Announcement

Collapse
No announcement yet.

สอบถามเรื่องการต่อ Bi-amp กับรีโมทที่ใช้กับคอมครับ

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • สอบถามเรื่องการต่อ Bi-amp กับรีโมทที่ใช้กับคอมครับ

    1. เรื่อง Bi-amp
    ตอนนี้ใช้ NAD c356 กับ Wharfedale Diamond 10.5 อยู่ครับ
    ตัว NAD ให้ Speaker มา 2 ชุด A กับ B ปกติต่อโดยใช้แค่ชุด A สายออกเป็น Bi-wire ต่อกับลำโพง ส่วน B ไม่ได้เปิดใช้ครับ
    แล้วเห็นว่าสามารถต่อแบบ Bi-amp ได้โดย A+B แบบในรูปนี้น่ะครับ


    เลยอยากจะลองต่อดูครับ แต่เนื่องจากไม่มีประสบการณ์การต่อแบบนี้เลยไม่มั่นใจน่ะครับ กลัวจะไปทำอะไรพังเข้าเดี๋ยวงานงอก 555+
    อยากขอคำแนะนำกับคำยืนยันว่า สามารถต่อได้ใช่ไหมครับ ไม่ทำให้อะไรพังแน่นะครับ
    แล้วชุด A หรือ B ควรจะเป็น High หรือ Low ดีครับ หรือต่อยังไงก็ได้ครับ

    ___________________

    2. เรื่องรีโมทใช้กับคอม
    คืออยากหารีโมทมาใช้กับคอมน่ะครับ เวลาฟังเพลงจะนั่ง***งจากคอมมากครับ เพราะเซ็ทลำโพงไว้ไกลจากที่นั่งหน้าคอม
    ไม่สะดวกเวลาจะเปิดปิดเปลี่ยนเพลงในคอม หรือเวลาดูหนังก็ลำบากครับ สายเมาท์กับคีย์บอร์ดยาวไม่ถึงที่นั่ง ควบคุมลำบาก (จริงๆคีย์บอร์ดก็ใหญ่เกะกะ แถมเมาท์ก็ต้องมีแผ่นรองอีก)

    ดังนั้นเลยอยากได้รีโมทมาใช้หน่อยน่ะครับ แต่ไม่รู้ว่าควรจะใช้แบบไหน ราคาเท่าไหร่ ซื้อที่ไหนดี
    อยากได้ที่สะดวกๆหน่อย ควบคุมได้ครอบคลุมเกือบทุกโปรแกรม ใช้เลื่อนลูกศรแทนเมาท์ได้ยิ่งดีครับ

    รบกวนแนะนำด้วยครับ
    ขอบคุณทุกท่านครับ

    **********

    ซื้อรีโมทมาแล้วครับ



    เนื่องจากไปค้นมาหลายเจ้า ของหมดกันซะส่วนใหญ่ เจอแต่เจ้านี้ครับ
    http://zogoshop.lnwshop.com/product/...e-control-htpc

    หลังจากทดลองใช้งาน ตัวรับสัญญาณทำได้ดีครับ รับได้กว้าง กดสะดวก ไม่ค่อยติดขัด
    นั่ง***งจากตัวรับราวๆ 3 เมตร กดได้สบาย น้ำหนักรีโมทเบาด้วย
    เสียบกับ Win7 ใช้งานได้เลย ไม่ต้องลงไดรเวอร์ใดๆ สะดวกมากๆ

    ชอบตรงปุ่นควบคุม Player ทำได้สะดวกดี ใช้กับโปรแกรม Player ได้หลากหลาย
    อย่างของผมใช้กับ PotPlayer กับ foobar2000 เป็นหลัก ใช้งานได้ดีเลย (มีปุ่มสุ่มเล่นเพลงใน foobar2000 ได้ด้วย โคตรชอบ)
    PotPlayer ก็มีปุ่มเลื่อนไปไฟล์ต่อไปได้ สะดวกสำหรับผู้ที่ชอบดูพวกอนิเมะกับซีรีย์ที่มีหลายๆไฟล์

