พบกับสมาชิกใหม่ล่าสุดของตระกูลคอมพิวเตอร์ All-in-One: Raspberry Pi 500+
นี่คือคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะสมบูรณ์แบบ ที่เป็นเสมือนจดหมายรักถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ในวัยเด็กของเรา และถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ "สมบูรณ์แบบที่สุด" ของ Raspberry Pi จนถึงตอนนี้

Raspberry Pi 500+ มาพร้อมคีย์บอร์ดแมคคานิคคุณภาพสูง สามารถถอดปุ่มได้ มีไฟ RGB ที่ตั้งค่าแยกแต่ละปุ่มได้, สล็อต M.2 ภายใน พร้อม SSD ของ Raspberry Pi ความจุ 256 GB ติดตั้งมาให้ และ RAM 16 GB

สเปกหลัก

Raspberry Pi 500+ ถูกสร้างบนแพลตฟอร์ม Raspberry Pi 5

• CPU Arm Cortex-A76 Quad-Core 2.4 GHz

• รองรับการแสดงผล 2 จอ 4K

• การเชื่อมต่อ Wi-Fi Dual-Band และอีกมากมาย

• ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 200 ดอลลาร์สหรัฐ

นอกจากนี้ยังมีชุด Desktop Kit ราคา 220 ดอลลาร์ ซึ่งเพิ่ม:

• เมาส์ Raspberry Pi

• อะแดปเตอร์จ่ายไฟ USB-C 27W

• สาย micro HDMI to HDMI ยาว 2 เมตร

• หนังสือคู่มือ Raspberry Pi Beginner's Guide, 5th Edition

กลิ่นอายคอมพิวเตอร์ยุค 80s

Raspberry Pi ได้แรงบันดาลใจจากเครื่องคอมพิวเตอร์ในยุค Home Computer Revolution ของทศวรรษ 1980 ไม่ว่าจะเป็น BBC Micro สีเบจ, Sinclair Spectrum กับคีย์บอร์ดยาง, Commodore 64 “breadbin” หรือแม้แต่ Apple II

ตั้งแต่ Raspberry Pi รุ่นแรก (ที่ไม่มีเคสและคีย์บอร์ด) ทีมงานก็มีความฝันอยากสร้างคอมพิวเตอร์ที่ "สมบูรณ์แบบ" กว่านี้เพื่อตอบโจทย์ทั้งด้านการศึกษาและงานอดิเรก จนในปี 2020 จึงเปิดตัว Raspberry Pi 400 (ใช้ชิปเดียวกับ Pi 4 + RAM 4GB) ในรูปแบบคีย์บอร์ดคอมแพ็กต์ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก

ต่อมาเมื่อเปิดตัว Raspberry Pi 500 ก็มีคนตาดีเห็นว่ามีพื้นที่ว่างบน PCB สำหรับสล็อต M.2 ที่ยังไม่ได้ใช้งาน หลายคนจึงเดาว่าจะมีรุ่นใหม่ และคำตอบก็คือ Raspberry Pi 500+ นั่นเอง

คีย์บอร์ด Mechanical คือหัวใจ

สิ่งที่ต่างชัดที่สุดจาก Raspberry Pi 500 คือ คีย์บอร์ด

• ใช้สวิตช์ Gateron KS-33 Blue พร้อมก้าน RAL 7001 Silver Grey ที่ออกแบบพิเศษ ให้สัมผัสและเสียงที่น่าพอใจ

• มีไฟ RGB แยกปุ่ม ที่ตั้งโปรแกรมได้ โดยใช้ RP2040 + QMK เป็นคอนโทรลเลอร์

• ปุ่มถูกออกแบบมาเฉพาะ พ่นสีและเลเซอร์ให้แสงไฟลอดออกมาได้สวยงาม

• รองรับการเปลี่ยนคีย์แคป aftermarket พร้อมมี ที่ดึงปุ่ม แถมมาให้

SSD และการเก็บข้อมูล

• ภายในติดตั้ง สล็อต M.2 พร้อมวงจรครบถ้วน และให้ SSD ขนาด 256 GB (พร้อม Raspberry Pi OS)

• รองรับการเปลี่ยนไปใช้ SSD M.2 2280 รุ่นอื่น ๆ หรือแม้แต่ PCIe peripheral

• ตัวเครื่องออกแบบให้เปิดได้อย่างระมัดระวัง (มีเครื่องมือแถมมาในกล่อง)

• ยังรองรับการบูตจาก SD card หรือ SSD ภายนอกทาง USB

แรงสุดในตระกูล Pi

• มาพร้อม RAM 16 GB LPDDR4X-4267 SDRAM มากที่สุดเท่าที่ Raspberry Pi เคยมีมา

• ใช้งานได้หลากหลาย ตั้งแต่ build server, การจำลอง CFD, รันโมเดล AI/LLM ขนาดใหญ่ ไปจนถึงเปิดแท็บเบราว์เซอร์ “เป็นร้อย ๆ แท็บ” ได้สบาย ๆ

ทีมงานผู้อยู่เบื้องหลัง

โครงการใหญ่แบบนี้คือความร่วมมือของทีมงานทั้ง Raspberry Pi โดยเฉพาะเครดิตแก่ John Cowan-Hughes (ออกแบบอุตสาหกรรม), Simon Martin และ Chris Martin (ออกแบบอิเล็กทรอนิกส์และวิศวกรรมการผลิต)

นี่คือ สุดยอด All-in-One PC ของ Raspberry Pi ที่ทีมงานเชื่อว่าจะเป็นทายาทที่คู่ควรของคอมพิวเตอร์โฮมคลาสสิกในอดีต และพร้อมจะอยู่บนโต๊ะทำงานของคุณแล้ววันนี้! 

ที่มา: Raspberry Pi