance 100% กับศัตรูทุกระดับ
      ระยะเวลา 10 วิ
      Cost 30 mana CD 25 วิ

      8.Despair [Horror Upgrade] ต้องการ Entropy 2 แต้ม
      Spirit dmg 135 ทุกๆ 1วิ เมื่อเป้าหมายติด Horror

      9.Sleep [FF skills] ต้องการ Horror และ Entropy 3 แต้ม
      Sleep chance 50% กับศัตรูระดับ Normal หรือต่ำกว่า
      ระยะเวลา 10 วิ
      ความกว้าง 6 เมตร
      Cost 40 mana CD 30 วิ

      10.Coma [Sleep Upgrade] ต้องการ Entropy 5 แต้ม
      อัมพาต 100% ถ้าเป้าหมายติด Sleep

      Creation สาย Support


      1.Glyph of Paralysis เป็นการวาดสัญลักษณ์บนพื้น เมื่อศัตรูเข้ามาเหยียบ จะอัมพาต
      จำนวนศัตรูที่อัมพาต 2
      อัมพาต 100% กับศัตรูระดับ Normal หรือต่ำกว่า
      ระยะเวลาอัมพาต 4 วิ
      ระยะเวลาสัญลักษณ์ 20 วิ หรือ หลังการศัตรูตัวแรกเข้ามาเหยียบ 1 วิ
      ความกว้าง 6 เมตร
      Cost 25 mana CD 30 วิ

      2.Gylph of Binding [Glyph of Paralysis Upgrade]
      จำนวนศัตรูที่อัมพาต +2
      ระยะเวลาอัมพาต 6 วิ
      ระยะเวลาสัญลักษณ์ หลังศัตรูตัวแรกที่เข้ามาเหยียบ +2 วิ

      3.Glyph of Repulsion สร้างสัญลักษณ์บนพื้นที่แล้วผลักศัตรูให้ถอยไป เมื่อเข้ามาโดนสัญลักษณ์
      Physical Focre 6x
      ระยะเวลาสักลัษณ์ 10 วิ
      ความกว้าง 6 เมตร
      Cost 30 mana CD 30 วิ

      4.Glyph of Defiance [Glyph of Repulsion Upgrade]
      Physical Focre +12x

      5.Heal
      รักษาเป้าหมาย 40% ของ Max hp
      Cost 30 mana CD 40 วิ

      6.Greater Heal [Heal Upgrade]
      เพิ่มการรักษาอีก 40% เป็น 80%

      7.Haste
      เพิ่มความเร็วในการโจมตี 50%
      ระยะเวลา 10 วิ
      Cost 30 mana CD 60 วิ

      8.Great Haste [Haste Upgrade]
      เพิ่มระยะเวลา 10 วิ

      9.Heroic Aura [Toggle Skill]
      Atk +15% Def+8%
      Upkeep 20% CD 5 วิ

      10.Valiant Aura [Heroic Aura Upgrade]
      เพิ่ม dmg +10% และ Critical chance +10%

      Arcane


      1.Elemental Weapons [Toggle Skill]
      เพิ่มคุณสมบัติให้กับอาวุธ ของเพื่อนร่วมทีม ตาม ธาตุของไม้เท้าที่ส่วมใส่
      Upkeep 10% CD 5 วิ

      2.Mind Blast [FF skill] ทำให้ศัตรูรอบตัวผู้ใช้กระเด็นออกไป
      Physical Focre 6x
      ลดอัตราการถูกเป็นเป้าหมายจากศัตรู ขึ้นอยู่กับระดับของศัตรู
      ความกว้าง 5 เมตร
      Cost 10 mana CD 10 วิ

      3.Stunning Blast [Mind Blast Upgrade]
      Physical Focre +12x
      Stun 100% กับศัตรูระดับ Normal หรือต่ำกว่า
      ปรับความกว้างเป็น 8 เมตร

      4.Barrier สร้างบาเรียคลุมตัวเอง ลดความเสียหายลง
      Dmg Resistance +50%
      ระยะเวลา 6 วิ
      Cost 30 mana CD 45 วิ

      5.Arcane Fortress [Barrier Upgrade]
      Dmg Resistance +50%

      6.Crushing Prison
      Physical dmg 151
      Enemy Atk speed -50% [โอกาสติด 40% กับศัตรูระดับ normal หรือต่ำกว่า]
      Enemy Move Speed -50% [โอกาสติด 40% กับศัตรูระดับ normal หรือต่ำกว่า]
      ระยะเวลา 10 วิ
      Cost 30 mana CD 30 วิ

      7.Paralyzing Prison [Crushing Prison Upgrade]
      Physical Dmg +50
      Physical Dmg +200% ถ้าเป้าหมายติดสถานะ STAGGERED
      อัมพาต 40% กับเป้าหมายระดับ Normal หรือต่ำกว่า
      อัมพาต 100% ถ้าเป้าหมายติดสถานะ STAGGERED

      8.Arcane Shield [Toggle Skill]
      Def +20% กับศัตรูระดับ Normall
      Upkeep 20% CD 5 วิ

      9.Arcane Wall [Arcane Shield Upgrade]
      ทำให้เพื่อนร่วมทีมได้รับผลของ Arcane Shield
      โดยค่า Def +5% Elemental Shield +5% [ถ้าอัพ]

      10. Elemental Shield [Arcane Shield Upgrade]
      การต้านทาน ไฟ น้ำแข็ง ไฟฟ้า พิษ วิญญาณ +20%

      ok เสร็จสักที คำเตือน ค่า dmg ของสกิล จะผันแปรตาม Base dmg ของ Mage และ ของส่วมใส่ ที่เพิ่ม dmg ธาตุนั้นๆ

      Mage Specialization
      [IMG][/IMG]


      FORCE MAGE
      พลังทำลายทางกายภาพ 125% พลังทำลายทางธาตุ 125% ให้แก่ โจมตีธรรมดา และ เวทย์มนต์

      1. Fist of the Maker
      ต้องการ : Level 7
      ต้องการ : Specialization Force Mage
      Effect : สร้างความเสียหายทางกายภาพ 20 ทำให้เกราะของศัตรู เหลือ 0% ชั่วขณะ และมีโอกาศ 20% ที่จะทำให้ศัตรูปรกติติด Stun
      ระยะของสกิล : 6 เมตร :
      Cost : 40 mana
      Cooldown : 15 วินาที
      สกิลประเภท : Activated

      2. Maker's Hammer
      ต้องการ : Level 13
      ต้องการ : สกิล Fist of the Maker
      ต้องการ :ต้องอัพสกิลในทักษะ Force Mage 4 พ้อย
      Effect : เพิ่มระยะของสกิล Fist of the Maker เป็น 10 เมตร และสร้างความเสียหายทางกายภาพ 900% ต่อเป้าหมายที่ติดสถานะ STAGGERED
      สกิลประเภท :สกิลอัพเกรดของ Fist of the Maker

      3. Maker's Fury
      ต้องการ : Level 11
      ต้องการ :สกิล Fist of the Maker
      ต้องการ :ต้องอัพสกิลในทักษะ Force Mage 3 พ้อย
      Effect : ลด cooldown ของสกิล Fist of the Maker 5 วินาที
      สกิลประเภท :สกิลอัพเกรดของ Fist of the Maker


      4. Unshakable
      ต้องการ : Level 8
      ต้องการ :สกิล Fist of the Maker
      Effect : เพิ่มค่า Fortitude 100
      สกิลประเภท :Passive ability(ติดตัว)


      5. Telekinetic Burst
      ต้องการ : Level 8
      ต้องการ :สกิล Specialization Force Mage
      Effect : สร้างคลื่นโจมตีศัตรู สร้างความเสียหายทางกายภาพ คูณ 20
      ระยะของสกิล : 6 เมตร
      Cost : 30 Mana
      Cooldown : 20 วินาที
      สกิลประเภท :Activated ability


      6. Telekinetic Blast
      ต้องการ : Level 12
      ต้องการ :สกิล Telekinetic Burst
      ต้องการ : สกิล
      ต้องการ :ต้องอัพสกิลในทักษะ Force Mage 2 พ้อย
      Effect : เพิ่มความเสียหายทางกายภาพ คูณ 10 ให้กับสกิลTelekinetic Burst
      สกิลประเภท :สกิลอัพเกรดของ Telekinetic Burst


      7. Pull of the Abyss
      ต้องการ : Level 9
      ต้องการ :สกิล Telekinetic Burst
      ต้องการ :ต้องอัพสกิลในทักษะ Force Mage 2 พ้อย
      Effect : พลังทำลายทางกายภาพ คูณ 30 ทำให้ความเร็วในการโจมตีและ ความเร็วในการเคลื่อนที่ของศัตรู ลดลง 50%
      ระยะของสกิล : 10 เมตร
      สกิลมีผล : 5 วินาที
      Cost : 30 Mana
      Cooldown : 25 วินาที
      สกิลประเภท :Activated ability


      8. Edge of the Abyss
      ต้องการ : Level 13
      ต้องการ :สกิล Pull of the Abyss
      ต้องการ :ต้องอัพสกิลในทักษะ Force Mage 4 พ้อย
      Effect : เพิ่มระยะของสกิล Pull of the Abyss เป็น 15 เมตร
      สกิลประเภท :สกิลอัพเกรดของ Pull of the Abyss


      9. Gravitic Ring
      ต้องการ : Level 10
      ต้องการ :สกิลTelekinetic Burst
      ต้องการ : สกิลFist of the Maker
      ต้องการ :ต้องอัพสกิลในทักษะ Force Mage 2 พ้อย
      Effect : ลดความเร็วในการโจมตีและความเร็วในการเคลื่อน :: ขึ้นอยู่กับระยะ***งจากจุดศูนย์กลาง
      ระยะของสกิล : 12 เมตร
      สกิลมีผล : 20 วินาที
      Cost : 30 Mana
      Cooldown : 40 วินาที
      สกิลประเภท :Activated ability


      10. Gravitic Sphere
      ต้องการ : Level 14
      ต้องการ :สกิลGravitic Ring
      ต้องการ :ต้องอัพสกิลในทักษะ Force Mage 4 พ้อย
      Effect : เพิ่มระยะของสกิล Gravitic Ring เป็น 18 เมตร
      สกิลประเภท :สกิลอัพเกรดของ Gravitic Ring

      [IMG][/IMG]

      SPIRIT HEALER
      ความสามารถพิเศษเมื่อเรียนรู้ทักษะ : เพิ่ม Mana/stamina 25

      1. Healing Aura
      ต้องการ : Level 7
      ต้องการ : Specialization Spirit Healer
      Effect : สร้าง Aura เพื่อเพิ่ม อัตราฟื้นฟู Hp 50 ให้ทุกคนในปาตี้
      ระยะของสกิล : 6 เมตร
      Cost : 30% ของ Mana ทั้งหมด
      Cooldown : 10 วินาที
      สกิลประเภท :Sustained

      2. Radiance
      ต้องการ : Level 11
      ต้องการ :สกิล Healing Aura
      ต้องการ :ต้องอัพสกิลในทักษะ Spirit Healer 4 พ้อย
      Effect : เพิ่มระยะของสกิล Healing Aura เป็น 8เมตร
      สกิลประเภท : สกิลอัพเกรดของ Healing Aura

      3. Faith
      ต้องการ : Level 13
      ต้องการ :สกิลHealing Aura
      ต้องการ :ต้องอัพสกิลในทักษะ Spirit Healer 6 พ้อย
      Effect : เพิ่มอัตราฟื้นฟู Hp ของสกิล Healing Aura ขึ้นอีก 50
      สกิลประเภท :สกิลอัพเกรดของ Healing Aura