    ตัวรีโมทนี่เห็นหลายตัวแล้ว ชอบทำให้รองรับการทำงานของ Windows Media Center เป็นหลัก
    ซึ่งมันก็สะดวกดีนะครับ กดปุ่มเดียวเข้าโปรแกรมเลย หน้าต่าง Interface ก็สวย ถ้าจัดไฟล์ดีๆได้นี่โอเคเลย
    แต่ผมไม่ได้ใช้เนี่ยสิ เลยเป็นปุ่มที่ไม่จำเป็นไป

    ส่วนข้อเสียก็พวกปุ่มค่อนข้างจะแปลกสักหน่อย หลายๆปุ่มไม่ได้ใช้เลย
    โดยเฉพาะปุ่มตัวเลขนี่ไม่รู้เอาไว้ทำอะไร กดก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น (จริงๆคือใช้ไม่เป็นนั่นเอง 555+)

    ปุ่มควบคุมเมาส์ใช้งานง่ายสะดวกดี กดเลื่อนขึ้นลง แต่ค่อนข้างจะช้าหน่อยต้องกดค้างไว้พอสมควรกว่าจะไปในที่ๆต้องการได้
    แถมไม่ค่อยละเอียดเท่าไหร่ กดสั้นๆแต่ดันทะลึ่งไปซะไกล ต้องค่อยๆเลื่อน 555+

    *สรุปโดยรวมก็ครบเครื่องดีครับ Play/Pause, เปลี่ยนเพลงได้ ก็โอเคแล้ว มีเมาส์ให้ใช้ด้วย (หรือจะสั่งให้ปุ่มควบคุมเมาส์ทำงานแทนลูกศรบนคีย์บอร์ดก็ได้)

    ***
    ประชาสัมพันธ์นิดหน่อย อิอิ
    มี Poppulse T150 มือสองใช้เองมาขายครับ คลิ๊กเลย
    (ขายหาตังสมทบทุนซื้อการ์ดจอใหม่ 555+)
    Last edited by thaiwebon; 7 Sep 2014, 11:44:25. Reason: ซื้อรีโมทมาแล้วครับ

  • #2
    1. ต่อจาก amp ตัวเดียว แต่ใช้ขั้ว 2ชุด ก็ยังเป็น Bi-wire อยู่ดีนะครับ

    เพราะยังไงก็มาจาก amp ตัวเดียวกัน ถ้าจะต่อ Bi-amp ต้องใช้ amp เพิ่มอีกตัว


    ถ้าจะต่อ A B ก็ใช้สายลำโพง 2 ชุด แล้วอย่าลืมเอาตัว bridge หรือ jumper ที่ลำโพงออกด้วย (ถ้ามี)



    2. ผมใช้ตัวนี้อยู่ คุมเมาส์ได้ครับ

    ราคาประมาณ 3 ร้อย จากร้านในรูป หรือติดต่อ user คุณ mezz เจ้าของร้านก็ได้ครับ

    Last edited by osxp; 3 Sep 2014, 11:35:26.

    Comment


    • #3
      1.bi-amp จะตัดความถี่จาก active crossover ปล่อยสัญญาณระดับ line กลางแหลมออกไปเข้าแอมป์แล้วเข้าลำโพงตรง
      อีกชุดปล่อยความถี่ต่ำ ไปเข้าแอมป์อีกตัวแล้วไปเข้าลำโพงทุ้ม
      แต่ bi-wire จะปล่อยสัญญาณ fullrange ออกมาจากแอมป์ แต่ไปตัดความถี่โดยใช้ passive crossover ก่อนจะเข้าลำโพง

      จะเห็นได้ว่าระบบ bi-amp นั้นสามารถตัดความถี่ได้หมดจด แม่นยำ และคมกว่า จากระบบ active crossover ที่ปรับตั้งความชันได้ (ซึ่งก็จะมีผลต่อการชิปของเฟสอีกหากชันมากไป) แต่ไม่ได้หมายความว่าเสียงจะดีกว่า ยังขึ้นกับปัจจัยอีกเยอะครับ

      ในกรณี จขกท สามารถลองได้เลย โดยอาจจะใช้สัญญาณระดับลำโพง ออกมาซึ่งแอมป์น่าจะมี ชุด A B ใช่มั้ยครับ ถ้ามีสายลำโพงเหลือลองดูครับ ออกมายังไงมาเล่าให้ฟังด้วยนะครับ
      แต่ผมเคยลองดู ผมว่าพอเราต่อใช้ร่วมกัน A/B เบสมันจะไม่คมเท่าใช้แค่ชุดเดียวครับ
      2.remote ร้าน d-tech เอามาขายบางครั้ง 99- เองครับ แต่ราคาปกติก็อยู่ 150-299 ประมาณนี้
      Last edited by mckyparty; 3 Sep 2014, 13:05:44.

