มีข้อมูลใหม่เกี่ยวกับสเปกหลัก ราคา และกำหนดวางจำหน่ายของกราฟิกการ์ดเรือธงรุ่นถัดไปจาก NVIDIA อย่าง RTX 5080 SUPER เผยออกมาเพิ่มเติม

จากข้อมูลหลุดล่าสุด RTX 5080 SUPER มาพร้อมสเปกที่จัดว่าโหดพอสมควร โดยคาดว่าจะใช้คอร์ GB203-450 แบบเต็ม พร้อมจำนวน 10,752 CUDA Cores จุดที่อัปเกรดหนักที่สุดคือหน่วยความจำ ที่เพิ่มจาก 16GB บน RTX 5080 เป็น 24GB หรือเพิ่มขึ้นถึง 50% และยังอัปเกรดไปใช้หน่วยความจำ GDDR7 รุ่นใหม่ด้วย

ด้านความเร็วเมมโมรีก็เพิ่มขึ้นจาก 30Gbps เป็น 32Gbps ร่วมกับบัสกว้าง 256-bit ทำให้มีแบนด์วิดท์รวมสูงสุดถึง 1024 GB/s ส่วนการอัปเกรดทั้งหมดนี้คาดว่าจะทำให้ค่า TBP (Total Board Power) เพิ่มจาก 360W ไปแตะระดับมากกว่า 400W

มีการลงตารางเทียบสเปกระหว่าง RTX 5080 SUPER และ RTX 5080 ไว้ด้วย (ไม่แนบมาในบทความต้นฉบับ)

ด้านประสิทธิภาพ

ประสิทธิภาพของ RTX 5080 SUPER อาจเกิดภาวะ “สองขั้ว” อยู่บ้าง

• สำหรับผู้เล่นเกมส่วนใหญ่ที่เล่นที่ความละเอียด 1080p / 1440p การเพิ่ม VRAM เพียงอย่างเดียวอาจไม่ได้ทำให้เฟรมเรตดีขึ้นแบบมีนัยสำคัญ ทำให้การอัปเกรดอาจ ไม่คุ้มค่า

• แต่สำหรับใครที่ไล่ล่าความสุดของเกมที่ 4K หรือ 8K การมี VRAM มากขึ้นจะส่งผลต่อประสิทธิภาพอย่างเห็นได้ชัด

• อีกด้านหนึ่ง กลุ่มงานมืออาชีพ เช่น รัน LLM ขนาดใหญ่แบบ Local, AI Edge Computing, หรือโหลดงาน ML/AI หนัก ๆ จะได้ประโยชน์จาก VRAM 24GB มากเป็นพิเศษ ถือว่าเป็นฟีเจอร์ที่ดึงดูดมาก

ปัญหาใหญ่: ความขาดแคลน DRAM + ราคาพุ่ง

การเปิดตัวตระกูล RTX 50 SUPER ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะตลาด DRAM กำลังเผชิญปัญหาขาดแคลนอย่างหนักจากดีมานด์ AI ที่พุ่งสูงทั่วโลก

โดยเฉพาะ GDDR7 ที่มีซัพพลายจำกัดมากอยู่แล้ว ทำให้การผลิตการ์ดจอรุ่นที่ใช้หน่วยความจำปริมาณมากยิ่งทำได้ยาก ส่งผลให้ซีรีส์ RTX 50 SUPER มีแนวโน้มจะ “ลำบากเรื่องซัพพลายตั้งแต่วันแรก”

แหล่งข่าวให้ความเห็นว่า ความตึงตัวของซัพพลายเชนจะส่งผลต่อทั้ง ราคา และ กำหนดวางขาย ของ RTX 5080 SUPER โดยตรง

คาดการณ์ราคา & วันเปิดตัว

นักวิเคราะห์ตลาดคาดว่า ราคาของ RTX 5080 SUPER อาจอยู่ช่วง 1,100 – 1,300 ดอลลาร์ (ประมาณ 7,980 – 9,430 หยวน) หรืออาจสูงกว่านั้น หากราคาหน่วยความจำยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ส่วนกำหนดวางจำหน่าย เดิมเคยลือกันว่าจะเปิดตัวในไตรมาส 1 หรือ 2 ของปี 2026 แต่ข่าวล่าสุดระบุว่าอาจถูกเลื่อนไปเป็น ไตรมาส 3 ปี 2026 แทน.

ที่มา: IT Home