      4. Group Heal
      ต้องการ : Level 8
      ต้องการ :สกิล Healing Aura
      Effect : ฟื้นฟู Hp 30% ให้ทุกคนในปาตี้
      Cost : 30 Mana
      Cooldown : 40 วินาที
      สกิลประเภท :Activated ability

      5. Unity
      ต้องการ : Level 12
      ต้องการ :สกิล Group Heal
      Effect : เพิ่มผล ฟื้นฟู Hp ของสกิล Group Heal ขึ้น 20%
      สกิลประเภท : สกิลอัพเกรดของ Group Heal

      6. Vitality
      ต้องการ : Level 13
      ต้องการ :สกิล Group Heal
      ต้องการ :ต้องอัพสกิลในทักษะ Spirit Healer 5 พ้อย
      Effect : เพิ่มค่า Constitution 10 และอัตราฟื้นฟู Hp 100
      สกิลประเภท :Passive ability(ติดตัว)

      7. Revival
      ต้องการ : Level 10
      ต้องการ :สกิลHealing Aura
      ต้องการ : จำเป็นต้องเปิดใช้งานสกิล Healing Aura
      Effect : ชุบชีวิตคนในปาตี้ เมื่อชุบชีวิตเพื่อนจะได้รับ Hp 30% Mana/stamina 40%
      Cost : 40 Mana
      Cooldown : 120 วินาที
      สกิลประเภท :Activated ability

      8. Renewal
      ต้องการ : Level 14
      ต้องการ :สกิล Revival
      Effect : เพิ่มผลของสกิล Revival เมื่อชุบชีวิตเพื่อนจะได้รับ Hp 20% Mana/stamina 20% เพิ่มขึ้น
      สกิลประเภท :สกิลอัพเกรดของ Revival

      9. Refusal
      ต้องการ : Level 16
      ต้องการ :สกิล Revival
      ต้องการ :ต้องอัพสกิลในทักษะ Spirit Healer 4 พ้อย
      Effect : ลด cooldown ของสกิล Revival ลง 20 วินาที
      สกิลประเภท : สกิลอัพเกรดของ Revival

      10. Second Chance
      ต้องการ : Level 12
      ต้องการ :สกิลRevival
      ต้องการ : สกิล
      ต้องการ :ต้องอัพสกิลในทักษะ Spirit Healer 3 พ้อย
      Effect : เมื่อชุบชีวิต เพื่อนในปาตี้ คนที่ถูกชุบชีวิต จะไม่ติดอาการบาดเจ็บจากบาดแผล (injuries)
      สกิลประเภท : Passive ability (ติดตัว)


      [IMG][/IMG]

      BLOOD MAGE
      ความสามารถพิเศษเมื่อเรียนรู้ทักษะ :เพิ่ม Hp 25

      1. Blood Magic
      ต้องการ : Level 7
      ต้องการ : สกิล Specialization Blood Mage
      Effect : เมื่อเปิดใช้สกิลนี้ จะใช้ Hp แทน mana ด้วยอัตรส่วน 1Hp ต่อ2mana และไม่สามารถ ฟื้นฟู Hp ของผู้ใช้ได้ (ทั้งเวทย์ฮิว/ยาโพชั่น)
      Cost : 50% ของ Mana ทั้งหมด
      Cooldown : 20 วินาที
      สกิลประเภท :Sustained mode

      2. Bloodlust
      ต้องการ : Level 11
      ต้องการ :สกิล Blood Magic
      ต้องการ :ต้องอัพสกิลในทักษะ Blood Mage 5 พ้อย
      Effect : เพิ่มผลของสกิล Blood Magic เป็น อัตราส่วน 1Hp ต่อ เพิ่ม mana ขึ้นอีก 1 (1 ต่อ 3)
      สกิลประเภท :สกิลอัพเกรดของ Blood Magic

      3. Grave Robber
      ต้องการ : Level 8
      ต้องการ :สกิล Blood Magic
      Effect : ฟื้นฟู Hp 10% ต่อ 1ศพศัตรู ที่อยู่ใกล้ๆตัว
      ระยะของสกิล : 6 เมตร
      Cooldown : 45 วินาที
      สกิลประเภท :Activated ability

      4. One Foot In
      ต้องการ : Level 12
      ต้องการ :สกิล Grave Robber
      ต้องการ :ต้องอัพสกิลในทักษะ Blood Mage 3 พ้อย
      Effect : สร้างความเสียหายด้วยธาตุวิญญาณ 10% ของค่า Hp ทั้งหมด และส่งผลให้ เกราะ และ ความต้านทานความเสียหาย ของศัตรู ลดเหลือ 0 ชั่วขณะ ฟื้นฟู Hp 10% ต่อ 1 ศัตรูใกล้ๆตัว
      สกิลประเภท :สกิลอัพเกรดของ Grave Robber

      5. Sacrifice
      ต้องการ : Level 9
      ต้องการ :สกิล Blood Magic
      ต้องการ : ต้องเปิดใช้งานสกิลBlood Magic
      Effect : ลด Hp ของเพื่อน 20% ฟื้นฟู Hp 100% จากจำนวน Hp ที่เพื่อนเสีย (สมมุติเพื่อน Hp 100 ลบ 20% = 20HP เพิ่ม100% ของ 20HP = 40HP)
      Cooldown : 20 วินาที
      สกิลประเภท :Activated ability

      6. Grim Sacrifice
      ต้องการ : Level 13
      ต้องการ :สกิล Sacrifice
      Effect : เพิ่มผลของสกิล Sacrifice ด้วย เพิ่ม การฟื้นฟู Hp จากจำนวน Hp ที่เพื่อนเสีย ขึ้นอีก 50% แต่ถ้าเพื่อนตาย จะฟื้นฟูเป็น 200%
      สกิลประเภท : สกิลอัพเกรดของ Sacrifice

      7. Hemorrhage
      ต้องการ : Level 13
      ต้องการ :สกิล Blood Magic
      ต้องการ : จำเป็นต้องเปิดใช้งานสกิล Blood Magic
      ต้องการ :ต้องอัพสกิลในทักษะ Blood Mage 3 พ้อย
      Effect : สร้างความเสียหายทางกายภาพ 49 และทำให้ เกราะ และความต้านทานความเสียหาย ของศัตรู ลดเหลือ 0 ชั่วขณะ
      ระยะของสกิล : 10 เมตร
      สกิลมีผล : วินาที
      Cost : 60 Mana
      Cooldown : 30 วินาที
      สกิลประเภท :Activated ability

      8. Paralyzing Hemorrhage
      ต้องการ : Level 15
      ต้องการ :สกิล Hemorrhage
      ต้องการ :ต้องอัพสกิลในทักษะ Blood Mage 4 พ้อย
      Effect : เพิ่มผลสกิลของ Hemorrhage ด้วย เพิ่มความเสียหายทางกายภาพ 25 สร้างความเสียหายทางกายภาพ 900% ต่อศัตรูที่ติดสถานะ STAGGERED มีโอกาศ 50 % ที่จะทำให้ ศัตรูปรกติ ติดอาการ อัมพาต
      สกิลประเภท :สกิลอัพเกรดของ Hemorrhage

      9. Blood Slave
      ต้องการ : Level 12
      ต้องการ :สกิล Sacrifice
      ต้องการ : สกิล Hemorrhage
      ต้องการ : จำเป็นต้องเปิดใช้งานสกิล Blood Magic
      ต้องการ :ต้องอัพสกิลในทักษะ Blood Mage 3 พ้อย
      Effect : มีโอกาศ 100% ที่จะทำให้ ศัตรูปรกติ มาเป็นทาสเรา ช่วยต่อสู้ (บังคับขืนใจ)
      สกิลมีผล : 10 วินาที
      Cost : 40 Mana
      Cooldown : 30 วินาที
      สกิลประเภท : Activated ability

      10. Blood Spatter
      ต้องการ : Level 16
      ต้องการ :สกิล Blood Slave
      Effect : เมื่อศัตรูที่ถูกบังคับให้เป็นทาสตาย มันจะพ่นเลือดใส่ ศัตรูที่อยู่รอบๆ
      สกิลประเภท : สกิลอัพเกรดของ Blood Slave
      ______
      Last edited by pongkrit03; 17 Mar 2011, 09:58:47.

      Comment


      • #4
        Special Skill from Companions
        (โดยคุณ Evilbom ครับ)

        Anders Skill มีทั้งสาย Dmg และ Healer ครับ


        1.Eye to Eye [Anders เป็นเพื่อนกับเรา]
        Dmg กายภาพ ไฟ น้ำแข็ง ไฟฟ้า พิษ วิญญาณ +10%

        2.No Compromises [Anders ไม่ถูกกับเรา]
        Anders Hp regen+50

        3.Panacea [Toggle Skill]
        Hp regen +50 ระยะ 6 เมตร
        upkeep 40%
        cd 10วิ

        4.Regroup [ชุบชีวิตเพื่อนร่วมทีมที่ตายทั้งหมด] ปล.ไม่ทราบว่าบัคหรือเปล่า เพราะตอนสู้กับ High dragon นั้น
        Hp regen+30% เมื่อใช้แล้ว Hp-sta/mana จะ regen ตลอด ระยะนึ่ง เหมือนเป็นอมตะ
        Sta/Mana regen+40%
        Cost 45 mana cd 120วิ

        5.Aid Allies [ฮีลกลุ่ม]
        Hp regen+30%
        Cost 35 mana cd 50 วิ

        6.Vengeance [Toggle skill] --ไม่สามารถใช้ร่วมกับ Panacea ได้
        เอฟเฟค ไม่สามารถ รักษาตนเองได้
        Dmg +10% Dmg Resistance -50%
        Upkeep 20% cd 20วิ

        7.Wrath [Vangeance Upgrade]
        Dmg+10%

        8.Martyr สกิลเปลี่ยน Hp > Mp และต้องเปิดใช้ Vangeance
        เอฟเฟค ส่งผล ระยะเวลาสกิล ที่อยู่ใน cd ให้ไวขึ้น
        Hp-5% > Mp+5%

        9.Swift Justice [Passive Skill]
        ลด cd สกิลทั้งหมดเหลือ 80% คือจากสกิล ดีเลย์10วิ เหลือ 8วิ

        10.Blood of My Enemy [Passive Skill และต้องเปิดใช้งาน Vangeance]
        เมื่อ Anders ฆ่าศัตรูได้จะฟื้น Hp ต่ำสุด10% ของศัตรูที่ตาย โดยขึ้นอยู่กับระดับของ ศัตรู

        Merrill Skill มีทั้งสาย Dmg และ Healer ครับ
        เธอเป็นการผสมระหว่าง Blood Mage + Keeper ครับ

        1.Solidarity [Merrill เป็นมิตรกับเรา]
        ปรับให้อัตราสกิล Blood of the First เป็น 1:1