      Comment


      • #4
        ขอบคุณทั้ง 2 ท่านมากครับ กระจ่างเลย
        เข้าใจผิดมาตลอด ว่าแอมป์ที่มี Speaker 2 ชุด เอามาต่อทั้ง 2 ชุดกับลำโพงคู่เดียวเรียกว่า bi-amp
        จริงๆต้องเรียกว่า bi-wire สินะครับ ต้องต่อแอมป์ 2 ตัว ถึงจะเรียกว่า bi-amp

        ตอนนี้มีสาย bi-wire อยู่น่ะครับ แต่หัว banana ไม่พอ (ขาดอีก 2 คู่)
        ก่ะว่าเดือนหน้าจะซื้อ banana ของดีหน่อยทีเดียวเปลี่ยนยกชุดไปเลยครับ เล็งๆของ CMC ไว้ ราคาไม่แรงมากนัก

        Comment


        • #5
          แอมป์ที่มี Speaker 2 ชุด
          ถ้าเป็น 4 ชาแนล/ หรือ มีขยายแยกทั้ง2 ชุด
          ก็เป็น bi-amp ครับ

          Comment


          • #6
            Originally posted by tiger X-fi View Post
            แอมป์ที่มี Speaker 2 ชุด
            ถ้าเป็น 4 ชาแนล/ หรือ มีขยายแยกทั้ง2 ชุด
            ก็เป็น bi-amp ครับ
            ต้องแยกตัดความถี่ก่อนยิงเข้าแอมป์ด้วยครับ ถึงจะเข้าตำราไบแอมป์ ไตรแอมป์
            ถ้ามีจำนวนช่องเยอะๆยังเรียกเป็นมัลติแชนแนลอยู่เด้อ
            หรือถ้าแอมป์หลายๆชองมัลติแชนแนล แต่มีครอสตัดในตัวแบบนี้ก็เรียกไบแอมป์ หรือไตรแอมป์ได้ ตามการตัดของครอสครับ

            Comment


            • #7
              เรื่องตัดความความถี่ เป็นอีกส่วนนึงครับ
              bi-amp เน้นเรื่อง กำลังขยาย ที่แยกไปขยาย ดอกลำโพง ทวิสเตอร์-วูฟเฟอร์
              ตัวขยายเป็นคนละส่วนกัน
              -------
              เรื่องความถี่ เป็นการตัดความถี่ ให้เหมาะสม กับดอกลำโพง
              Last edited by tiger X-fi; 3 Sep 2014, 21:36:41.

              Comment


              • #8
                พี่เสือผมเรียน soundengineerมาาาาาาาาาา จิงจิ้งงงง
                ครูบอกว่าระบบไบแอมป์ ตัดความถี่ออกเป็น กลางแหลม ชุดนึง เบสชุดนึง แต่ละชุดเอาไปเข้าภาคขยายเรียกไบแอมป์
                ไตรแอมป์ ตัดเป็นสามทาง แหลม กลาง เบส จ่ายให้แอมป์แต่ละชุด สามชุด
                ควอดแอมป์ เดกต้า อะไรก็ว่าไปแล้วแต่ วงจรตัดของ active crossover ฮะ

                ส่วนหลังจากแอมป์จะมี passive ช่วยตัด หรือช่วยป้องกันดอกลำโพงอันนั้นไม่นับค้าบ นับแค่ตัดความถี่ก่อนเข้าแอมป์
                ยกตัวอย่างลำโพง monitor genelec เป็นระบบไบแอมป์ คือมีวงจรครอสตัดก่อนเข้าภาคขยายซึ่งภาคขยายมีสองชุด หลังจากภาคขยายต่อตรงไปยังลำโพงเลย ไม่มี passive ตัดอีก
                Last edited by mckyparty; 3 Sep 2014, 22:09:27.