        2.Outcast [Merrill ไม่ถูกกับเรา]
        Dmg Resistance +10%

        3.Blood of the First [Toggle Skill] สกิล นี่ผมไม่มั่นใจเพราะไม่เคยเล่น Blood Mage เลย
        เอฟเฟค ใช้ Hp แทน Mana ในการร่ายเวทย์ และ ไม่สามารถ รักษาตนเองได้ ทั้งจาก Heal และ Potion
        Cost Hp1 ต่อ 2 Mana
        Upkeep 50% CD 20วิ
        Originally posted by methkrubpom View Post
        จากที่อ่านเป็นENGนะครับ
        Solidarity+Blood of the First จะทำให้ 1 hp = 3 mp
        (Blood of the First ทำให้ 1hp=2mp)+(Solidarity ทำให้ 1hp เพิ่ม mpอีก 1)
        4.Wound of The Past [ต้องเปิดใช้งาน Blood of the First ก่อน]
        ความเสียหาย กายภาพ 215
        Armor ของศัตรู เหลือ 0 และ dmg resistance เหลือ 0 ระยะนึ่ง
        ระยะ 10 เมตร Cost 60 mana CD 30วิ

        5.Deep Wound [Wound of The Past Upgrade]
        เพิ่มความเสียหาย +108
        มีโอกาส 50% กับศัตรูระดับ Normal หรือต่ำกว่า ติดอาการอัมพาต

        6.Wrath of The Elvhen [Toggle Skill] เป็นสกิลที่ เรียกรากไม้ขึ้นมารอบตัว Merrill และสร้างความเสียหายกับศัตรูที่เข้ามาใน อาณาเขต
        พิษ Dmg 43 ต่อ 4วิ [Nature ผมขอเรียกเป็น พิษ แล้วกันนะ จะแปลว่า ไม้ หรือ ธรรมชาติ มันก็แปลกๆ - -"]
        ระยะ 6 เมตร
        Upkeep 20% CD 5 วิ

        7.Arlathan's grace [Wrath of The Elvhen Upgrade]
        Merrill ได้รับ Hp regen 1% ทุกๆ 4วิ ของ Dmg skill เมื่อศัตรูเข้ามาในอาณาเขต

        8.Loss of The dales [Wrath of The Elvhen Upgrade]
        พิษ Dmg +22
        ระยะ สกิลเพิ่มเป็น 8 เมตร

        9.Ensnare [ต้องเปิดใช้งาน Wrath of The Elvhen ก่อน] Merrill จะทำการ ล็อคศัตรูให้อยู่กับที่
        พิษ dmg 86
        Elemental Force 2x << ไอ้ค่านี้คือ สงสัยสุดๆ - -"
        Cost 30 Mana CD 20 วิ

        10.Stone' Throw [ต้องเปิดการใช้งาน Wrath of The Elvhen ก่อน] Merrill จะทำการ วาป ตัวเองหาเพื่อนร่วมทีม คล้ายๆ Back to Back ของ Rogue ครับ แต่เปลี่ยน เอฟเฟค สกิล
        Cost 15 Mana CD 30 วิ


        Fenris Skill มีทั้งสาย Dmg และ Healer ครับ


        1.Kindred Spirits [Fenris เป็นมิตรกับเรา]
        Magic Resistance +10%

        2.Enemy of My Enemy [Fenris ไม่ถูกกับเรา]
        Critical Dmg +10%

        3.Veneer of Clam [Passive Skill]
        เพิ่มค่า Dmg ถึง 200% ขึ้นอยู่กับ HP ที่เสียไป

        4.Battle Tempo [Passive Skill]
        เมื่อ Fenris สังหารศัตรูได้ เขาจะได้รับ Atk Speed 30% 10วิ

        5.Inner Reserves [Passive Skill]
        เมื่อ Fenris สังหารศัตรูได้ เขาจะฟื้น Stamina ต่ำสุด 5% ขึ้นอยู่กับระดับของศัตรู

        6.Lyrium Ghost [Toggle Skill] Fenris จะ ปลดปล่อยพลัง Lyrium ออกมา ผลข้างเคียงจากการโดนกรอกยา - -"
        DEF +20%
        Cri Chance +20%
        Upkeep 25% Stamina CD 10 วิ

        7.Lyrium Specter [Lyrium Ghost Upgrade]
        Dmg Resistance +10% Magic Resistance +10%

        8.Spirit Pulse [ต้องเปิดใช้งาน Lyrium Ghost ก่อน]
        Spirit Dmg 104
        Elemental Force 4x
        ระยะ 8 เมตร รอบตัว
        Cost 30 Stamina CD 20วิ

        9.Spirit Flux [Spirit Pulse Upgrade]
        Stun 100% กับศัตรูระดับ Normal หรือต่ำกว่า

        10.Deflect [Passive Skill]
        Magic Resistance +25%

        Varric


        1.Authorized Biographer [Varric เป็นมิตรกับเรา]
        Atk speed +5% Dodge Chance +5%

        2.Unauthorized Biographer [Varric ไม่ถูกกับเรา]
        มีโอกาส 5% เมื่อ Varric ได้รับความเสียหาย จะล่องหน 5วิ

        3.Rhyming Triplet เป็นการยิง ธนูติดต่อกัน 3 นัดไปยังเป้าหมาย
        Physical Dmg 78 per นัด
        Physical Focre 1x per นัด
        Cost 20 Stamina CD 20วิ

        4.Nameless Graces [Rhyming Triplet Upgrade]
        เพิ่มจำนวนลูกธนูอีก 2นัด

        5.Kickback สกิลนี้ผมไม่เคยใช้ ถ้าเดาจากชื่อ อาจเป็นสกิล ที่ทำให้ศัตรูกระเด็นถอยออกไป จากระยะประชิด
        Physical Dmg 78
        Physical Focre 20x
        Cost 20 Stamina CD15 วิ

        6.Backlash [Kickback Upgrade]
        Physical Dmg +78
        Physical Focre 800% ถ้าเป้าหมายติด สถานะ STAGGERED
        CD -5 วิ

        7.Well-Oiled [Passive]
        Atk Speed +20%

        8.Biarca's Song [Toggle Skill]
        Atk +20%
        Critical Chance +20%
        Upkeep 15% CD 5วิ

        9.Embellshment [Biarca's Song Upgrade ]
        Atk Speed+20%
        Move Speed+20%
        Critical Dmg+30%

        10.Overtime [Passive]
        Stamina Regen rate +10

        Isabela


        1.Thumbs Up [Isabela เป็นมิตรกับเรา]
        Isabela Atk Speed +5%
        Hawke Atk Speed +5%

        2.Stick In the Mud [Isabela ไม่ถูกกับเรา]
        Dodge Chance +10%

        3.Across The Bow เป็นสกิลที่ ทำให้ศัตรูมาโจมตีเรา
        Cost 25 Stamina CD 25วิ

        4.Below The Waterline [Across The Bow Upgrade]
        ศัตรู Def -50%
        ระยะเวลา 20 วิ

        5.Experienced Hand [Passive Skill]
        Atk+20%
        Critical Dmg+20%

        6.All Hand On Deck เป็นสกิลโจมตีหมู่ วาปฟันอย่างรวดเร็ว กับศัตรูให้บริเวณสกิล
        Physical Dmg 168
        Critical Chance 100%
        วงกว้าง 8 เมตร
        Cost 40 Stamina CD 30วิ

        7.Shore Leave [All Hand On Deck Upgrade]
        Stun 100% กับศัตรูระดับ Normal หรือต่ำกว่า

        8.Savvy [Toggle Skill] เป็นสกิลที่ เมื่อศัตรูเข้ามาในอาณาเขต Dmg เราจะ ลด10% แต่ได้ Def +10% อาทิ Def เรา 30%กับศัตรูระดับ Normal เมื่อมีศัตรูเข้ามา 2ตัว Def เราจะเพิ่มเป็น 50%
        Dmg -10% ต่อศัตรู 1ตัว
        Def +10% ต่อศัตรู 1 ตัว
        ระยะ 10 เมตรรอบตัว
        Upkeep 30% Stamina CD 5วิ

        9.Buccaneer's Savvy [Savvy Upgrade]
        ลด ผล Dmg จากสกิล Savvy ลดครึ่งนึ่ง คือ จาก 10% ลดเหลือ 5%

        10.Sea Legs [Passive Skill]
        Def +25%
        Critical Chance +20%

        Aveline


        1.Serve And Protect [Aveline เป็นมิตรกับเรา]
        ความเสียหาย ที่ Hawke ได้รับ 10% จะมาลงที่ Aveline
        Dmg Resistance +5%

        2.Watchful Eye [Aveline ไม่ถูกกับเรา]
        Dmg Resistance +10%

        3.Retaliation เป็นสกิลที่ Counteratk Melee ฝ่ายตรงข้ามที่โจมตีมาที่เรา
        Physical Dmg 22 per Counteratk
        ระยะเวลา 10วิ
        Cost 30 Stamina CD 30 วิ

        4.Retribution [Retaliation Upgrade]
        Physical Dmg +22
        ระยะเวลา +5 วิ

        5.Body Guard [Toggle Skill]
        โอนถ่ายความเสียหายที่ เพื่อนร่วมทีมได้รับ 25% มาลงสู่ Aveline
        Upkeep 15% CD 5วิ

        6.Elite Bodyguard [Bodyguard Upgrade]
        เพิ่มการโอนความเสียหายอีก 25%

        7.Immovable [Toggle Skill] Aveline จะเคลื่อนที่ และโจมตีช้าลง แต่ความต้านทานเพิ่มขึ้น เรื่อยๆ เมื่อถูกโจมตีต่อเนื่อง
        Dmg Resistance +2% per Hit
        Atk Speed -5% per Hit
        Move Speed -5% per Hit
        ระยะเวลา 5 วิ เมื่อถูกโจมตี
        Upkeep 20% Stamina CD 10 วิ

        8.Unstoppable [Immovable Upgrade]
        ปรับ Atk Speed และ Move Speed ที่จะลดลง เหลือ 3% per Hit

        9.Indomitable [Passive Skill]
        ป้องกัน อาการล้มลง Knockdown Resistance 100%
        ป้องกัน อาการ มึนงง Stun Resistance 100%

        10.Thick Skin [Passive Skill]
        Dmg Resistance +15%

        Sabastian


        1.Man of The Cloth [Sebastian เป็นมิตรกับเรา]
        Dmg Resistance +5% ทั้ง Sebastian และ Hawke

        2.Man of The Crown [Sebastian ไม่ถูกกับเรา]
        Sebastian HP regen +50

        3.Guardian Angel สร้างตัวล่อขึ้นมา และ Sebastian จะทำการล่องหนตัวเอง
        Decoy Hp 50% ของ Max Hp Sebastian
        โอกาสในการ ล่องหน 100%
        ระยะเวลา 10 วิ
        Cost 30 Stamina CD 30 วิ

        4.Disciple's Discipline [Passive Skill]
        Dmg Resistance +10%

        5.Holy Precision [Passive Skill]
        Critical Dmg +25%

        6.Maferath's Advance [Passive Skill]
        Critical Chance +100% ถ้าโจมตีจากข้างหลัง [ในคำอธิบายสกิลบอก ข้างหลัง Behind และพอมาดูตรงแสดงผลบอก Flanking จากด้านข้างหว่า งง -_-"]

        7.Righteous Chain [Passive Skill] เมื่อ Sebastian โจมตีปกติ เป้าหมายจะติด Stack
        Critical Chance +2% per Stack เต็มที่ 10 Stack หรือ 20% นั่นเอง

        8.Wounding Arrow
        Physical Dmg 109
        Physical Focre 2x
        Enemy Dmg Resistance -15%
        ระยะเวลา 10 วิ
        Cost 20 Stamina CD 20 วิ

        9.Debilitating Arrow [Wounding Arrow Upgarde]
        Enemy Dmg Resistance -3% ต่อจำนวน Stack ของ Righteous Chain และยกเลิกผล Righteous Chain บนตัวเป้าหมาย

        10.Arrow of Judgment
        Physical Dmg 54
        Physical Dmg +50% ต่อจำนวน Stack ของ Righteous Chain และยกเลิก Righteous Chain บนตัวเป้าหมาย
        Physical Focre 2x
        Cost 15 Stamina CD 25 วิ


        ---------------------


        สถานะใหม่ในภาค 2 และการทำ COMBO ข้ามสาย โดยคุณ editon


        ]ความสำคัญของทั้งสามสถานะใหม่ ซึ่งเพิ่มเข้ามาในภาค2 นี้คือ STAGGER DISORIENT BRITTLEทั้ง3 รูปแบบนี้จะต้องใช้อาชีพที่ต่างกันไปเพื่อทำให้เกิดเพื่อคอมโบและใช้ประโยชน์จากมัน มีอะไรบ้างไปดูกัน[/U]
        [/B]
        STAGGER สถานะนี้จะติดก็ต่อเมื่อคุณใช้สกิลสายนักรบโจมตีเท่านั้น
        STAGGER = เมื่อเกิดกับเป้าหมายแล้วจะ ลดโจมตี 25%, ลดป้องกัน 25%

        Single Target : สกิลเป้าหมายเดี่ยว

        Sword and Shield
        1. Shield Bash (อัพเกรด Pummel):
        ต้องการ : เลเวล 6
        ประเภทกดใช้ (Activated Ability)
        โอกาส 100% vs ศัตรูปรกติ

        Two-Handed:
        2. Sunder:
        ต้องการ : เลเวล 4
        สกิลติดตัว(Passive)
        50% vs. ศัตรูปรกติที่โดนผู้เล่นตีติดคริติคอล
        *ปล. ศัตรูปรกติคือไม่ติดสถานะอื่นแทรกซ้อนอย่าง DISORIENT หรือ BRITTLE มาก่อน

        Vanguard:
        3. Cleave (อัพเกรด Claymore):
        ต้องการ : เลเวล 10
        ประเภทกดใช้ (Activated Ability)
        40% vs. ศัตรูปรกติ

        Warmonger
        4. Pommel Strike (อัพเกรด Pommel Blow):
        ต้องการ : เลเวล 3
        ประเภทกดใช้ (Activated Ability)
        โอกาส มึนงง(Stun) 100% vs. ศัตรูปรกติ
        100% STAGGER จากเป้าหมายที่ติดกำลังติด มึนงง(Stun)

        Area of Effect (AOE) ประเภทสกิลหมู่

        Warmonger:
        5.Tremor (อัพเกรด Aftershock)
        ต้องการ : เลเวล 9
        ประเภทกดใช้ (Activated Ability)
        40% vs. ศัตรูปรกติ

        DISORIENT(สับสนอันเกิดมาจากการใช้เล่ห์) ทำให้เกิดโดยสายโจรเท่านั้น
        DISORIENT = เมื่อเกิดกับเป้าหมายแล้วจะ ลดค่าป้องกันลง 50%[/B]

        Single Target : สกิลเป้าหมายเดี่ยว

        Archer
        1. Pinning Shot (อัพเกรด Disorienting Shot)
        ต้องการ : เลเวล 8
        ประเภทกดใช้ (Activated Ability)
        โอกาสยึดขา: 80% vs. ศัตรูปรกติ
        100% DISORIENT vs. ศัตรูที่ถูกยึดขาติด

        Area of Effect (AOE) ประเภทสกิลหมู่

        Sabotage:
        2. Fatiguing Fog (อัพเกรด Overpowering Fog)
        ต้องการ : เลเวล 13
        ประเภทกดใช้ (Activated Ability)
        100% vs. ศัตรูปรกติ

        3. Confusion (อัพเกรด Chaos)
        ต้องการ : เลเวล 9
        ประเภทกดใช้ (Activated Ability)
        โอกาส Confuse : 50% vs. ศัตรูปรกติ
        DISORIENT 100% vs. เป้าหมายที่ติด สับสน(Confuse)

        BRITTLE จะเกิดขึ้นกับสกิลของเมจเท่านั้น
        BRITTLEเมื่อเป้าหมายติดสถานะจะช่วยเพิ่มความรุนแรงเมื่อติดคริติคอล 50%

        Single Target : สกิลเป้าหมายเดี่ยว

        Elemental
        1. Winter's Grasp (อัพเกรด Winter's Blast):
        ต้องการ : เลเวล 6 (เลเวล 10)
        ประเภทกดใช้ (Activated Ability)
        โอกาส Freeze 100% vs. ศัตรูปรกติ
        โอกาส 40% vs. เป้าหมายที่ถูกแช่แข็ง (frozen) (100% เมื่ออัพ Elemental Mastery )

        Primal


        2. Petrify (อัพเกรด Desiccate)
        ต้องการ : เลเวล 8
        ประเภทกดใช้ (Activated Ability)
        โอกาส BRITTLE 100% vs. ศัตรูปรกติ

        Area of Effect (AOE) ประเภทสกิลหมู่

        Elemental
        3. Cone of Cold (อัพเกรด Deep Freeze):
        ต้องการ : เลเวล 8 (เลเวล 10)
        ประเภทกดใช้ (Activated Ability)
        โอกาสติด Freeze(แช่แข็ง) : 60% vs. ศัตรูปรกติ
        โอกาสติด BRITTLE 20% vs. ศัตรูที่ถูก frozen(แช่แข็ง) (100% เมื่ออัพ Elemental Mastery )

        สกิลอะไรที่ช่วยให้โจมตีแรงขึ้นเมื่อติดสถานะ STAGGER


        Rogue : โจร

        Single Target : สกิลเป้าหมายเดี่ยว

        Dual Weapon:
        1. Explosive Strike (อัพเกรด Merciless Strike):
        ต้องการ : เลเวล 4
        ประเภทกดใช้ (Activated Ability)
        การโจมตีทางกายภาพเพิ่มขึ้น 400% เมื่อโจมตีเป้าหมายที่ติด STAGGER

        2. Lacerate (with Main):
        ต้องการ : เลเวล 9
        ประเภทบัพสนับสนุน (Sustained mode)
        โอกาสติดอาการเลือดไหล (Bleeding) 100% เมื่อโจมตีเป้าหมายที่ติด STAGGER

        Marksman: (Varric Only)
        3. Kickback (อัพเกรด Backlash)
        ต้องการ : เลเวล 12
        ประเภทกดใช้ (Activated Ability)
        พลังทางกายภาพ 800% เมื่อโจมตีเป้าหมายที่ติด STAGGER

        Mage : นักเวทย์

        Single Target : สกิลเป้าหมายเดี่ยว

        Arcane:
        1. Crushing Prison (อัพเกรด Paralyzing Prison)
        ต้องการ : เลเวล 10
        ประเภทกดใช้ (Activated Ability)
        ความรุนแรงโจมตีทางกายภาพ (Physcial damage) 200% เมื่อโจมตีเป้าหมายที่ติด STAGGER
        โอกาสอัมพาต Paralyze 40% เมื่อโจมตีศัตรูปรกติ
        โอกาสอัมพาต Paralyze 100% เมื่อโจมตีเป้าหมายที่ติด STAGGER

        Area of Effect (AOE) ประเภทสกิลหมู่

        Primal
        2. Chain Lightning (อัพเกรด Chain Reaction)
        ต้องการ : เลเวล 6
        ประเภทกดใช้ (Activated Ability)
        ความแรงธาตุสายฟ้า (Electricity) เพิ่มขึ้น 600% เมื่อโจมตีเป้าหมายที่ติด STAGGER
        พลังธาตุรวม (Elemental force) 200% เมื่อโจมตีเป้าหมายที่ติด STAGGER

        สกิลอะไรที่ช่วยให้โจมตีแรงขึ้นเมื่อติดสถานะ DISORIENT

        Warrior: นักรบ

        Single Target : สกิลเป้าหมายเดี่ยว

        Weapon and Shield
        1. Assault (อัพเกรด Battery)
        ต้องการ : เลเวล 9
        ประเภทกดใช้ (Activated Ability)
        ความรุนแรงทางกายภาพเพิ่มขึ้น(Physical damage) 400% vs ศัตรูที่ติดสถานะ DISORIENT ในการโจมตีจังหวะสุดท้าย
        *Assault เป็นการรัวโจมตีเป้าหมายแบบ 3 ครั้งรวด (x3) จะนับเอา 400% จากการโจมตีครั้งสุดท้าย

        Area of Effect (AOE) ประเภทสกิลหมู่

        Weapon and Shield
        2. Scatter (อัพเกรด Disperse)
        ต้องการ : เลเวล 10
        ประเภทกดใช้ (Activated Ability)
        ความรุนแรงทางกายภาพเพิ่มขึ้น(Physical damage) 300% vs เป้าหมายที่ติดสถานะ DISORIENT

        Mage : นักเวทย์

        Single Target : สกิลเป้าหมายเดี่ยว

        Primal
        1. Stonefist (อัพเกรด Golem's Fist)
        ต้องการ : เลเวล 6
        ประเภทกดใช้ (Activated Ability)
        โจมตีทางกายภาพเพิ่มขึ้น(Physical damage) 200% vs. เป้าหมายที่ติดสถานะ DISORIENT
        พลังทางกายภาพ (Physical force) 200% vs. เป้าหมายที่ติดสถานะ DISORIENT

        Spirit
        2. Spirit Bolt (อัพเกรด Spirit Strike)
        ต้องการ : เลเวล 6
        ประเภทกดใช้ (Activated Ability)
        ความแรงโจมตีธาตุวิญญาณเพิ่มขึ้น(Spirit damage) 200% vs. เป้าหมายที่ติดสถานะ DISORIENT
        พลังธาตุเพิ่มขึ้น(Elemental force) 200% vs. เป้าหมายที่ติดสถานะ DISORIENT

        Area of Effect (AOE) ประเภทสกิลหมู่

        Spirit
        3. Walking Bomb (อัพเกรด Virulent Walking Bomb)
        ต้องการ : เลเวล 8 (เลเวล 10)
        ประเภทกดใช้ (Activated Ability)
        ความโจมตีธาตุวิญญาณเพิ่มขึ้น(Spirit damage) 200% vs. เป้าหมายที่ถูกสาปหากติด DISORIENT (และความเสียหาย 200% คือเป้าหมายที่รายรอบรัศมีระเบิดติด DISORIENT)
        (พลังทางกายภาพ(Physical force) 200% vs. เป้าหมายที่รายรอบรัศมีระเบิดติด DISORIENT)
        *ผมเข้าใจนะอันนี้แต่จะเรีบเรียงพางงหรือปล่าว

        สกิลอะไรที่ช่วยให้โจมตีแรงขึ้นเมื่อติดสถานะ BRITTLE

        Warrior: นักรบ

        Single Target : สกิลเป้าหมายเดี่ยว

        [B]Two-Handed
        1. Mighty Blow (อัพเกรด Shattering Blow)
        ต้องการ : เลเวล 8
        ประเภทกดใช้ (Activated Ability)
        ความรุนแรงทางกายภาพเพิ่มขึ้น(Physical damage) 300% vs. เป้าหมายที่ติด BRITTLE
        พลังทางกายภาพเพิ่มขึ้น (Physical force) 200% vs. เป้าหมายที่ติด BRITTLE