                Comment


                • #9
                  bi-amp
                  input
                  active crossover (Hi-Frequency) > amp >ดอกลำโพงทวิสเตอร์
                  active crossover (low-Frequency) > amp >ดอกลำโพงวูฟเฟอร์
                  -------------
                  input
                  amp >passive crossover(Hi-Frequency)>ดอกลำโพงทวิสเตอร์
                  amp >passive crossover(low-Frequency) > ดอกลำโพงวูฟเฟอร์
                  ถ้าบอกด้านล่างไม่ใช่ bi-amp ก็ดูแปลกๆนะครับ
                  bi-amp = แอมป์2ตัว

                  Comment


                  • #10
                    ผลลัพธ์น่าคิดเหมือนกันครับ
                    แต่ตอนนั้นที่เรียนผ่านมาเกือบ 20 ปีแล้วไม่ใช่ครับอาจารย์บอกว่าต้องตัดด้วย active crossover เท่านั้น อาจจะเพราะความแม่นยำในการตัด หรือความนิยมในการเซ็ตระบบครับ และค่าแดมปิ้งแฟคเตอร์ที่แย่ลงหากผ่าน passive ซึ่งแบบหลังผมไม่ได้ผ่านตาตอนเรียนเลย แต่ดูไปก็อาจจะเรียกได้เช่นกัน เพราะตอนนั้นเวลาจะเซ็ตงาน studio หรือ PA ก็ใช้ active crosover ตัดก่อนยิงเข้าแอมป์ ถ้าสองทางก็ไบแอมป์ สามทางก็ไตรแอมป์ แต่ส่วนมากแค่ไบแอมป์ก็เหนื่อยพอแล้วครับ ยิ่งแบ่งมากๆ ยิ่ง setup ลำบากมาก ไม่เป็นที่นิยม
                    Last edited by mckyparty; 3 Sep 2014, 22:57:54.

                    Comment


                    • #11
                      เสริมให้พี่เสือครับ ผมก็พึ่งทราบว่า เดี๋ยวนี้ฝรั่งก็เรียกระบบ passive ว่า bi amp ได้เหมือนกัน (เมื่อก่อนเรียกกันว่า dual stereo amp เนื่องจากขับออกมาแบบ fullrange แล้วใช้ passive ตัด) ระบบแบบนี้มีข้อดีเรื่อง กระแสตีกลับ back EMF ทำให้ลำโพงแต่ละตัวเป็นอิสระมากขึ้น

                      Comment


                      • #12
                        Passive Bi-amp น่าจะเป็นการนำมาประยุกต์ใช้ภายในบ้านครับ
                        ถึงได้มีลำโพง Bi-wire (4 ช่อง) แยก passive crossover(hi-low Frequency)
                        ออกจากกัน

                        Traditional Approach with Passive Crossover

                        Bi-wiring

                        Passive Bi-amplification

                        Active Bi-amplification

                        เครดิตhttp://www.anedio.com/index.php/article/bi_amp
                        Last edited by tiger X-fi; 4 Sep 2014, 01:18:01.

                        Comment


                        • #13
                          NAD c356 ดุแววแล้วน่าจะขยายชุดเดียว
                          ให้ Speaker มา 2 ชุด ไว้สำหรับต่อลำโพง Bi-wire

                          Comment


                          • #14
                            ขอบคุณทั้ง 2 ท่าน ที่ช่วยเสริมข้อมูลให้นะครับ ได้ความรู้เพิ่มขึ้นเยอะ

                            อย่างกรณี 356 นี่ ถ้าภาคขยายชุดเดียว เปิด A+B จะทำให้กำลังขับลดลงด้วยหรือเปล่าครับ

                            ในคู่มือก็ไม่ได้แนะนำให้ต่อแบบ A+B บอกแค่ว่า A เป็น Main ส่วน B เป็น second pair

                            Comment


                            • #15
                              ไม่ทำให้กำลังขับลดลงครับ
                              มีช่่องSpeaker มา 2 ชุด ไว้สำหรับต่อลำโพง Bi-wire ครับ

                              Comment

                              Working...
                              X