        Vanguard
        2. Cleave (อัพเกรด Claymore)
        ต้องการ : เลเวล 10
        ประเภทกดใช้ (Activated Ability)
        โอกาสติดมึนงง(Stun chance) 100% vs. เป้าหมายที่ติด BRITTLE

        Area of Effect (AOE) ประเภทสกิลหมู่

        Two-Handed
        3. Scythe (อัพเกรด Reaper)
        ต้องการ : เลเวล 9
        ประเภทกดใช้ (Activated Ability)
        ความรุนแรงทางกายภาพเพิ่มขึ้น(Physical damage) 200% vs. เป้าหมายที่ติด BRITTLE
        พลังทางกายภาพเพิ่มขึ้น (Physical force): 200% vs เป้าหมายที่ติด BRITTLE

        Rogue : โจร

        Area of Effect (AOE) ประเภทสกิลหมู่

        Archery
        1. Bursting Arrow (อัพเกรด Shattering Arrow)
        ต้องการ : เลเวล 9
        ประเภทกดใช้ (Activated Ability)
        ความเสียหายโจมตีธาตุไฟเพิ่ม (Fire damage) 600% vs. เป้าหมายที่ติด BRITTLE
        ความแรงธาตุ (Elemental force) 400% vs. เป้าหมายที่ติด BRITTLE

        2. Archer's Lance (อัพเกรด Punishing Lance)
        ต้องการ : เลเวล 11
        ประเภทกดใช้ (Activated Ability)
        ความเสียหายทางกายภาพ (Physical damage) +9 vs. ทุกเป้าหมายที่ติด BRITTLE ในระยะสกิล
        พลังทางกายภาพเพิ่มขึ้น (Physical force) 400% vs. ทุกเป้าหมายที่ติด BRITTLE ในระยะสกิล

        สถิติที่น่าสนใจ

        1. Rogue และ mage ทั้งคู่มี 3 ที่ CCC กันได้, warrior มี 5
        2. Warrior และ mage มีเพียง 1 skill แต่นั้นสามารถทำ AOE CCC, rogue มี 2.
        3. Warmonger สายสกิลของ warrior มีสกิลที่ทำให้ติด STAGGER มากที่สุด
        4. Sabotage สายสกิลของ Rogue มีสกิลที่ทำให้ติด DISORIENT มากที่สุด
        5. Elemental สายสกิลของ mage มีสกิลที่ทำให้ติด BRITTLE มากที่สุด
        6. ทั้งสอง warrior และ mage มี 5 ที่สามารถ CCC กันได้, ส่วน rogue มีเพียง 4
        7. Warrior สามารถใช้โยชน์ DISORIENT ได้มากที่สุดจากสกิลสาย Weapon and Shield
        8. Warrior สามารถใช้โยชน์ BRITTLEได้มากที่สุดจากสกิลสาย Two-Handed
        9. Rogue สามารถใช้โยชน์ STAGGER ได้มากที่สุดจากสกิลสาย Dual Weapon
        10. Rogue สามารถใช้โยชน์ BRITTLE ได้มากที่สุดจากสกิลสาย Archer
        11. Mage สามารถใช้โยชน์ DISORIENT ได้มากที่สุดจากสกิลสาย Spirit
        12. Cleave สกิลในสาย Vanguard ของ Warrior เป็นสกิลเดียวที่สามารถ CCC จากทั้งหมด
        13. Archer ความสามารถในสาย Rogue มีสกิล AOE อยู่ 2 แต่ทั้ง 2 สามารถทำ CCC ได้
        14. ขณะเดียวกัน Chain Lighting คือสุดยอดสกิลที่ใช้ประโยชน์จาก STAGGER ได้อย่างสูงสุด, Bursting Arrow เองก็เช่นกันที่ใช้ประโยชน์จาก BRITTLEได้อย่างสุดยอด . ทั้งคู่ให้โบนัสความเสียหาย 600%
        15. และ Pommel Strike กับ Explosive Strike ที่มีความต้องการทางเลเวลที่น้อยที่สุดเพื่อทำการ CCC เมื่อเลเวล 4, Fatiguing Fog กับ Scatter เป็นสกิลที่มีความต้องการเลเวลขั้นสูงที่สุดในการทำเมื่อเลเวล 10.
        16. Sunder, Cleave, และ Lacerate สามารถ CCC เมื่อคุณโจมตีในรูปแบบธรรมดาโดยอัตโนมัตหากคุณอัพเกรดมัน
        17. การพรางตัว (Obscure) นั้นจะส่งผลเพิ่ม +20% to dodge. ความสามารถ Obscure ได้จากการอัพเกรด Bursting Arrow (Smoking Arrow), Fatiguing Fog (Impenetrable Fog), Chameleon's Breath (Chameleon's Cloud)
        18. Fatiguing Fog เป็นสกิลเดียวจะไม่ส่งผล FF,แต่การพรางตัว(obscure) จะเกิดผลก็ต่อเมื่อเพื่อนในปาร์ตี้คุณอยู่ในs,vdควัน
        19. Two-Handed basic attacks and talents do full damage to all the targets caught in their effective range. However, the attack must make a seperate to-hit and on-hit CCC effect roll for each target.

        CCC: Cross class Combo
        AOE: Area of Effect
        FF: Friendly Fire

        เจอโอตาคุ DA ฝรั่งเข้าไปข้อมูลแน่นจริงๆ ลองไปศึกษาข้อมูลกันครับ
        http://social.bioware.com/forum/1/to.../index/6116921
        Last edited by pongkrit03; 21 Mar 2011, 23:14:18.

        Comment


        • #5
          การใช้ TACTICS อย่างละเอียด

          (โดยคุณ Speak)



          ในหน้าจอ Tactic นั้นผมจะขอแปลและอธิบายโดยขอข้ามส่วน Behavior และ Preset ไปนะครับ
          เอาแค่แปลความหมายของคำใน Tactic ก่อน

          อย่างที่ทราบดี Tactic ก็คือการเซ็ตคำสั่งให้กับเพื่อนในทีม ให้ทำตามคำสั่งโดยอัตโนมัติ
          โดยจะแบ่งช่องออกเป็น 2 ฝั่ง ซ้ายและขวา
          ซ้าย คือ เหตุที่เกิด (Condition) / ขวา คือ ผลที่จะกระทำ (Action)

          ยกตัวอย่างเมื่อมีเหตุเกิดขึ้นว่า....(สมมตินะครับ)

          1. [เหตุ] ศัตรู พลังชีวิต เหลือน้อยกว่า 25% >>> [ผล] ให้ใช้สกิลนี้จัดการมัน
          2. [เหตุ] ตัวเรา พลังชีวิต เหลือน้อยกว่า 25% >>> [ผล] ให้กินยาเพิ่ม HP ซะ

          โดยตัวที่ถูก Tactic นี้ควบคุมจะทำการโจมตีศัตรู ด้วยสกิลก่อน ต่อมาถึงจะกินยา
          เพราะเราตั้งให้ โจมตีด้วยสกิลมีความสำคัญอันดับ 1 ดังนั้น ถ้าเงื่อนไขพร้อมที่จะทำตาม ข้อ 1
          ตัวละครจะเลือกทำตามข้อที่ 1 ก่อน ข้อที่ 2 เสมอ
          ยกเว้นยังไม่เข้าเงื่อนไข ข้อที่ 1 ตัวละครจะเลือกทำข้อที่ 2,3,4 ต่อๆไปแทน

          ฉะนั้น อย่างงครับ ถ้าตัวละครเราเอาแต่โจมตีไม่ลืมหูลืมตา ไม่ยอมกินยาซักที
          เหตุก็อาจจะมาจากผู้เล่นเองที่ตั้งแทคติกเอาไว้ว่า ให้โจมตี ก่อน กินยา นั่นเอง

          จากตัวอย่างข้างต้น จะเห็นได้ว่าตัวเลขหน้า Tactic ก็คือลำดับความสำคัญ นั่นเองครับ
          ส่วนเครื่องหมายถูก หน้าลำดับของ Tactic คือใช้บอกเราว่ามีการเปิดการใช้งาน Tactic นี้อยู่ ถ้าเอาออก ก็จะหยุดใช้
          Tactic ในข้อนี้นั่นเอง

          มาในส่วนของการแปลครับ

          ในช่อง Tactic เปล่าๆ ซ้ายมือ ซึ่งคือช่องของ "เหตุ" โดยเป็นการกำหนดเหตุที่จะเกิดขึ้นนั่นเองครับ
          ที่เขียนว่า (Target) Condition) หมายถึงยังไม่มีการตั้งเงื่อนไขใดๆลงไปครับ
          เมื่อคลิกเข้าไปจะปรากฎตัวเลือกดังนี้

          1. Clear ใช้ในการลบ Tactic ออก

          2. Self คือ เมื่อตัวเราเอง เจอสถานะการณ์ต่างๆดังต่อไปนี้......
          เมื่อคลิกเข้าไปจะพบตัวเลือกย่อยๆอีกดังนี้

          2.1 Status คือ เมื่อเราติดสถานะ.... Can't Attack ,Obscure,Slowed

          2.2 Health คือ เมื่อพลังชีวิตของเรา...... มีน้อยกว่า,มากกว่าหรือเท่ากับ XX %

          2.3 Mana or Stamina คือ เมื่อค่า Mana หรือ Stamina ของเรา....มีน้อยกว่า,มากกว่าหรือเท่ากับ XX %

          2.4 Any คือ ไม่ว่าจะอย่างไร

          2.5 Most Enemies Have Armor Type คือ เมื่อเจอศัตรูส่วนใหญ่มีพลังป้องกันระดับไหน
          มีหัวข้อย่อย คือ
          - ศัตรูส่วนใหญ่มีพลังป้องกันระดับต่ำ
          - ศัตรูมีส่วนใหญ่พลังป้องกันระดับกลาง
          - ศัตรูมีส่วนใหญ่พลังป้องกันระดับสูง
          - ศัตรูมีส่วนใหญ่พลังป้องกันระดับต่ำ ไปจนถึงระดับกลาง
          - ศัตรูมีส่วนใหญ่พลังป้องกันระดับกลาง ไปจนถึงระดับสูง

          2.6 Being Attacked By Type Of Attack คือ เมื่อตัวเราถูกโจมตีด้วยอาวุธชนิดใดๆ
          มีหัวข้อย่อย คือ
          - ถูกโจมตีด้วยอาวุธระยะประชิด
          - ถูกโจมตีด้วยอาวุธยิง
          - ถูกโจมตีด้วยเวทมนต์
          - ถูกโจมตีด้วยอาวุธระยะประชิด และอาวุธยิง
          - ถูกโจมตีด้วยอาวุธระยะประชิด และเวทมนต์
          - ถูกโจมตีด้วยอาวุธยิง และเวทมนต์

          2.7 Most Enemies Using Attack Type คือ เมื่อตัวเราเจอกับศัตรูที่"ส่วนใหญ่"ใช้การโจมตีประเภทใด....
          มีหัวข้อย่อย คือ
          - ศัตรูส่วนใหญ่ใช้การโจมตีด้วยอาวุธยิง
          - ศัตรูส่วนใหญ่ใช้การโจมตีด้วยอาวุธประชิด
          - ศัตรูส่วนใหญ่ใช้การโจมตีด้วยเวทมนต์
          - ศัตรูส่วนใหญ่ใช้การโจมตีด้วยอาวุธระยะประชิด และ อาวุธยิง
          - ศัตรูส่วนใหญ่ใช้การโจมตีด้วยอาวุธระยะประชิด และ เวทมนต์
          - ศัตรูส่วนใหญ่ใช้การโจมตีด้วยอาวุธอาวุธยิง และ เวทมนต์

          2.8 All Enemies Using Attack Type คือ เมื่อตัวเราเจอกับศัตรูที่"ทั้งหมด"ใช้การโจมตีประเภทใด....
          หัวข้อย่อยคล้ายๆ 2.7 ครับ ผมเปล่าขี้เกียจนะ

          2.9 At Least X Enemies are Alive คือ เมื่อศัตรูเหลืออยู่เป็นจำนวน...
          มีหัวข้อย่อย คือ เหลือศัตรู 1 ตัว , เหลือศัตรู 3 ตัว , เหลือศัตรู 5 ตัว

          2.10 At Least X Allies are Alive คือ เมื่อพวกเราเหลืออยู่เป็นจำนวน...
          มีหัวข้อย่อย คือ เหลือพวกเรา 3 ตัว , เหลือพวกเรา 5 ตัว

          2.11 Surround By Enemies คือ ตัวเรากำลังถูกศัตรูล้อมอยู่
          มีหัวข้อย่อย คือ เราถูกศัตรูล้อม จำนวน 2 ตัว,3ตัว,4ตัว และ ไม่ถูกศัตรูล้อม (0 ตัว)

          2.12 Party Health คือ เมื่อสมาชิกในทีมของเรามีพลังชีวิต......
          มีหัวข้อย่อย คือ สมาชิก 2 คนในทีมเหลือ HP ต่ำกว่า 50%
          สมาชิก 3 คนในทีมเหลือ HP ต่ำกว่า 50%
          สมาชิก 4 คนในทีมเหลือ HP ต่ำกว่า 50%


          3. Ally คือเพื่อนของเรา
          3.1 Health คือ เมื่อเพื่อนในทีมของเรามีพลังชีวิตน้อยกว่า,มากกว่าหรือเท่ากับ XX %

          3.2 Lowest / Highest Health คือ เมื่อเพื่อนในทีม มี HP น้อยที่สุด หรือ มากที่สุด

          3.3 Nearest visible คือ เพื่อนของเราคนที่ใกล้เรามากที่สุด

          3.4 Nearest visible Class คือ เพื่อนของเราคนที่ใกล้เรามากที่สุดและเป็น Class ใดๆต่อไปนี้
          Class mage/Rouge/Warrior

          3.5 Mana or Stamina คือ เมื่อเพื่อนในทีมของเรามีMana หรือ Staminaน้อยกว่า,มากกว่าหรือเท่ากับ XX %

          3.6 Any คือ เพื่อนของเราไม่ว่าใครก็ตาม

          3.7 Being Attacked By Type Of Attack คือ เมื่อเพื่อนของเราถูกโจมตีด้วยอาวุธชนิดใดๆ
          มีหัวข้อย่อย คือ
          - ถูกโจมตีด้วยอาวุธระยะประชิด
          - ถูกโจมตีด้วยอาวุธยิง
          - ถูกโจมตีด้วยเวทมนต์
          - ถูกโจมตีด้วยอาวุธระยะประชิด และอาวุธยิง
          - ถูกโจมตีด้วยอาวุธระยะประชิด และเวทมนต์
          - ถูกโจมตีด้วยอาวุธยิง และเวทมนต์


          4. Enemy คือเมื่อศัตรู.....
          4.1 Status คือ เมื่อศัตรูของเราติดสถานะ ดังหัวข้อย่อยต่อไปนี้....
          4.1.1 Staggered คือ เมื่อศัตรูของเราติดสถานะ Staggered
          4.1.2 Can't Attack คือ เมื่อศัตรูของเราติดสถานะ ไม่สามารถโจมตีได้
          4.1.3 Obscure คือ เมื่อศัตรูของเราติดสถานะ พร่ามัว
          4.1.4 Brite คือ เมื่อศัตรูของเราติดสถานะ Brite
          4.1.5 Paralyze คือ เมื่อศัตรูของเราติดสถานะ ตัวชา
          4.1.6 Confuse คือ เมื่อศัตรูของเราติดสถานะ สับสน
          4.1.7 Knockdown คือ เมื่อศัตรูของเราติดสถานะ ล้มลงไปนอน
          4.1.8 Disorienten คือ เมื่อศัตรูของเราติดสถานะ Disorienten
          4.1.9 Slowed คือ เมื่อศัตรูของเราติดสถานะ เชื่องช้า
          4.1.10 Dead คือ เมื่อศัตรูของเราตาย
          4.1.11 Immobilize คือ เมื่อศัตรูของเราติดสถานะ เคลื่อนที่ไม่ได้

          4.2 Health คือ เมื่อศัตรูของเรามีพลังชีวิตน้อยกว่า,มากกว่าหรือเท่ากับ XX %

          4.3 Lowest / Highest Health คือ เมื่อศัตรู มี HP น้อยที่สุด หรือ มากที่สุด

          4.4 Clustered คือ เมื่อศัตรูแห่เข้ามาหา XX ตัว
          มีหัวข้อย่อยคือ แห่เข้ามา 2 ตัว/3ตัว/4ตัว/5ตัว

          4.5 Nearest visible คือ ศัตรูของเราคนที่ใกล้เรามากที่สุด

          4.6 Nearest visible Class คือ ศัตรูของเราคนที่ใกล้เรามากที่สุดและเป็น Class ใดๆต่อไปนี้
          Class mage/Rouge/Warrior

          4.7 Attacking Party Member คือ เมื่อศัตรูโจมตีเพื่อนในทีมของเรา
          มีหัวข้อย่อยคือ
          - เพื่อนของเรา ชื่อ XXX ถูกโจมตี
          - ตัวละครที่ผู้เล่นกำลังบังคับอยู่ ถูกโจมตี

          4.8 Target of Party Member คือ เมื่อศัตรูตั้งเป้ามาโจมตีเพื่อนของเราในทีม
          (ศัตรูยังไม่ตีเพื่อนนะครับ แบบว่าเห็นมันกรูเข้ามาหาคนๆนั้นอะไรแบบนี้)
          มีหัวข้อย่อยคือ
          - เพื่อนของเรา ชื่อ XXX ถูกตั้งเป้าจะโจมตี
          - ตัวละครที่ผู้เล่นกำลังบังคับอยู่ ถูกตั้งเป้าจะโจมตี

          4.9 Has Anny Buff คือ ศัตรูของเรามีการ Buff สถานะใส่ตนเอง
          มีหัวข้อย่อยคือ
          - เมื่อศัตรูมีการ Buff สถานะ
          - เมื่อศัตรูมีการ Buff สถานะระยะใกล้
          - เมื่อศัตรูมีการ Buff สถานะระยะกลาง
          - เมื่อศัตรูมีการ Buff สถานะระยะใกล

          4.10 Mana or Stamina Level คือ เมื่อศัตรูของเรามีMana หรือ Staminaน้อยกว่า,มากกว่าหรือเท่ากับ XX %

          4.11 Any คือ ศัตรูใดๆ หรือ ไม่ว่าจะศัตรูของเราตัวไหนก็ตาม

          4.12 Has Armor Type คือ ศัตรูมีพลังป้องกันระดับไหน
          มีหัวข้อย่อย คือ
          - ศัตรูมีพลังป้องกันระดับต่ำ
          - ศัตรูมีพลังป้องกันระดับกลาง
          - ศัตรูมีพลังป้องกันระดับสูง
          - ศัตรูมีพลังป้องกันระดับต่ำ ไปจนถึงระดับกลาง
          - ศัตรูมีพลังป้องกันระดับกลาง ไปจนถึงระดับสูง

          4.13 Rank คือ เมื่อเจอศัตรูที่มีระดับดังต่อไปนี้
          - ระดับต่ำ
          - ระดับกลาง
          - ระดับสูง
          - ระดับบอส
          - ระดับโคตรบอส
          - ระดับกลาง หรือ ระดับต่ำกว่าลงมา
          - ระดับสูง หรือระดับต่ำกว่าลงมา
          - ระดับสูง หรือระดับที่สูงกว่าระดับสูงขึ้นไป
          - ระดับบอสหรือระดับที่สูงกว่าระดับบอส

          4.14 At Least X Enemies are Alive คือ เมื่อศัตรูเหลืออยู่เป็นจำนวน...
          มีหัวข้อย่อย คือ เหลือศัตรู 1 ตัว , เหลือศัตรู 3 ตัว , เหลือศัตรู 5 ตัว

          4.15 At Least X Allies are Alive คือ เมื่อพวกเราเหลืออยู่เป็นจำนวน...
          มีหัวข้อย่อย คือ เหลือพวกเรา 3 ตัว , เหลือพวกเรา 5 ตัว

          4.16 Target Range คือระยะของศัตรู ใกล้ /ใกล้-กลาง/กลาง-ไกล

          4.17 Target Using Attack Type คือ เมื่อศัตรูใช้การโจมตีประเภทใด....
          มีหัวข้อย่อย คือ
          - ศัตรูใช้การโจมตีด้วยอาวุธยิง
          - ศัตรูใช้การโจมตีด้วยอาวุธประชิด
          - ศัตรูใช้การโจมตีด้วยเวทมนต์
          - ศัตรูใช้การโจมตีด้วยอาวุธระยะประชิด และ อาวุธยิง
          - ศัตรูใช้การโจมตีด้วยอาวุธระยะประชิด และ เวทมนต์
          - ศัตรูใช้การโจมตีด้วยอาวุธอาวุธยิง และ เวทมนต์


          ข้อ 5 จนถึง ข้อสุดท้าย คือการระบุชื่อเพื่อนของเราลงไปเลยครับ ให้เพื่อนของเราชื่อ XX เป็นเหตุใดๆต่อไปนี้
          วึ่งส่วนใหญ่ตัวเลือกจะซ้ำกับที่กล่าวไปในด้านบนที่แปลไว้ครับ
          หากอ่านด้านบนแล้วเข้าใจ ก็จะสามารถนำมาประยุกต์ใช้
          ได้กับข้อที่ 5 จนถึงข้อสุดท้ายได้เองครับ



          ส่วนช่องของ ผลที่จะกระทำ (Action) นั้นมีไม่มากครับ
          ซึ่งเป็นผลต่อจากที่เรากำหนดเหตุอันเป็นต้นเรื่องไปแล้ว
          ซึ่งผลที่จะกระทำมีดังต่อไปนี้

          - Clear คือการลบ Condition ที่ตั้งเอาไว้

          - Wait คือ ให้รอ

          - Use Ability คือ สั่งให้ใช้สกิล(เลือกสกิลที่จะให้ใช้ด้วย)

          - Active mode คือ สั่งให้ใช้ Substain ที่เลือก

          - Deactive Mode คือ สั่งให้หยุดใช้ Substain ที่เลือก

          - Use Item คือ สั่งให้ใช้ไอเทม(ระบุชนิดไอเทม)

          - Jump To Tactic คือให้ข้ามไปใช้ Tactic ที่....(ระบุ tactic ด้วย)

          - Use Current Conditon for Next Tactic คือให้ใช้เงื่อนไข(เหตุ)อันเดิมก่อนจะไปแทคติกต่อไป

          - Skip Tactic คือ ให้ข้ามแทคติกนี้ไปก่อน

          * หมายเหตุ* Action บางอันจะไม่ปรากฎขึ้นให้เลือกใช้ในบาง Condition นะครับ
          เช่น....
          ถ้าเลือก [เหตุ]ว่า... ศัตรู ใดๆ >>> ในช้องของ [ผล] จะไม่มีตัวเลือกใช้ไอเทมปรากฎออกมาครับ


          คร่าวๆก็มีเท่านี้ครับ หวังว่าพอเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย
          การคิดแทคติกขึ้นมาเพื่อรองรับสถานการณ์แต่ละอย่างในเกมถือเป็นความสนุกอย่างหนึ่งของ DA
          หากแผนดี ก็สู้ได้อย่างสบายไม่ต้อง Pause บ่อยและไม่ต้องไปบังคับแบบ Manual กับทุกตัวละคร
          ดังนั้นผมหวังว่าที่ผมแปลไว้นี้คงเป็นประโยชน์ในการสร้างแทคติกด้วยตนเอง
          ของแต่ละท่านที่ยังไม่ชำนาญการตั้งแทคติกนะครับ




          >>> Tactics Behavior โดยคุณ Smily_K

          Default

          จะไม่โจมตีศัตรูที่ปรากฎเข้ามาในระยะโจมตี นอกจากว่าผู้เล่นจะเข้าโจมตีก่อนหรือเพื่อนในกลุ่มโดนโจมตี และจะตามเป้าหมายที่ตัวเองกำลังโจมตีอยู่ถ้าเป้าหมายเดินออกนอกระยะโจมตี และจะหนีออกจากพื้นที่อันตราย (พวก AOE ทั้งหลาย)

          Passive

          *ต้องใช้ range weapon (ธนูหรือคฑา) ไม่งั้นจะยืนโง่อยู่กับที่ถ้าไม่ได้ตั้งค่าแทคติคไว้ หรือต่อให้ตั้งค่าแทคติคไว้ก็จะวิ่งไปวิ่งมาโง่ ๆ อยู่ดี
          ตัวละครจะพยายามอยู่ใกล้ผู้เล่นตลอดเวลา จะโจมตีถ้าโดนโจมตีระยะประชิด แต่จะไม่ตามไปโจมตีศัตรูถ้าศัตรูหนีออกนอกระยะโจมตี และจะหนีออกจากพื้นที่อันตราย

          Aggressive

          จะโจมตีศัตรูที่ปรากฎเข้ามาในระยะโจมตีทันที และจะเปลี่ยนมาโจมตีใส่ศัตรูที่เข้ามาโจมตีในระยะประชิดก่อน (ถ้าโดนโจมตีมาในระยะประชิด จะเปลี่ยนมาตีตัวที่มาโจมตีก่อน) และจะตามเป้าหมายไป หากเป้าหมายออกนอกระยะโจมตี
          ตัวละครจะไม่หนีออกจากพื้นที่อันตราย (AOE)
          *หากใช้ค่านี้กับพวกยิงระยะไกล ตัวละครจะไม่วิ่งไปไหนจะยืนอยู่กับที่ จะวิ่งออกจากตำแหน่งก็ต่อเมื่อศัตรูที่กำลังโจมตีอยู่วิ่งออกนอกระยะโจมตี

          Range

          *ต้องใช้ธนูหรือคฑาเท่านั้น ไม่งั้นจะโง่เหมือน Passive
          จะตีศัตรูที่ปรากฎเข้ามาในระยะโจมตี และจะวิ่งหนีทิ้งระยะถ้าศัตรูเข้ามาโจมตีในระยะประชิด หากศัตรูหนีออกนอกระยะจะไม่วิ่งตามศัตรูไป และจะหนีออกจากพื้นที่อันตราย

          Cautions

          คล้าย ๆ กับ Passive คือตามผู้เล่นตลอด ถ้าโดนโจมตีจะไม่โจมตีกลับแต่จะวิ่งหนี ถ้าไม่ได้ตั้งค่าแทคติคไว้ให้โจมตีก็จะไม่โจมตี(ยืนเฉย ๆ ) หรือถ้าสั่งให้โจมตีก็โจมตีแค่ครั้งเดียวตามที่สั่ง และจะหนีออกจากพื้นที่อันตราย

          Defensive

          จะพยายามวิ่งตามผู้เล่น และไม่โจมตี นอกจากจะโดนโจมตีก่อน และจะหนีออกจากพื้นที่อันตราย
          *ถ้าไม่ได้ตั้งค่าแทคติคไว้ให้โจมตี Behavior นี้จะอนาถมาก

          Tank

          เจอศัตรูตรงไหน วิ่งไปหาทันที ถ้าศัตรูวิ่งออกนอกระยะโจมตีก็จะวิ่งตาม แต่จะเปลี่ยนเป้าหมายหากโดนโจมตีระยะประชิดจากศัตรูตัวอื่น จะไม่หนีออกจากพื้นที่อันตราย (AOE)

          ถ้าเซ็ต Behavior กับ tactic ดี ๆ หน่อย แทบไม่ต้องไปสลับตัวไปสั่งตัวละครตัวอื่นเลยล่ะครับ


          INVENTORY เฉพาะสำคัญ



          สุดยอดชุดเกราะในแต่ละ Act (โดยผมเอง pongkrit03)

          กว่าจะย่อยข้อมูลออกมาได้ นี่คือชื่อของชุดเกราะแขนขาหมวกเทพในแต่ละ Act ของแต่ละอาชีพที่เป็นแบบรวมชุดนะครับ คือครบเซ็ตแล้วได้พลังเพิ่มด้วย สถานที่เอาจะอยู่ที่เดียวกันครับ แต่ต่างอาชีพตาม hawke

          ACT I
          Warrior - ทั้งเซ็ตชื่อ Fallen
          Rouge - ทั้งเซ็ตชื่อ Last Descent
          Mage - ทั้งเซ็ตชื่อ Spiral Eye

          สถานที่
          Glove - Rubble (Sundermount Caverns,Long Way Home)
          Boots - Chest (Undercity Warrens)
          Armor Suit - Dragon (Deep Roads, The Deep Roads Expedition)
          Helm - Tarohne (Sanctuary, Enemies Among Us)


          ACT II
          Warrior - ทั้งเซ็ตชื่อ Stonehammer
          Rouge - ทั้งเซ็ตชื่อ Enasalin
          Mage - ทั้งเซ็ตชื่อ Overseer
          Originally posted by martinho View Post
          นิดนึงครับ ฝากคุณ prongkit03 เพิ่ม เกราะ rouge set act II ( Guardian of Enasalin )
          ได้จากเควส Offers and lost ตอนไปหาข่าวที่ บาร์ hang man แต่ต้องเลือกสู้กับลุงหนวดก่อน แล้วลูกน้องมันจะดรอปเกราะมาครับ
          Glove -Chest (The Killer’s Lair, All That Remains)
          Boots -Chest (Bartrand’s Mansion,Family Matter)
          Armor Suit - Olaf ’s Armory (Hightown) <- ACT3
          Helm - Thug Leader (Winding Alley,Following the Qun)


          ACT III
          ทุกอาชีพมีเกราะเทพชื่อเดียวกัน คือ Champion

          Glove - Quest reward (Demands of the Qun)
          Boots -Huon (On The Loose,Lowtown – Night)
          Armor Suit - High Dragon (The Bone Pit, Mine Massacre)
          Helm Grace - (The Wounded Coast, BestServed Cold)

          ไปเอากันมาให้ได้น้อ สรรพคุณก็ดูกันเอาเองละกาน


          Lost Sword Quest ACT3
          เก็บครบ 10 อันจะได้อาวุธที่ดีที่สุดในเกมส์ตามสายของเรา (ให้เลือกตอบไม่เอาทองนะครับ)


          1.Hightown Purchase from Korval?s Blades.
          2.Lowtown Purchase from Weaponsmithy.
          3.Lowtown (Night) Hidden in a pile of rubble in the Foundry
          District.
          4.The Gallows Purchase from the Weapon Shop.
          5.Darktown Inside a crate at Anders?s Clinic.
          6.Docks (Night) Found in a pile of bones in the Harbormaster?s
          Office area.
          7.Docks (Night) Inside a chest with a Master-grade lock in the
          Warehouse District.
          8.De Launcet Mansion(Hightown)
          Found in the northeast room of the building
          during your visit for the On the Loose main
          plot quest.
          9.The Wounded Coast Travel west from the main entrance until
          you can proceed no further, then head south
          (through a campsite) to a dead end. The sword
          is hidden in a pile of bones.
          10.The Wounded Coast Found among a pile of bones in the northwest
          of the region ? you should remember this area
          as being the Tal-Vashoth camp from Act 1.


          =======

          ชุดอัพเกรด สำหรับ เพื่อนๆในปาตี้ โดย toevtoev

          *** คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ชุดเกราะหรือของสวมใส่ของเพื่อน มีส่วนช่วยอย่างมากในการ ผจญวิบากกรรม ต่างๆ นาๆ ในเกม เพราะฉนั้น ดูแล เพื่อนร่วมทางให้ดี แล้วเขาจะช่วยคุณได้อย่างมาก ***

          *** ในการหา ชุดอัพเกรด เครื่องป้องกัน ให้เพื่อนๆ ที่สำคัญ มากๆ คือ Act ที่ พบ ถ้าของพบได้ใน Act1 แต่คุณไป Act 2 แล้ว ก็จะหาไม่ได้นะครับ ระวังให้ดี ด้วย ***

          *** ซื้อจากร้าน หมายถึงหาซื้อได้ที่ร้านค้า /// หาได้จาก หมายถึง หาในสถานที่ ที่บอก ไม่มีขาย ***
          1.Anders
          ชุดที่1.Lyrium Weave
          พบใน Act ที่ 2 = ซื้อจากร้าน Mage Goods shop = สถานที่ : Gallows
          ชุดที่2.Armor Struts
          พบใน Act ที่ 2 = ซื้อจากร้าน Lirene's Fereldan Imports shop = สถานที่ Lowtown
          ชุดที่3.Spirit Essence
          พบใน Act ที่ 2 = หาได้จาก Gallows Dungeon ตอนที่ทำเควส์ Dissent
          ชุดที่4.Sigil of the Mage Underground
          พบใน Act ที่ 3 = หาได้จาก ในเควส์ Best Served Cold
          ชุดที่5.Renegade's coat
          พบใน Act ที่ 3 = จะได้รับหลังจาก ทำเควส์ Justice เสร็จ

          2.Aveline
          ชุดที่1.Underpadding Guardsman Pattern
          พบใน Act ที่ 1 = ซื้อจากร้าน Armor Merchant shop = สถานที่ Lowtown
          ชุดที่2.Flex-Chain Guardsman Pattern
          พบใน Act ที่ 2 = หาได้ใน เควส์ Raiders on the Cliffs
          ชุดที่3.Impact Plating Guardsman Pattern
          พบใน Act ที่ 2 = Armor Merchant shop = สถานที่ Lowtown
          ชุดที่4.Deflecting Joints Guardsman Pattern
          พบใน Act ที่ 3 = หาได้จาก เควส์ Favor and Fault (เว๊บนอก บอกว่ามี บั๊ก)(ได้จาก Jeven)

          3.Bethany//Carver
          ชุดที่1.Heirloom Amell Protective Sigils /// Fereldan Girded Platingพบใน Act ที่ 1 = พบในห้องสุดท้าย ในเควส์ Birthright

          4.Fenris
          ชุดที่1.Lyrium Scales
          พบใน Act ที่ 2 = ซื้อจากร้าน Shady Merchandise shop = สถานที่ Docks
          ชุดที่2.Reinforced Straps
          พบใน Act ที่ 2 = หาได้จาก เควส์ Bitter Pill
          ชุดที่3.Tevinter Spirit Symbol
          พบใน Act ที่ 2 = ซื้อจากร้าน Jean Luc shop = สถานที่ Hightown
          ชุดที่4.Enchanted Resin
          พบใน Act ที่ 3 = ได้จากมังกร ในเควส์ Mine Massacre

          5.Isabela
          ชุดที่1.Lambswool Insoles
          พบใน Act ที่ 2 = เจอด้านในสุดของโรงหล่อ ตอนไปทำเควส์ Catch a Thief (อ่านแล้ว งง? เหมือนกัน 555+ เอาเป็นว่า ถ้าไปทำเควส์ Catch a Thief แล้วลองเดินให้ทั่ว โรงหล่อ ก็ ดันเจี้ยน ที่ หม้อไฟ ใบใหญ่ๆ หวังว่าคงเข้าใจ 555+)
          ชุดที่2.Rigid Boning
          พบใน Act ที่ 2 = ซื้อจากร้าน Apparel shop ใน Lowtown
          ชุดที่3.Supportive Corselet
          พบใน Act ที่2 = ซื้อจากร้าน Jean Luc shop ใน Hightown
          ชุดที่4.Boiled Leather Plates
          พบใน Act ที่3 = หาได้ในเควส์ A Murder of Crows

          6.Merrill
          ชุดที่1.Carved Ironwood Buttons
          พบใน Act ที่ 2 = ซื้อจากร้าน Ilen's Crafts shop ใน Sundermount (แคลนพวก เอลล์)
          ชุดที่2.Raiments of the Dalish Pariah
          พบใน Act ที่ 2 = ได้จากการ มีสัมพันธุ์ลึกซึ้งกัน (ว่าวกันซื่อๆ ได้หลังจาก บ่ะ บ่ะ โอ้ บ่ะ บ่ะ กับน้องMerrill 555+ )
          ชุดที่3.Samite Lining
          พบใน Act ที่ 2 =ซื้อจากร้าน Jean Luc shop ใน Hightown
          ชุดที่4. Silver-Threaded Dalish Embroidery
          พบใน Act ที่2 = เริ่มจากไปที่ Sundermount แล้วไปต่อ ที่ Sundermount Passage เดินจนเจอ สุสานของพวกเอลล์ แล้วไปต่อ ที่ a pile of bones ที่อยู่บนสุดของเส้นทาง (เว๊บนอกมันบอกแค่นี้ มันไม่ได้บอกเจาะจง - -")
          ชุดที่5.Halla Horn Buckles
          พบใน Act ที่3 = ได้จากการฆ่าPride Demon ในเควส์ A New Path

          7.Sebastian
          ชุดที่1.Enhanced Articulation
          พบใน Act ที่ 2 = ซื้อจการ้าน Armor shop ใน Gallows
          ชุดที่2.Mail Undertunic
          พบใน Act ที่ 2 = หาได้จาก Harriman Estate ในเควส์ Repentance
          ชุดที่3.Reinforced Bracers
          พบใน Act ที่ 2 = Olaf's Armory shop ใน Hightown
          ชุดที่4.Protection of the Faith
          พบใน Act ที่ 3 = หาได้จาก Templar Lieutenant ในเควส์ Best Served Cold

          8.Varric
          ชุดที่1.Inscribed Leather Harness
          พบใน Act ที่ 1 = ซื้อจากร้าน Apparel shop ใน Lowtown
          ชุดที่2.Coat Lining with Concealed Pockets
          พบใน Act ที่ 2 = ซื้อจากร้าน Shady Merchandise shop ใน Docks
          ชุดที่3. Silverite-Reinforced Buckles
          พบใน Act ที่ 2 = หาได้จาก Bartrand's Estate ในเควส์ Family Matter
          ชุดที่4.Drakeskin Leg Straps
          พบใน Act ที่ 3 = หาได้ในเควส์ Finding Nathaniel[/QUOTE]



          แนะนำอาวุธที่ดีที่สุดในช่วงเวลานั้นๆคับ คัดสรรโดยผมเอง

          Shield

          ACT1

          Oddsmaker
          72 +41 Attack | +7% Physical damage 18 Strength | 18 Constitution
          Revenant (Long Way Home)

          Kirkwall Shield
          72 +20 Defense | +7 Armor 18 Strength | 18 Constitution
          Armor Merchant (Lowtown)

          Winter-Weight
          86 +9 Armor | +8 Fortitude 20 Strength | 20 Constitution
          Dragon (Deep Roads, The Deep Roads Expedition)


          ACT2

          Spirit of 4:60 Black
          146 1 Rune slot | +15 Armor |
          +7% Physical damage
          25 Strength | 25 Constitution Chest
          (Abandoned Slaver Den, A Bitter Pill)

          River’s Wave
          134 +33 Defense | +13 Armor 24 Strength
          | 24 Constitution Qunari Delegate
          (Ser Varnell’s Refuge,Offered and Lost)

          Shield of the Knight Herself
          190 1 Rune slot | +88 Attack | +5% Critical
          chance | 100% of basic attack damage
          vs. enemies that attack in melee
          34 Strength | 28 Constitution| Aveline only
          ( Ser Varnell’s Refuge , Offered and Lost)


          ACT3

          Mage’s Friend (ดีที่สุดในเกมส์)
          271 3 Rune slots | +17% Magic resistance 32 Strength | 32 Constitution
          Faith quest





          Sword one-hand

          ACT1
          Thudpucker’s Fist
          20 Physical 1 Rune slot | +57 Attack | 5% Chance
          to Stun 28 Strength
          Bonny Lem’s Wares (Disused Passage)


          ACT2

          One-Cut
          21 Physical 1 Rune slot | +61 Attack | +8% Physical
          damage | Messy Kills30 Strength
          Innley of Starkhaven (Sundermount, Bounty Hunter)

          Markham Heart Stopper
          27 Physical +5% Critical chance | +12% Critical
          damage | Messy Kills
          33 Strength Weapon Shop (Gallows Courtyard)


          ACT3

          Bassrath-Kata (ดีที่สุดในเกมส์)
          31 Physical +100 Attack | +4% Attack speed |
          +20% Chance of Deathblows |
          +9 damage vs. humans
          39 Strength
          Quest reward (The Lost Swords)

          Aurvar’s Prize (เหมาะตัว tank)
          33 Physical 1 Rune slot | +116 Attack | +3 Armor |
          +17% Threat generation
          41 Strength
          Chest (Deep Roads, Finding Nathaniel)




          Backpack ซื้อได้จาก
          Robes by Jean Luc act 1 , act 2 , act 3 รวม 3 กระเป๋า
          Apparel Shop act 1
          Mage Goods act 2


          แถมคลิปตลกน่ารักในเกมส์

          Merril WTF ( No Spoil) แนะนำโดย evilbom และ subtitle โดย ofenrilo


          ใครมีแบบนี้ขออีกนะคับ ^^
          Last edited by pongkrit03; 18 Apr 2011, 19:01:57.

          Comment


          • #6
            อีก1วันเท่านั้นจะได้เล่นแล้ววว

            Comment


            • #7
              แผ่นแท้มีขายเเล้วเหรอคับ เห็นในเว็ปบิทมีให้โหลดเเล้วเเต่ยังไม่มีเเคร็ก
              รอเกมนี้กะ crysis 2 ออกเดือนเดียวกันอย่างนี้เดือนนี้ก็กินเเกลบไป

              Comment


              • #8
                โอ้ว ไวมาก
                Last edited by CannavaroJ; 7 Mar 2011, 13:46:25.

                Comment


                • #9
                  20 แรก น่าจะจองยาว เพราะผมว่าคงยาวกว่านี้ ^^

                  Comment


                  • #10
                    โอ้ว เมื่อกี้เข้ามายังไม่มีไปโอนตังให้zestแปปเดียวมาเต็มเลย

                    Comment


                    • #11
                      .
                      Last edited by editon; 9 Mar 2011, 18:37:20.

                      Comment


                      • #12
                        เพิ่งสั่งDragon Age II : Bioware Signature Editionไปคับกลัวหมด เลยไปจองไว้ก่อนเลย ตอนเเรกนึกว่าเข้า11 มีนาคม มาเห็นในนี้เเหละคับเลยรีบไปจองเลย
                        ขอบคุณที่ทำบทสรุปเจ๋งๆมาให้ชมกันนะคับ เป็นกำลังใจให้ทีมงานทุกคนคับผม

                        Comment


                        • #13
                          Originally posted by editon View Post

                          ปล. ผมแปล Rogue Base Talent เสร็จแล้วนะครับ 6 สาย ถ้าไงผมจะส่งมากำลังทำเป็นไฟล์ภาพจะได้อ่านกันง่ายๆ แล้วจะมีใครแปล Mage มั้ยเนี้ยผมไม่ไหวนะถ้าแปลก็คงช้าหน่อยละครับเพราะเคลียร์ทุกๆอย่างเตรียมตัดขาดทางโลกละ บายๆแฟนจ๋า บายๆเพื่อนๆ จำศีลนั่งเล่นเกม
                          สุดยอดเลยครับ เออ เกี่ยวกับตัวอักษรผมว่าเราใช้อักษรปกติก็ได้ครับ ผมว่า size 1 มันตัวเล็กเกินไปหน่อยน่ะครับ สำหรับ Rogue Base Talent ก็จริงๆทำแบบที่ท่านทำแต่เดิมผมว่าก็อ่านง่ายแล้วนะครับ แต่ถ้าจะใช้ไฟล์ภาพจริงๆผมรบกวนขออย่าให้ความกว้างด้านซ้ายขวาอย่าให้ยาวเกิน 640 นะครับ ไม่อย่างนั้นจะทำให้เราต้องมาเลื่อนแถบด้านล่างไปซ้ายขวาเวลาอ่านน่ะครับ ขอบคุณมากครับ
                          Last edited by pongkrit03; 7 Mar 2011, 14:23:42.

                          Comment


                          • #14
                            วันนี้ ว่าจะ แปล สกิลทักษะ ของเมจ อยู่อ่ะล่ะครับ (ตัดสินใจแล้วว่าจะเมจ 555+) แต่ก็คงเหมือนเดิม ที่ว่า ผมคงแปล ออกมา หยาบๆ แล้วให้ พี่ Pongkrit03 และ คุณ editon มาช่วยขัด ให้ถูกต้องอีกที โอเค นะครับ จะได้ลงมือเลย

                            Comment


                            • #15
                              Originally posted by toevtoev View Post
                              วันนี้ ว่าจะ แปล สกิลทักษะ ของเมจ อยู่อ่ะล่ะครับ (ตัดสินใจแล้วว่าจะเมจ 555+) แต่ก็คงเหมือนเดิม ที่ว่า ผมคงแปล ออกมา หยาบๆ แล้วให้ พี่ Pongkrit03 และ คุณ editon มาช่วยขัด ให้ถูกต้องอีกที โอเค นะครับ จะได้ลงมือเลย
                              ได้เลยครับ แต่อยากให้ระวังเรื่องรายละเอียดของสกิลว่าโดน ตัวเดี่ยวๆ หรือ โดนเป็นกลุ่มด้วยนะครับ แล้วก็ active , passive , substain จริงๆไม่ต้องแก้เป็นไทยก็ได้ครับ เพราะผมคิดว่าเป็นทับศัพท์เข้าใจง่ายอยู่แล้วครับ สกิลที่ไหนที่ไม่แน่ใจก็ลองถามๆดูก็ได้ครับ

                              Comment

                              Working...
                              X